“นิพนธ์ บุญญามณี” จวก รัฐบาล แจกเงินหมื่นเฟส 2 หวังผลการเมือง ซัดใช้ทรัพยากรชาติ ตกเขียว-เอาเปรียบคู่แข่ง เลือกตั้งท้องถิ่น
วันที่ 21 พ.ย. 2567 นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและอดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะแจกเงินสด 10,000 บาท ให้ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน ใช้วงเงิน 40,000 ล้านบาท ในช่วงก่อนตรุษจีน 2568 หรือวันที่ 29 มกราคม 2568 ว่า ห้วงเวลาดังกล่าวใกล้กับการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น (อบจ.) ทั่วประเทศ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของ กกต. ตนตั้งข้อสังเกตสำคัญต่อประสิทธิภาพของนโยบายนี้ว่า การแจกเงินนี้ไม่ได้ช่วยเศรษฐกิจ แต่เป็นเพียงแค่การลูบหน้าปะจมูกหรือทำแบบไฟไหม้ฟางเท่านั้น เพราะแม้การแจกเงินสดอาจสร้างความสุขชั่วคราวให้ประชาชนได้ แต่รัฐบาลกลับไม่สามารถติดตามข้อมูลการใช้จ่ายได้เหมือนที่เคยวางแผนไว้ในรูปแบบดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งได้ล้มเหลวไปแล้ว และพายุหมุนทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลพยายามวาดภาพนั้น ได้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่โฆษณาเพื่อสร้างคะแนนนิยม เพราะจนถึงขณะนี้ รัฐบาลยังไม่มีคำตอบว่า ผลกระทบเชิงบวกที่ชัดเจนต่อเศรษฐกิจคืออะไร และสำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะเอาเงินจากไหนมาใช้หนี้จำนวนมหาศาลที่กู้มาแจกในนโยบายนี้
“นอกจากนี้ การแจกเงินในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีหน้าแทนที่จะเป็นนโยบายเพื่อช่วยผู้สูงอายุ กลับกลายเป็นนโยบายที่มุ่งสร้างอานิสงส์ทางการเมือง เพราะอีกเพียงไม่กี่วันจะมีการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นผู้สมัครในนามพรรครัฐบาล หรือมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลก็ย่อมได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน คู่แข่งกลับไม่มีทรัพยากรในระดับเดียวกันที่จะสร้างความได้เปรียบเช่นนี้ จึงขอเตือนรัฐบาลว่า ควรมุ่งสร้างนโยบายเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ส่งเสริมการลงทุนเพื่อให้เกิดผลผลิต การจ้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชน โดยเฉพาะการลงทุนด้านผลิตคนที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล AI มากกว่าการแจกเงินที่สร้างภาระหนี้อนาคต และไม่มีผลลัพธ์ในระยะยาว พร้อมเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนจับตามองว่า รัฐบาลนี้จะจัดการกับหนี้สินที่กู้มาผลาญอย่างไร และเตือนว่าอย่าหลงเชื่อกับความสุขระยะสั้น ที่มาพร้อมกับต้นทุนมหาศาล พี่น้องประชาชนต้องได้คำตอบชัดเจนว่า เงินนี้แจกเพื่อใคร เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนจริงๆ หรือเพื่อคะแนนนิยมและความอยู่รอดทางการเมืองของรัฐบาลและพวกพ้อง” นายนิพนธ์ กล่าว
...