“อิ๊งค์” ถึงสหรัฐฯเรียกถกทีมไทยแลนด์มอบนโยบายรัฐบาลก่อนบินไปร่วมเวทีผู้นำเอเปกที่เปรู “ภูมิธรรม” ลั่นไม่ยอมเสียดินแดนเกาะกูดแม้ตารางนิ้วเดียว จวกแก๊งปั่นจินตนาการพูดให้เป็นปัญหา อารมณ์เสีย “จบเรื่องนี้ได้แล้ว” “เสี่ยหนู” เอามั่งยันเกาะกูดเป็นของไทย สำบัดสำนวนไม่ได้ซดมาม่าที่บ้านจันทร์ส่องหล้า “อ้วน” แจง “นายใหญ่” ช่วยหาเสียงได้ พท.ชี้เป้า “ธนาธร-พิธา” ก็ทำเหมือนกัน อสส.ตอบศาล รธน.แล้วคดีร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ จับตาที่ดินเขากระโดง ร้อน “อนุทิน” ยันไม่มีเอี่ยวช่วยเพื่อน “สุริยะ” กร้าว รฟท.ไม่ยอมเสียที่ให้ใคร สั่งสู้กรมที่ดินสุดซอย “ชูศักดิ์” ไม่สนหากต้องชะลอ ก.ม.ประชามติ 180 วัน ยืนกรานจุดยืนเสียงข้างมากชั้นเดียว
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะเดินทางถึงนครลอสแองเจลิส สหรัฐฯ เตรียมเป็นประธานประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ ประจำภูมิภาคอเมริกา (ทีมไทยแลนด์) มอบนโยบายสำคัญของรัฐบาล รวมถึงใช้โอกาสนี้พบปะชุมชนชาวไทย ก่อนบินไปร่วมประชุมผู้นำเอเปก ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู
“อิ๊งค์” ถึงสหรัฐฯ ถกทีมไทยแลนด์
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 10 พ.ย. (ตามเวลาท้องถิ่นของนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ด้วยเที่ยวบินพิเศษของกองทัพอากาศ มีนายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ไทย ประจำกรุงวอชิงตัน นายต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรอให้การต้อนรับ มีการกำหนดการปฏิบัติงานในวันที่ 11 พ.ย. (ตามเวลาของนครลอสแอนเจลิส ช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง) น.ส.แพทองธารจะเป็นประธานการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ ประจำภูมิภาคอเมริกา เพื่อมอบนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล พร้อมรับฟังปัญหาเรื่องของความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับประเทศในภูมิภาค รวมถึงใช้โอกาสนี้พบปะชุมชนชาวไทยที่วัดไทยลอสแองเจลิส และร่วมรับประทานอาหารค่ำ โดยมีเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ
...
“อ้วน” ลั่นไทยไม่ยอมเสียดินแดน
ต่อมาเวลา 10.00 น.วันที่ 11 พ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด ว่า ไปด้วย 2 วัตถุประสงค์ คือ ตรวจเยี่ยมกำลังพลของกองทัพเรือ สอบถามเรื่องราวจากคนที่ดูแลทางทะเลและทางบก กองปฏิบัติการชายแดนมีความแข็งแรงยืนยันจะปกป้องดินแดนบริเวณเกาะกูด ไม่ยอมเสียผืนแผ่นดินแม้แต่ตารางนิ้วเดียว กองทัพเรือสามารถปกป้องอธิปไตยบริเวณเกาะกูดได้ไม่มีปัญหา จากการสอบถามความสัมพันธ์ของนายทหารที่ดูแลของทั้ง 2 ประเทศ มีความสัมพันธ์ที่ดี และฝ่ายนั้นยอมรับแล้วว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ประเทศไทย ส่วนเรื่องเอ็มโอยู 44 (MOU 44) ที่จะมีการคุยกัน ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับดินแดน ส่วนด้านการท่องเที่ยวเกาะกูด ตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ โรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวยอดจองหายไป 30% แต่หลังจากทำความเข้าใจก็ดีขึ้น
อย่าจินตนาการพูดให้เป็นปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไรเพื่อให้เกิดความมั่นใจกับนักท่องเที่ยว นายภูมิธรรมตอบว่า จบตามกระบวนการ ฝ่ายที่ออกมากระทุ้งก็กระทุ้งไป เพราะเขายังไม่เข้าใจสิ่งที่เป็นจริง เราพยายามชี้แจง และจำเป็นต้องมีคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย-กัมพูชา (เจทีซี-JTC) ตามกรอบที่กำหนด เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับอธิปไตย ต้องรอดูผลการเจรจาก่อน อย่าใช้จินตนาการมาพูดจนกลายเป็นปัญหาไป ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เมื่อถามว่าการตั้งคณะกรรมการฝ่ายไทยจะชัดเจนเมื่อไหร่ นายภูมิธรรมตอบว่า นายกฯเคยพูดว่าจะชัดเจนหลังท่านกลับมาจากเอเปก เชื่อว่าทุกอย่างไม่น่ามีปัญหา กระทรวงการต่างประเทศเตรียมการเรื่องนี้อยู่ เท่าที่ดูเราพยายามเปิดให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาเป็นคณะกรรมการให้มากที่สุด เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะทำให้คณะกรรมการเจทีซีลำบากขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่ยืดเยื้อและไม่สะดุดแน่นอน
อารมณ์เสียบอกจบเรื่องนี้ได้แล้ว
เมื่อถามว่ามองว่าประชาชนบางส่วนยังไม่ไว้วางใจรัฐบาลเท่าที่ควร นายภูมิธรรมย้อนถามว่า ประชาชนส่วนไหน เพราะมีไม่กี่ส่วนนี่แหละ ประชาชนส่วนใหญ่ที่เกาะกูดเขายังรู้สึกไม่ดีเลยว่าทำไมมาพูดในสิ่งที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะเขารู้สึกว่ามันกระทบกระเทือนต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเขา รอให้มีผลการเจรจาออกมาก่อน และคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร จากนั้นค่อยมาถกเถียงกันดีกว่า พร้อมกับกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “เรื่องนี้จบได้แล้วครับ ไปเรื่องอื่นๆ” เมื่อถามย้ำว่าล่าสุดมีข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการดีลลับกับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกฯกัมพูชา นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่มีดีลลับอะไรทั้งนั้น คนไม่มีบทบาทไม่มีหน้าที่จะเข้า ไปดีลลับได้อย่างไร คณะกรรมการยังไม่ตั้ง ต้องรอคณะกรรมการทั้งสองฝ่ายคุยกัน ซึ่งก็มาจากหลายส่วน
“หนู” เอามั่งยันเกาะกูดของไทย
ที่เกาะกูด จ.ตราด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อม น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นำผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เดินทางลงพื้นที่เกาะกูด สร้างความมั่นใจให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยว หลังมีการปั่นกระแสข่าวข้อพิพาทเรื่องเกาะกูด จนอาจกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ ความเชื่อมั่นต่อผู้ประกอบการและภาคการท่องเที่ยว มีนายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผวจ.ตราด นายไพรัช สร้อยแสง นายอำเภอเกาะกูด ต้อนรับ นายอนุทินกล่าวมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ พร้อมรับฟ้งปัญหาจากประชาชนในมิติต่างๆ เพื่อนำไปสู่การแก้ไข พร้อมยืนยันเกาะกูดเป็นส่วนหนึ่งของไทยไม่มีใครเอาเกาะกูดไปเป็นของประเทศอื่นได้ เกาะกูดเที่ยวได้ตามปกติ วันนี้มาสร้างความมั่นใจว่าที่นี่คือแผ่นดินไทย
พลิ้วไม่ได้กินมาม่าที่บ้านจันทร์ฯ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่าการเรียกแกนนำ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า แค่ไปกินมาม่า ไม่มีการครอบงำแทรกแซงอะไร นายอนุทินตอบว่า กินไวไวทุกวัน ชอบรสหมูต้มยำมะนาว เวลาไปเยี่ยมนายทักษิณบางทีท่านก็เอามาม่ามาเลี้ยง เพราะบางครั้งไปตอนบ่าย พอหิวก็เอามาม่ามาเลี้ยง แต่วันที่ 14 ส.ค. ตรงกับวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ไม่ได้กินออกมาก่อนเพราะมีนัด วันดังกล่าวไปคุยกับหัวหน้าพรรคทั้งหลายเพื่อติดตามสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร
“อ้วน” แจง “ทักษิณ” ช่วยหาเสียงได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เตรียมลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานีว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับนายทักษิณ ต้องไปถามท่าน แต่เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ทุกฝ่ายและทุกพรรคปฏิบัติตามข้อกฎหมายที่อนุญาตให้ทำได้ คนที่เป็นสมาชิกหรือผู้ช่วยหาเสียงสามารถทำได้ ทุกพรรคทำได้เหมือนกัน แม้แต่พรรคประชาชน (ปชน.) ก็สามารถทำได้ ตราบใดที่กฎหมายอนุญาตให้ทำ เมื่อถามว่าในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ประเมินหรือไม่ว่าการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ดุเดือดมากขึ้น เพราะพรรค ปชน.ส่งแกนนำคนสำคัญลงพื้นที่ นายภูมิธรรมตอบสั้นๆว่า ไม่ประเมิน เป็นกระบวนการเลือกตั้งตามปกติ
ชี้เป้า “ธนาธร–พิธา” ก็ทำเหมือนกัน
ขณะที่ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานะนายทักษิณคือผู้ช่วยหาเสียงที่ถูกต้องตามกฎหมาย ปัจจุบันไม่ได้รับโทษใดๆตามกระบวนการยุติธรรม ย่อมมีสิทธิพลเมืองขั้นพื้นฐานมีสิทธิทางการเมืองในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ขณะเดียวกันนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ล้วนถูกตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง กลับยังเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มการเมืองของตนเองอยู่ เพียงแต่กระแสจากบางฝ่ายมุ่งอคติปิดตาข้างเดียว เลือกข้างโจมตี โดยไม่ตั้งคำถามถึงการครอบงำของอดีตผู้นำพรรคทั้ง 2 คนต่อพรรคการเมืองในปัจจุบัน ขบวนการส่งต่อข้อมูลข่าวสารเช่นนี้ยิ่งทำให้สังคมแตกแยก ฝากถึงพวกนักปั่นที่ชอบบิดเบือนข่าวสาร มุ่งหวังแต่ผลทางการเมือง ยุยงคนในชาติแตกแยก ทั้งกรณีพื้นที่ทับซ้อนเอ็มโอยู 44 หรือเชื่อมโยงอดีตนายกฯทักษิณ ครอบงำพรรคเพื่อไทย
พท.เตรียมเปิดที่ทำการพรรคใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 19 พ.ย. พรรคเพื่อไทยเตรียมจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 เพื่อรับรองผลการดำเนินงานของพรรค ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด แต่ยังไม่มีการปรับโครงสร้างพรรค การประชุมครั้งนี้จะจัดประชุมที่อาคารวอยซ์ทีวีเดิม ที่มีการปรับปรุงให้เป็นที่ทำการพรรคแห่งใหม่เป็นครั้งแรก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะเข้าร่วมประชุมพรรคด้วย
อสส.ตอบศาล รธน.คดีล้มล้างฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานอัยการสูงสุด ถึงความคืบหน้ากรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่านายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุด ขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร ทั้งนี้มีรายงานว่าเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ได้ลงนามตอบถ้อยคำต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว มีรายละเอียดในการสอบถ้อยคำทั้งทางฝั่งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง ในส่วนผู้ถูกร้องทราบว่าไม่มีการสอบถ้อยคำนายทักษิณแต่อย่างใด
ยังไม่สรุป จนท.รัฐดองคดีตากใบ
ที่รัฐสภา นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ประธานอนุกรรมาธิการพิจารณาผลกระทบคดีสลายการชุมนุมเหตุการณ์ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ กล่าวว่า วันที่ 14 พ.ย. อนุ กมธ.จะพิจารณากรอบแนวทางดำเนินงาน มีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณา เช่น การทำคดีล่าช้าจนขาดอายุความ การตามตัวผู้ต้องหา จำเลย เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การปรากฏตัวของผู้ต้องหาหลังจากคดีขาดอายุความ ได้บทสรุปอย่างไร แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่คนใดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ส่วนการตั้งข้อสังเกตรัฐบาลไม่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ คงต้องรับฟังจากหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ยังสรุปไม่ได้ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ อย่างไรก็ตามคงไม่สามารถหาแนวทางฟื้นคดีกลับมาได้อีก เพราะเรื่องจบแล้ว เมื่อถามถึงกระแสหรือความเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ตากใบ หลังคดีขาดอายุความ นายกมลศักดิ์ตอบว่า ปกติดีไม่มีอะไร กระแสไม่เหมือนช่วงใกล้ขาดอายุความ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีผลสำรวจนิด้าโพลที่ระบุว่า พรรค พท.ได้รับผลกระทบเรื่องคดีตากใบมากที่สุดว่า “เอาอีกแล้ว เรื่องนี้ไม่ต้องคุยแล้ว เรื่องนี้ไม่มีอะไรแล้ว”
“อนุทิน” ยันไม่เอี่ยวคดีเขากระโดง
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผลสรุปกรมที่ดินกรณีที่ดินเขากระโดงว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีแทรกแซง ไม่มีความกดดันนี่คือสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ หากจะเอาให้ชัดเจนต้องไปถามคนที่ทำเรื่องนี้ว่ามีแรงกดดันอะไรลงไปหรือไม่ เมื่อถามถึงข้อวิพากษ์ วิจารณ์เกี่ยวกับการลาออกของอธิบดีกรมที่ดินมาเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าว นายอนุทินตอบว่า เขาต้องการไปดูแลสุขภาพของภรรยา เป็นคนยับยั้งการลาออกของท่าน 2-3 รอบ แต่ท่านอธิบายถึงความจำเป็น ส่วนคณะกรรมการที่ศึกษาที่ดินเขากระโดง แต่งตั้งขึ้นสมัยตนเป็น รมว.สาธารณสุข ก่อนเข้ามาเป็น รมว.มหาดไทย ห่างกัน 6 ปี ไม่ว่าผลตัดสินเป็นอย่างไรเป็นเรื่องของคณะกรรมการฯ อยากจะยุ่งก็ยุ่งไม่ได้เพราะไม่ใช่อำนาจรัฐมนตรี เรื่องมันจบที่กรมที่ดินจบที่คำสั่งศาล หากใครมีประเด็นก็ไปฟ้องศาล ไม่มีคำว่าช่วยเพื่อน
“สุริยะ” ลั่น รฟท.ไม่ยอมเสียที่ให้ใคร
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ หากเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แม้ตารางวาเดียวก็เสียไปไม่ได้ สั่งการให้รฟท.ไปเช็กดู ได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. รฟท.ได้ยื่นขอต่อศาลปกครองกลาง แจ้งว่าอธิบดีกรมที่ดินปฏิบัติตามคำพิพากษาไม่ครบถ้วน ขอให้ศาลปกครองพิจารณาหรือไต่สวนกำหนดวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ในการร่วมกันชี้แนวเขตที่ดินของรฟท. และให้พิจารณามีคำสั่งในประเด็นต่างๆต่อไป ซึ่งผู้ว่าการ รฟท.ได้ทำหนังสือถึงกรมที่ดิน ยื่นคัดค้านหนังสือของอธิบดีกรมที่ดิน ตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครองมาตรา 44 ที่ระบุว่า ต้องยื่นภายใน 15 วัน จะครบกำหนดในวันที่ 12 พ.ย. เราส่งไปเรียบร้อยแล้ววันนี้ (11 พ.ย.) รฟท.รู้กฎหมายอยู่ จะไปหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดิน 900 กว่าแปลง ยืนยันว่าจะดูให้รอบคอบ
เรื่องนี้ไม่ช้าขอให้จบในชั้น จนท.
เมื่อถามว่าต้องพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯหรือไม่ นายสุริยะตอบว่า คิดว่าเป็นระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ เมื่อกรมที่ดินบอกว่าเป็นที่ของเขาไม่ได้เป็นที่ของ รฟท. แต่ รฟท.เชื่อว่ามีหลักฐานเพียงพอ ก็ดำเนินการไป เมื่อถามว่ามีการมองว่าที่ดินหลายแปลงในเขากระโดงเป็นของตระกูลชิดชอบ นายสุริยะตอบว่า ไม่อยากให้เรื่องขยายเป็นประเด็นการเมือง อยากให้ว่าไปตามกระบวนการ หรือทาง รฟท.เห็นว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร เราต้องพยามรักษาสิทธิของ รฟท.ไว้ เมื่อถามย้ำว่าเรื่องนี้จะจบในระดับเจ้าหน้าที่ ไม่ขยายเป็นประเด็นการเมืองใหญ่โตใช่หรือไม่ นายสุริยะตอบว่า “ครับ คิดว่าเป็นเรื่องที่ปฏิบัติตามกฎหมาย อย่าไปเอาว่าใครอยู่พรรคไหน”
“ชูศักดิ์” ไม่สนชะลอ ก.ม.ประชามติ
วันเดียวกัน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติว่า พรรคเพื่อไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ไปแล้วว่าจะใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว คงยืนตามนั้น เมื่อถามว่าหากกรรมาธิการร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติมีแนวทางไม่ตรงกับมติของ สส.พรรค พท. จะคัดค้านและอาจทําให้กฎหมายต้องชะลอไปอีก 180 วันหรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า แน่นอน หาก สส.ไม่เห็นด้วยก็ต้องรอ หลังจากผ่านไป 180 วันค่อยว่ากัน เพราะระบบของเราคือเอาความเห็น สส.เป็นหลัก เมื่อถามว่าหากเป็นเช่นนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญในรัฐบาลชุดนี้ จะเป็นไปได้ยากใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนอยู่แล้ว โดยเฉพาะการเร่งรัดให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็วที่สุด ดังนั้นต้องเร่งรัดโดยเร็ว กำลังคิดอยู่ว่าจะหาวิธีการใดทำให้กระบวนการรวดเร็วขึ้น และทำให้รัฐธรรมนูญเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้ อย่างน้อยก็มี ส.ส.ร.เป็นตัวแทนประชาชนมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ถือว่าได้ทำหน้าที่แล้ว
ยกเหตุผลรื้อซาก รธน.เผด็จการ
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีรัฐบาลพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ว่า จุดเริ่มต้นที่ให้ประชาชนลงประชามติ รัฐบาลขณะนั้นใช้ทุกองคาพยพของรัฐ ทั้งฝ่ายความมั่นคง ข้าราชการทุกภาคส่วน ไปรณรงค์ให้ประชาชนรับรัฐธรรมนูญ 2560 ได้ฝ่ายเดียว ส่วนฝ่ายรณรงค์ไม่รับจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมยัดข้อหาจับขังเรือนจำเป็นจำนวนมาก ถามว่าที่ยกเป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง ปราบได้จริงหรือแค่วาทกรรม เพราะการทุจริตยังคงมีอยู่ การทุจริตยังไม่ลดลงปราบโกงตรงไหน ต้องยอมรับว่าการทำงานของรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะอำนาจอยู่ในมือข้าราชการ ทุกวันนี้องค์กรอิสระสถาปนาเป็นอำนาจที่ 4 มีอำนาจเหนือฝ่ายการเมือง ประเทศชาติขับเคลื่อนด้วยองค์กรอิสระ สามารถชี้เป็นชี้ตายรัฐบาลได้ จึงต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างเป็นประชาธิปไตย รัฐบาลควรเปิดเวทีสาธารณะทั่วประเทศชี้แจงให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ช่วยกันระดมความคิด เพราะรัฐธรรมนูญเป็นของคนไทยทุกคน
สว.ห่วงประชามติผ่านไปรษณีย์
นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. กมธ.ร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ กล่าวถึงข้อเสนอการปรับเกณฑ์ประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ใช้เสียงข้างมากชั้นครึ่ง เพื่อประนีประนอมความเห็นต่างระหว่าง สส.กับ สว. เรื่องหลักเกณฑ์ประชามติว่า การใช้เกณฑ์เสียงข้างมากชั้นครึ่งคือมีผู้มาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิ และได้เสียงเห็นชอบเป็นเสียงข้างมากของผู้ออกมาใช้สิทธิ เป็นประเด็นพอรับได้ แต่ยังไม่ได้คุยกับ สว.ที่ร่วมเป็น กมธ.อีก 13 คน แต่ยังมีประเด็นที่ต้องรับฟังข้อมูลประกอบคือ การชี้แจงของบริษัท ไปรษณีย์ไทย ถึงความพร้อมการออกเสียงประชามติ และระบบยืนยันตัวตนผ่านทางไปรษณีย์ มีข้อกังวลว่าคนที่มีสิทธิได้ลงคะแนนจริงหรือไม่ หากไปรษณีย์ยืนยันทำได้ไม่มีปัญหา ก็พร้อมสนับสนุนเสียงข้างมากชั้นครึ่ง ในการประชุม กมธ. วันที่ 20 พ.ย.ตัวแทนบริษัท ไปรษณีย์ไทย ตอบรับเข้าร่วมประชุมแล้ว จะซักถามในรายละเอียด หากตกลงกันได้จะปรับเป็นเสียงข้างมากชั้นครึ่ง และระบบไปรษณีย์พร้อมก็สามารถทำประชามติได้ทันที เมื่อไรก็ได้
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่