นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดผู้นำภาคเอกชนของเอเปค ชี้บริการสุขภาพสร้างความมั่งคั่งแท้จริง ชงไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์นานาชาติ ก่อนพบเยาวชนไทยโครงการ VoF ดีใจต่างชาติสนใจซอฟต์พาวเวอร์

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2567 เวลา 16.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลิมา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 12 ชั่วโมง) ณ เดอะ แกรนด์ เนชั่นนอล เทียร์เตอร์ ออฟ เปรู กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดผู้นำภาคเอกชนของเอเปค (the APEC CEO Summit) ว่ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ขึ้นกล่าวในที่ประชุมนี้ สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ถือเป็นสิ่งสำคัญเกี่ยวพันโดยตรงกับความท้าทายและโอกาสทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยเชื่อว่าระบบสาธารณสุขถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน เป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงของมนุษย์ และเป็นความมั่งคั่งที่แท้จริงทางเศรษฐกิจของไทย ด้วยเหตุนี้จึงภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่บรรลุเป้าหมายระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ “โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค” (Universal Health Coverage) หรือ UHC ตั้งแต่ปี 2545 ทำให้คนไทยเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่ราคาไม่แพงแต่มากด้วยคุณภาพมีความเท่าเทียม ยาวนานกว่า 22 ปี พูดได้ว่าคนไทยมากกว่า 99% มีประกันสุขภาพแล้ว ขณะนี้รัฐบาลได้ประกาศนโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่” นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาให้บริการอย่างรวดเร็วทั้งระบบ ด้วยค่าใช้จ่ายประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เหมือนเดิมเพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้สึกที่ดี มีศักดิ์ศรี ที่เป็นผู้จ่ายค่าบริการ ไม่ใช่มาขอรับการรักษาฟรีจากรัฐ

...

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อยากให้เอเปคสนับสนุนคนในทุกช่วงวัยใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี เนื่องจากประชากรผู้สูงอายุมีเพิ่มขึ้น เอเปคจึงควรมีบทบาทสร้างการมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุในการพัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพ และสนับสนุนให้สภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปค หารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งเสริมการจ้างงานสำหรับแรงงานสูงอายุ และจากแนวคิด the Care and Wellness Economy ที่ผสมผสานสุขภาพ การท่องเที่ยว และนวัตกรรม โดยเพิ่มการให้การบริการดูแลอย่างจริงใจนั้น เชื่อว่าจะสามารถมอบโอกาสมากมายที่สามารถส่งเสริมสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาวได้ ประเทศไทยจะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพอย่างแข็งขัน และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพที่แข็งแกร่ง สิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสูง มีผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะ และมีต้นทุนที่เอื้อมถึง โดยที่ไทยพร้อมจะเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ โดยจะเดินหน้าทำงานเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนระหว่างประเทศ และมีส่วนร่วมกับเขตเศรษฐกิจเอเปค รวมถึงชุมชนธุรกิจเอเปคต่อไป เพื่อสร้างระบบนิเวศทางการแพทย์ที่สมบูรณ์ และเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในภูมิภาคและพื้นที่อื่นๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเข้าร่วมประชุมผู้นำภาคธุรกิจเอเปค น.ส.แพทองธาร ได้พูดคุยและร่วมถ่ายภาพกับผู้แทนเยาวชนไทยในโครงการ APEC Voices of the Future (VoF) โอกาสนี้ ผู้แทนเยาวชนไทย ได้ให้กำลังใจถึงน.ส.แพทองธาร ว่า “อยากจะบอกว่าเป็นกำลังใจให้ท่านนายกฯ จริงๆ เพราะเราทราบว่างานทุกอย่างหนักมาก และพวกเราก็เหมือนเป็นตัวแทนของเยาวชนไทย ที่ได้เห็นกระบวนการหลายๆ อย่าง ตอนที่มาเพื่อนหลายคนก็พูดถึงเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ไทยเยอะมาก อาทิ อาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น และเฟสติวัลต่างๆ โดยบอกว่ารักประเทศไทย จึงรู้สึกภูมิใจแทนคนไทยทุกคนที่มีต่างประเทศที่รักประเทศไทยได้มากขนาดนี้”