วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน จะมีการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี แทนนายวิเชียร ขาวขำที่ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระเพียง 3 เดือน จะเป็นศึกชิงดำระหว่าง นายศราวุธ เพชรพนมพร อดีต สส. 4 สมัยจากพรรคเพื่อไทย และนายคณิศร ขุริรัง จากพรรคประชาชน ซึ่งมี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เป็นกองหนุนคนสำคัญ
แต่เนื่องจากจังหวัดอุดรธานี เป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง
เป็นฐานที่มั่นสำคัญที่พรรคเพื่อไทยครอบครองมายาวนาน
ถ้า นายศราวุธ พรรคเพื่อไทย พ่ายศึกชิงเก้าอี้นายก อบจ.อุดรธานีให้ นายคณิศร พรรคประชาชน
เท่ากับเมืองหลวงเสื้อแดงถูกคู่แข่งตีแตกแหกกระเจิง!!
จึงเป็นไฟต์บังคับที่พรรคเพื่อไทยแพ้ไม่ได้ ต้องชนะลูกเดียว!!
แต่พรรคประชาชนซึ่งเป็นก้างตำคอพรรคเพื่อไทย ก็ต้องการเจาะไข่แดงสนามเลือกตั้งอุดรธานีสุดลิ่มทิ่มประตู
การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี จึงกลายเป็น “ศึกช้างชนช้าง” ระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน
นี่คือเหตุผลสำคัญที่ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเก็บเนื้อเก็บตัวเป็นเสือเฝ้าถ้ำมานานเป็นเดือน ต้องเตรียมลงพื้นที่ไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งให้ นายศราวุธ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย
วันที่ 13 และ 14 พฤศจิกายน “พ่อใหญ่ทักษิณ” ในฐานะ “ผู้ช่วยหาเสียง” ของ นายศราวุธ จะเดินสายพบพี่น้องชาวอุดรธานี ตั้งแต่อำเภอเมือง อำเภอกุมภวาปี อำเภอประจักษ์ศิลปาคม อำเภอศรีธาตุ อำเภอบ้านดุง อำเภอทุ่งฝน อำเภอหนองหาน และอำเภอหนองวัวซอ
ลุยชุดใหญ่ไฟกะพริบ 8 อำเภอแบบนอนสต็อป 2 วัน 2 คืน
นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ “ทักษิณ” ลุยสนามเลือกตั้งนายก อบจ.ในฐานะ “ผู้ช่วยหาเสียง” ให้ผู้สมัครเลือกตั้ง (ตามระเบียบ กกต.)
...
เหมือนที่ นายธนาธร ประธานคณะก้าวหน้า และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็น “ผู้ช่วยหาเสียง” ให้ นายคณิศร ผู้สมัครพรรคประชาชน
“แม่ลูกจันทร์” ไม่เข้าใจว่าทำไม นายก อบจ.ต้องแห่ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบเทอม??
ทำให้ต้องจัดเลือกตั้งนายก อบจ. และต้องจัดเลือกตั้งสมาชิก อบจ.ซํ้าซ้อนถึง 2 ครั้ง 2 ครา
พี่น้องประชาชนต้องเสียเวลาไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ.ซํ้า 2 รอบในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
ล่าสุดมีนายก อบจ.ชิงลาออกก่อนครบวาระไปแล้ว 29 จังหวัด
ได้มีการจัดเลือกตั้งไปแล้ว 17 จังหวัด
ยังเหลืออีก 11 จังหวัด ที่จะต้องเลือกตั้งนายก อบจ.ก่อนครบเทอม
ทั้งที่ตำแหน่งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ.ชุดปัจจุบันจะครบวาระพร้อมกันทั้งประเทศในวันที่ 19 ธันวาคม 2567
หรืออีกเดือนกว่าๆ เท่านั้นเอง!!
จะอดใจรอให้ครบเทอมเสียก่อนไม่ได้หรือพ่อคุณ??
ทำไมต้องชิงจังหวะลาออกก่อนครบเทอม?
ต้องเพิ่มภาระ กกต.จัดเลือกตั้งซํ้า 2 รอบ?
ต้องถลุงงบจัดเลือกตั้งเพิ่มขึ้นเท่าตัว?
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าโดยหลักการเมื่อได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ควรปฏิบัติหน้าที่รับใช้พี่น้องประชาชนจนครบเทอม
เพื่อประหยัดงบประมาณแผ่นดินจากภาษีประชาชน
และไม่ต้องเพิ่มภาระให้ประชาชนต้องถ่อไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 2 ครั้ง 2 ครา
เรื่องไม่ยุ่งก็ทำให้มันยุ่งซะอย่างนี้แหละโยม.
"แม่ลูกจันทร์"
คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม