ถือเป็นข่าวดี จีดีพีไตรมาส 3 โตได้ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มั่นใจได้ว่าจีดีพีปีนี้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 2.6 เปอร์เซ็นต์ ดีกว่าปีที่แล้วที่ขยายตัวเพียง 1.9 เปอร์เซ็นต์
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการที่รัฐบาลแจกเงินสดหนึ่งหมื่นบาทให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ช่วงปลายเดือนกันยายน
น่าจะกระตุ้นจีดีพีไตรมาส 4 (ตุลาคม–ธันวาคม) ขยายตัวต่อเนื่องไปถึงปีหน้า 2568 อย่างแน่นอน!!
สภาพัฒน์ประเมินว่าจีดีพีปี 2568 จะกระเด้งขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 2.8 เปอร์เซ็นต์
หรือเผลอๆจะโตถึง 3.3 เปอร์เซ็นต์??
เป็นสัญญาณชี้ว่าเศรษฐกิจไทยซึ่งซึมกระทือมานาน 4 ปี เริ่มพลิกกลับเป็นขาขึ้น และยังจะขึ้นต่อไปและต่อไป
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าการที่รัฐบาลนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ประกาศแจกเงินสดหนึ่งหมื่นบาทลอต 2 ให้กลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับแจกแต๊ะเอียฉลองเทศกาลตรุษจีนต้นปีหน้าอีก 4 ล้านคน
เหตุที่รัฐบาลเลื่อนกำหนดแจกเงินลอต 2 ไปต้นปีหน้า เพื่อให้เม็ดเงินอีกสี่หมื่นล้านบาทไปกระตุ้นกำลังซื้อช่วงไตรมาสแรกปี 2568 ให้ยังเป็นขาขึ้นต่อไป
จากนั้นรัฐบาลจะเปิดท่อจ่ายเงินหนึ่งหมื่นบาทลอตที่ 3 ช่วงเทศกาลสงกรานต์เดือนเมษายน
เพื่อให้เม็ดเงินแจกฟรีอีกก้อนใหญ่ไปช่วยค้ำยันเศรษฐกิจกลางปีหน้าไม่ให้พลิกกลับมาเป็นขาลง
และรัฐบาลจะเปิดท่อจ่ายลอตที่ 4 เพื่อปิดจ๊อบในเดือนสิงหาคม
เพื่อให้มีเม็ดเงินอีกหลายหมื่นล้านบาทไปกระตุ้นจีดีพีปีหน้าไม่ให้ตํ่ากว่า 2.8 เปอร์เซ็นต์
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าการที่รัฐบาลแบ่งการแจกเงินหนึ่งหมื่นบาทเป็น 4 รอบ ให้กับผู้ลงทะเบียนขอรับเงินแจกฟรี 36 ล้านคน
จะทำให้มีเม็ดเงินก้อนใหญ่กระจายไปกระตุ้นกำลังซื้อหลายรอบ และช่วยประคองเศรษฐกิจไทยให้จีดีพีโตต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปียันปลายปี
...
ซึ่งน่าจะดีกว่าแจกเงินก้อนใหญ่ครั้งเดียวจบเลย
เมื่อรวมกลุ่มเปราะบางที่ได้รับแจกเงินสดหนึ่งหมื่นบาทลอตแรกไปแล้ว 14.5 ล้านคน กับกลุ่มผู้สูงอายุที่กำลังจะได้รับแจกเงินสดหนึ่งหมื่นบาทเฟส 2 ต้นปีหน้าอีก 4 ล้านคน รวมเป็น 18.5 ล้านคน
จะเหลือผู้ที่ลงทะเบียนรอรับแจกเงินหนึ่งหมื่นบาทคิวที่ 3 และคิวที่ 4 อีกราว 17 ล้านคน
แต่จะมีผู้ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเนื่องจากเป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาทต่อปี
หรือมีรายได้เกิน 70,000 บาทต่อเดือน
หรือเป็นผู้มีเงินฝากรวมทุกบัญชีเกิน 500,000 บาทต่อราย
ซึ่งจะหมดสิทธิรับเงินหมื่นบาท อีกราว 3 แสนคน
เท่ากับยังเหลือผู้มีสิทธิรับเงินแจกฟรีกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 3 และรอบ 4 อีกราวๆ 16 ล้านคน
รัฐบาลยืนยันว่าผู้ที่ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจะได้รับเงินหนึ่งหมื่นบาททุกคน
แม้ต้องรอนานหน่อย แต่จะได้เงินหมื่นบาทไปใช้จ่ายอย่างแน่นอน
ถือว่ารอช้าดีกว่าไม่ได้รอ แจกช้าดีกว่าไม่แจกนะโยม.
"แม่ลูกจันทร์"
คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม