“พิธา” แนะพรรคประชาชน ตั้งกระทู้สดถาม “นายกฯ แพทองธาร” หลังเตรียมแถลงผลงานรัฐบาล 3 เดือน มอง ที่หาเสียงไม่ได้ทำ ที่ทำไม่ได้หาเสียง หวัง “ยิ่งลักษณ์” เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ตัวเอง


เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 ธันวาคม 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ที่ จ.อุบลราชธานี ถึงการแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือน ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ว่า ในวันแถลงก็เป็นวันเปิดสภาผู้แทนราษฎรพอดี จึงอยากฝากพรรคประชาชนและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรว่า ทำไมไม่ลองตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรีในวันนั้น โดยเฉพาะประเด็นสำคัญเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน MOU 44 พื้นที่ทับซ้อน, ว้าแดง, VAT 15% เป็นต้น ถือว่าเป็นการทำงานในระบบรัฐสภา นายกรัฐมนตรีก็มาตอบเองได้ จะได้ประหยัดค่าแถลงไปด้วย โดยใช้พื้นที่สภาฯ ไปเลย แทนที่จะแถลงคนเดียว ไม่ได้มีโอกาสซักถาม

ผู้สื่อข่าวถามต่อ ผลงานของรัฐบาลจุดใดที่ยังเป็นข้อด้อยต้องปรับปรุงอยู่ นายพิธา กล่าวว่า 3 เดือนที่ผ่านมากับ 3 เดือนที่เราจะเจอ ก็ไม่เหมือนกัน ฤดูฝนกับฤดูฝุ่น พอเป็นฤดูฝน เหนือจรดใต้น้ำก็ท่วม พอท่วมแล้วต้องเข้าใจว่าไม่ได้กระทบแค่สิ่งแวดล้อม แต่กระทบด้านเศรษฐกิจด้วย เป็นฤดูฝน ฤดูฝุ่น ที่ดับฝันประชาชน เรื่องนี้รัฐบาลเท่านั้นที่แก้ปัญหาได้

...

ส่วนที่นโยบายเรือธงของรัฐบาลก็ยังไม่สำเร็จจะต้องเดินหน้าอย่างไร นายพิธา ตอบว่า เรื่อง OCA (พื้นที่อ้างสิทธิ์ในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน) กาสิโน แลนด์บริดจ์ ก็ไม่ได้มีการหาเสียงหรือให้ประชาชนได้รับทราบก่อน แต่บางเรื่อง เช่น การขึ้นค่าแรง ปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงดิจิทัลวอลเล็ต เท่าที่ตามข่าวก็ทราบว่ายังไม่ถึงมือประชาชน กลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เนื่องจากยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ แค่การแจกเงินก็ยังมีปัญหา ที่หาเสียงไว้ก็ไม่ได้ทำ ที่ทำก็ไม่ได้หาเสียง มันหมายความว่าอย่างไร เชื่อว่าผู้นำฝ่ายค้านถามเรื่องนี้ได้ดี

สำหรับถามว่าบกพร่องหรือไม่ นายพิธา ระบุว่า น่าจะเป็นเรื่องที่บกพร่องและน่าจะต้องปรับปรุง ตนไม่ได้ติกันเพื่อทำร้ายทางการเมือง แต่ติเพื่อก่อ เตือนสติในฐานะที่เป็นพลเมืองคนหนึ่ง เป็นอดีตคู่แข่งเคยสัญญาอะไรไว้กับประชาชนก็ควรจะไปเร่งทำเรื่องพวกนั้น รวมถึงเรื่องความท้าทายใหม่ๆ เรื่องที่มีการพูดคุยก็ไม่ได้ทำ ซึ่งเป็นเรื่องความบกพร่องของการจัดลำดับความสำคัญ ตนอยากให้เรียงลำดับใหม่เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง

ขณะเดียวกัน นายพิธา ยังให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ในกรณีที่พรรคประชาชนถูกปรามาสมาตลอดว่าแพ้มาทุกสนาม ว่า ไม่กังวลและขอเปลี่ยนคำปรามาสเป็นแรงผลักดัน ย้ำว่าแข่งกับใครก็ไม่เท่าแข่งกับตัวเอง เมื่อถามอีกว่ามีหลายคนมอง นายพิธา คือเดอะแบกของพรรค นายพิธา ถึงกับร้องโอ๊ย ก่อนจะกล่าวว่า ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี พรรคประชาชน ต่างหากที่แบกตน และในสัปดาห์หน้า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า จะลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี วันที่ 12-15 ธันวาคม ส่วนตนจะกลับมาอีกครั้งวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ซึ่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่คนอยู่บ้านก็หวังจะช่วงชิงเปลี่ยนใจคนให้มากที่สุด

นายพิธา ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ต้องหาในคดีจำนำข้าวสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทยอยออกจากเรือนจำหลังได้รับการพักโทษ จะเป็นการปูทางให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กลับไทยหรือไม่ ว่า ส่วนตัวเชื่อว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกัน คดีเหล่านี้เป็นคดีจำนำข้าวที่ศาลตัดสินจำคุกไปแล้ว อย่างน้อย 3 คน ในมุมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนหวังว่าจะได้รับความยุติธรรมจากการเข้าระบบยุติธรรม อยากให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้ เพราะด้วยอายุของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคนที่เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการมานานถึง 7 ปี ก็หวังว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่ามีส่วนทำให้รัฐเสียหายจริงหรือไม่ ถ้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมและไร้ข้อกังขาไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามในช่วงท้ายว่าการกลับมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะใช้ ทักษิณโมเดล หรือไม่ นายพิธา มองว่าเป็นคนละกรณี ต่างเงื่อนไข เชื่อว่าของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะไม่เหมือนกับของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หากทำอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ประชาชนก็จะกลับมามีความศรัทธาในระบบการเมืองและกระบวนการยุติธรรมมากขึ้นว่าไม่มีอภิสิทธิ์ชนการเมือง.