“อัครเดช” ค้านเพื่อไทยปรับแผนทำประชามติ 2 ครั้ง ชี้ต้องยึดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อประชาชนเข้าใจรัฐบาล หากแก้รัฐธรรมนูญไม่ทันในสมัยนี้
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอแนวทางเพื่อเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็วขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการลดทำประชามติเหลือ 2 ครั้ง ว่า เรื่องนี้เคยเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรแล้ว และที่ประชุมเคยมีมติว่าเราต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นั่นคือต้องทำประชามติ 3 ครั้ง นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญยังมีบทบัญญัติว่า หากจะแก้ไขมาตราใด ต้องมีการทำประชามติอีกครั้งด้วย ดังนั้น หลักการของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จไม่ทันภายในสมัยนี้จะเป็นผลเสียต่อรัฐบาลหรือไม่ นายอัครเดช ตอบว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้ขัดข้องในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ขอให้ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและกฎหมายอย่างเคร่งครัด และต้องไม่แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 หรือมาตราที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน
“หากแก้ไขไม่ทัน เราก็ต้องชี้แจงกับประชาชนว่าเหตุผลเกิดจากอะไร ซึ่งคิดว่าประชาชนจะเข้าใจ ดีกว่าไปดันทุรังแก้โดยที่ผิดกฎหมายและถูกร้อง ก็จะเป็นปัญหาได้ในภายหลัง”
ในช่วงท้าย นายอัครเดช ยังกล่าวอีกว่า หากพรรคเพื่อไทยมีข้อเสนอใหม่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ขอให้นำมาหารือ พรรครวมไทยสร้างชาติจะได้นำเข้าสู่ที่ประชุมพรรค เพื่อให้กรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. มีมติว่าจะไปในทิศทางใด.