จำนนโดยสภาพ เศรษฐกิจยุครัฐบาลเพื่อไทยยอบแยบเต็มทน
ก็ขนาดที่คฤหาสน์ “จันทร์ส่องหล้า” ของโคตรอัครมหาเศรษฐียัง “ต้มมาม่า” เลี้ยงแขก จากปากของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนาน ยืนยันเอง วันชุมนุม “ขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม” ต่อสายระดมขาใหญ่พรรคร่วมรัฐบาล
มุดเข้าถ้ำ “นายใหญ่” เพื่อปาร์ตี้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ไม่ได้มีเรื่องการเมือง แทรกแซง ครอบงำใช้อำนาจของเจ้าของคฤหาสน์ ล็อบบี้เสียง เดินหมากตั้ง “นายกฯในครอบครอง” แต่ประการใด
ตลกมา ตลกกลับ แต่ผู้คนในสังคมจะขำด้วยหรือเปล่า
เอาแบบที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ เบอร์ใหญ่ของค่ายประชาชน เบรกมุกฮา หักอารมณ์เป็นเรื่องซีเรียส
“ทักษิณ” ควรตอบแบบให้เกียรติประชาชนมากกว่านี้
ยอมรับกันไปเลยว่า แกนนำพรรคร่วมเข้าไปขอคำปรึกษาในฐานะผู้มีบารมีทาง
การเมือง ยังจะเข้าท่าซะกว่า ไม่ใช่ทำเหมือนกำลังท้าทายเสียงวิจารณ์ของสังคมไทย
ในอาการยอมรับในทีว่า “ฉันครอบงำพรรคเพื่อไทยแล้วจะทำไม”
“นายใหญ่” เหมือนส่งสัญญาณว่า “รอบนี้ฉันมีตั๋ว” สะท้อนประจานจุดอ่อนระบอบประชาธิปไตยประเทศไทย มีคนมีเส้นมีสาย มีเครือข่ายระบบอุปถัมภ์หรือมือที่มองไม่เห็นคอยเชิด
ตัวตึงค่ายส้มได้ย้อนเหลี่ยมเขี่ยฝอย “ใบสั่ง–ตั๋ว” ปริศนาคาบลูกคาบดอก “วิโรจน์” ตอกย้ำแฝงเตือนนิ่มๆ กระตุกขากางเกง “นายใหญ่” อย่า “ลำพอง” ทั้งที่รู้ด้วยสภาพ “เส้นมาม่ากำลังอืดเต็มหม้อ” จนล้น
“ทักษิณ สไตล์” ก้มหมอบต่ำได้ไม่นาน อาการเดียวกับปรากฏการณ์ปลาช่อนจำศีล ถึงจังหวะโผล่มาหายใจแต่ละที ฮุบออกซิเจน เล่นเอาน้ำบาน คลื่นกระฉอก กระเพื่อมไปทั้งคุ้งน้ำ
...
พรานเบ็ด พรานแห นักล่าปลา หูตาตื่น วิ่งดักกันจ้าละหวั่น
ตามจังหวะใส่เสื้อแดง แขวนกระดิ่ง วิ่งล่อเป้า พรรคเพื่อไทยร่อนโปรแกรมล่วงหน้า รถแห่หาเสียงป่าวประกาศทั่วเมืองอุดรธานี 13–14 พฤศจิกายน รอชื่นชมบารมี “ทักษิณ” นำหางเครื่องชุดใหญ่ ปราศรัยช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หาเสียงชิงเก้าอี้นายก อบจ.
จ่อควงไมค์ร่าย “กลอนพาไป” จากที่เรื้อเวทีไปกว่า 20 ปี
อารมณ์ “นายใหญ่” ออกตัวเขินๆ อาการแค่ประหม่า แต่หาได้สนเงี่ยงแหลมๆคมๆปมกฎหมายไม่ เพราะผ่านการการันตีโดย “เซียนรัฐธรรมนูญเพื่อไทย” ทั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ไปยัน “เสี่ยเต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กุนซือนายกฯ
ยืนกรานเสียงแข็ง “ทักษิณ” ทำได้ในฐานะ “ผู้ช่วยหาเสียง” เรียงหน้าด่ากลับขบวนการจ้องดักเจาะยาง บลัฟพวกขี้อิจฉาอย่าแข่งวาสนา ลีลาเฮี้ยวๆ เบิ้ลเครื่องรถแห่กลบเสียงโห่ฮา โหมโรงมหกรรมอีเวนต์ใหญ่ โคตรเซียนการตลาดยี่ห้อ “ทักษิณ” จัดเต็มในการบุกอุดรฯเมืองหลวงคนเสื้อแดง
ไฟต์เดิมพันที่มีความหมายมากกว่ายึดเก้าอี้นายก อบจ.
นั่นก็เพราะสัญญาณการเลือกตั้งใหญ่รอบที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยเสียฐานใหญ่ โดนค่ายส้มเจาะไข่แดง แย่ง สส.เขต 1 อุดรธานี คนของพรรคก้าวไกลที่แปลงเป็นพรรคประชาชน ตีโซนเมืองแตกกระเจิง
คนอุดรฯยกระดับปรับโหมดการเลือกตั้งเชิงคุณภาพ
เมืองหลวงเสื้อแดงสะท้อนการเปลี่ยนแปลงผ่านศึกเลือกตั้งใหญ่ สส. ตั้งแต่พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้เผยธาตุแท้ หักขั้วประชาธิปไตย พลิกข้างจัดรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้วกับขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม
อารมณ์เคลียร์ใจฟื้นความหลัง สมรภูมิ “ยิงกระสุนข้างเดียว” ทีม “นายใหญ่” ยังเป็นต่อก็จริง แต่ “ตัวชี้วัด” สำคัญ มันอยู่ที่ “แต้มฟรี” ของค่ายส้ม ข้ามช็อตเกมยาวไปถึงศึกเลือกตั้งใหญ่รอบต่อไป
คะแนนนิยมคนชั้นกลาง โซนเมืองรอบใน เขตเทศบาล ปัญญาชน คนรุ่นใหม่ ที่ปักหมุดกับค่ายส้มแบบถาวร มีแต่จะเพิ่มตามเงื่อนเวลา “นิวโหวตเตอร์” แต้มฟรีเชิงคุณภาพ ไม่มีทางกลับไปเลือกเพื่อไทย
ตามจังหวะลุยเก็บแต้มมัดจำ “หนุ่มทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ตัวเรียกแต้มกองทัพส้ม บินกลับจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด อเมริกา ภารกิจจำเพาะเจาะจง นำทีม “ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล ตัวจี๊ด ตัวตึง พรรคประชาชน ลุยหาเสียงสนาม อบจ.อุดรธานี ตามประกบหายใจรดต้นคอ “ทักษิณ”
ทีมเด็กพร้อมแพ้แบบสนุกสนาน ปราชัยอย่างผู้มีความหวัง.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม