สารพัดปัญหาลามเข้าสู่รัฐบาล คนการเมือง

ปมธุรกิจสีเทา “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” ที่ฟ้องร้องโจษจันกันอยู่ตอนนี้ กลายมาเป็นประเด็นสาดโคลนในวงการเมือง

ปฏิบัติการโต้กลับของ “ทีมงานบ้านป่า” พลังประชารัฐมาอีกรอบ จับ “เสี่ยจ๊อบ” สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ตัวจี๊ดตามท้องเรื่อง ที่เพิ่งลาออกจากพรรคไป ขึงพืดบูชายัญเพื่อโยงใยไปถึง

คนเพื่อไทย “กลุ่มสามมิตร”

โทรโข่งพลังประชารัฐ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ออกมาย้ำความสัมพันธ์ “เสี่ยจ๊อบ” เคยถูกตั้งให้เป็น ผอ.ศูนย์ร้องทุกข์ของกลุ่มสามมิตร พร้อมปูดชื่อย่อ “เทวดา” ออกมาชุดใหญ่

คนเพื่อไทยที่เข้าข่ายชื่อย่อ กุลีกุจอออกมาปัดป้องพัลวัน ร้อนถึง “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ต้องออกมาปราม อย่าให้ดราม่ามากำหนดความจริง การทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายค้านต้องมาพร้อมหลักฐาน ความจริงไม่ใช่คาดเดา สร้างความเสียหายให้ผู้อื่น

อีกประเด็นที่พุ่งเข้าหารัฐบาลไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทีมงานพลังประชารัฐเจ้าเก่า ตั้งโต๊ะแถลงข่าวปกป้องเกาะกูด เรียกร้องให้ยกเลิก MOU 44

ควันไฟยังไม่มี แค่ได้กลิ่นก็ออกมาทันที เจตนาดักคอขวางทางรัฐบาลเพื่อไทยเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ทรัพยากรกับกัมพูชา โดยอ้างเรื่องเขตแดน

วันๆพันกว่าเรื่อง ทำงานอยู่ดีๆก็มีเรื่องประดังมาสารพัด

ส่วนภารกิจเป้าหมายที่ต้องการทำก็ติดขัดล่าช้า เพราะปัญหาพรรคร่วมปัดแข้งปัดขา ต่อรองแชร์ผลประโยชน์ แถมยังเจอสารพัดแนวต้าน ขาประจำ โจทย์ใหญ่แก้วิกฤติเศรษฐกิจเลยขยับเขยื้อนลำบาก

กลายเป็นเรื่องกฎหมายที่ดูเหมือนเพื่อไทยจะเดินได้เต็มที่ เงื่อนปมนิรโทษกรรมที่พลิกคว่ำพลิกหงายในสภา

...

ปรากฏว่าที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติลุยต่อ ด้วยการยกร่างใหม่ไม่แตะต้องข้องแวะมาตรา 110 และ 112 เตรียมยื่นเข้าสภาประกบกับอีก 4 ร่างในสมัยประชุมหน้า

ท่ามกลางความยินดีปรีดาของบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลที่ชงร่างกันมารอล่วงหน้า โดยปราศจากมาตราต้องห้าม เป็นเขตปลอดมาตรา 112 เพราะทุกพรรคก็อยากนิรโทษกรรมให้สำเร็จ เป็นผลงานตามที่สัญญาหาเสียงไว้

ถ้าอย่างงั้นคงไม่มีปัญหามึนตึงระหองระแหงกันอีกแล้ว พรรคร่วมเห็นพ้อง สว.เห็นด้วย กฎหมายผ่านฉลุยไม่ต้องคุยเยอะ แฮปปี้เอนดิ้ง

แต่ต้องถามใจดูว่าจบแบบนี้แฮปปี้กันจริงไหม โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่มีสโลแกนสุดเฉียบ “หัวใจคือประชาชน”

ในอดีตที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน เรื่อยมาจนถึงเพื่อไทย แนวร่วมสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับชนชั้นศักดินา อำมาตยาธิปไตย เจ็บ ตายไปมากมายคือใคร

และเศษซากปฏิกรสงครามวันนี้คือ ชาวบ้าน ประชาชน ที่ต้องเผชิญหน้ากับความผิดมาตรา 112

การสะบัดธงมุ่งหน้านิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทยเพียงแค่ให้เสร็จสิ้นไป ไม่เฉียดทะลวงเข้าไปวิเคราะห์แยกแยะเนื้อในแห่งความผิดตามมาตรา 112

สุดท้ายแม้แก้ไขได้ แต่ในแง่ความรู้สึกอาจไม่มีใครชื่นชมยินดี หรือบางทีอาจได้ไม่คุ้มเสีย

เพราะแก่นแท้ เงื่อนปมที่ต้องแก้ล้วนแล้วแต่ถูกผูกมัดรวมไว้ในมาตรา 112 ไม่ต้องอื่นไกลบรรดา สปส. สมาชิกพรรคเพื่อไทย หัวโจกนำขบวนชุมนุมยังโดนกันถ้วนทั่ว

แต่ด้วยระบบเส้นสาย กลไกอำนาจพลิกเปลี่ยน จึงสามารถเอาตัวรอดกันมาได้ นับประสาอะไรกับชาวบ้านประชาชนที่ไม่มีอะไร แต่กลับต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ท่าทีของแกนนำ สปส.เพื่อไทยบางส่วนที่ยึดอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่ได้รู้สึกยินดีกับมติพรรคเพื่อไทย

ซ้ำยังขมขื่นพูดอะไรไม่ได้ ล่าสุดก็ยกมือยันหลักการนำไปสู่นิรโทษกรรมมาตรา 112 กับแบบเหงาๆ ราว 10 คน

ก็ได้แต่เฝ้ารอต่อไปว่าเมื่อไหร่เพื่อไทยจะพลิกตัวกลับไปหาประชาชน

คงไม่ได้กลายเป็นฝ่ายอำมาตย์ อนุรักษ์นิยม เหมือนท่าทีที่เปลี่ยนไปจนเพื่อนร่วมอุดมการณ์อย่างพรรคประชาชนถึงกับร้องเสียงหลง พร้อมเตือนดังๆเรื่องนิรโทษกรรมมีโอกาสทำได้ แต่ไม่ทำ จะกลายเป็นภาพจำบาดแผล

เข้าใจว่าเพื่อไทยต้องเล่นบทนี้เพราะจำเป็น ติดเงื่อนไขดีลลับ ตัวประกัน

“นายใหญ่บ้านจันทร์” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยอมแพ้แกล้งตาย แต่ไม่ได้ยอมศิโรราบ

ต้องแสดงออกให้รู้บ้าง มิฉะนั้นอาจขาดศรัทธาจากแนวร่วมมวลชน.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม