นายกฯเปิดเทศกาล Thailand Winter Festivals ยกทัพเทศกาลและอีเวนต์ 7 หมวด ภายใต้แนวคิด “7 Wonders of Thailand” ดันประเทศไทยสู่ World Class Event Hub “สรวงศ์-ททท.” หวั่นใจรายได้ท่องเที่ยวปี 2567 ไปไม่ถึงเป้า 3 ล้านล้านบาท แนวโน้มตอนนี้อยู่ที่ 2.78 ล้านล้านบาท เหตุเจอสารพัดอุปสรรคทั้ง อุทกภัย-สงคราม แต่ยังมั่นใจการจัดงานช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีจะช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 29 ต.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เป็น ประธานงานแถลงข่าวเปิดเทศกาล Thailand Winter Festivals โดยมีนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม และ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมงาน โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า วันนี้เป็นบรรยากาศต้อนรับฤดูหนาว ซึ่งฤดูหนาวของไทยอาจจะไม่ได้หนาวมาก แต่กิจกรรมแน่นแน่นอน เราจะทำให้ประเทศไทยน่าเที่ยวตลอดทั้งปี มั่นใจว่าประเทศของเรามีเสน่ห์มากพอและมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ มีอาหารอร่อย ตั้งแต่เดือน พ.ย.67 ถึง ม.ค.68 เราจะ จัดเทศกาลฤดูหนาวทั่วประเทศ ไม่ว่าจะไปจังหวัดไหน ของประเทศก็มีที่เที่ยวแน่นอน อย่างเทศกาลลอยกระทง ที่จังหวัดต่างๆจัดไม่เหมือนกัน เพราะมีพื้นเมืองไม่เหมือนกัน นับเป็นปีที่ 2 ที่ได้จัดงาน “Thailand Winter Festivals”

“วันนี้ภาคเหนือของเราพร้อมเที่ยวแล้ว ไม่ว่า จะเป็นเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ที่ประสบอุทกภัย น้ำท่วม ฉะนั้นใครที่วางแผนไว้ว่าจะสัมผัสลมหนาวปลายปีที่ภาคเหนือสามารถจองเครื่องบิน ที่พักได้เลย พี่น้องชาวเหนือของเราพร้อมเปิดบ้านต้อนรับทุกคน และขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงช่วงปีใหม่นี้เดินทางไปไหนมาไหนก็ขอให้ปลอดภัย ไปใช้เวลากับครอบครัว คนที่เรารักด้วยความสดชื่นสดใส และปีหน้าขอให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง และรวยๆๆ กันทุกคน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

...

ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและ กีฬา กล่าวว่า เทศกาล Thailand Winter Festivals ส่งมอบประสบการณ์ความสุขช่วงปลายปี ภายใต้แนวคิด “7 Wonders of Thailand” เพื่อเชิญชวน นักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสความมหัศจรรย์ของกิจกรรมใน 7 หมวดหมู่ ได้แก่ 1.เทศกาลลอยกระทง มีการ จัดงานทั่วประเทศในหลายจังหวัด 2.เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หรือ Countdown เริ่มตั้งแต่ ช่วงคริสต์มาสสู่การส่งท้ายปีแบบยิ่งใหญ่ตระการตา ทั้งการจัดแสดงพลุและแสงสีเสียงสื่อผสม การแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียง การแสดงทางวัฒนธรรม ไปจนถึงการขึ้นปีใหม่แบบไทยด้วยการสวดมนต์ข้ามปี และการทำบุญตักบาตร อาทิ Amazing Thailand Countdown 2025 3.กิจกรรมเชิงกีฬา เช่น Amazing Thailand Marathon Bangkok งานวิ่งเทรลอินทนนท์ Hoka Chiang Mai Thailand by UTMB จ.เชียงใหม่ งานเชียงใหม่มาราธอน งาน Bangsaen42 จ.ชลบุรี งาน Betong 21 International Half Marathon จ.ยะลา ฯลฯ 4.กิจกรรมด้านวัฒนธรรม เช่น มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ งานประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส จ.สกลนคร 5.เทศกาลอาหาร มหกรรมอาหาร เช่น ฟู้ด เฟสติเว่อร์ งานเทศกาลปลาร้าหมอลำ Isan To The World 6.เทศกาลดนตรี เช่น Wonderfruit จ.ชลบุรี Rolling loud Thailand 2024 ณ Legend Siam พัทยา งานเชียงใหม่เฟส 5 จ.เชียงใหม่ ฯลฯ 7.เทศกาลแสงสี (Lighting&Illumination) พบกับมหาปรากฏการณ์แสดง แสง เสียง พลุ โดรน สุดยิ่งใหญ่ในงาน Vijit Chao Phraya 2024

“การจัดงานปีนี้มีความพิเศษจากปีก่อน เนื่อง จากเพิ่มเวลาในการจัดงานและกิจกรรมเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นให้สถานการณ์ท่องเที่ยวคึกคักขึ้น โดยปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 35 ล้านคน แต่รายได้รวมจะไม่ถึง 3 ล้านล้านบาท ตามที่ ททท.ตั้งเป้าไว้ เพราะปีนี้เจอกับอุทกภัยใหญ่ทั่วโลกไม่ใช่แค่ในประเทศ และวิกฤติเศรษฐกิจ เนื่อง จากนักท่องเที่ยวใช้จ่ายน้อยลง อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เหลือ ของปีนี้จะทำให้ใกล้เคียงเป้าที่สุด” นายสรวงศ์กล่าว

ขณะที่ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ขณะนี้คาดการณ์รายได้ท่องเที่ยว ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศและนักท่องเที่ยวไทย รวมกันยังอยู่ในเกณฑ์เป้าพื้นฐาน (base case) 2.78 ล้านล้านบาท แต่ไม่ถึงเป้ากรณีดีที่สุด (best case) ที่ 3 ล้านล้านบาท โดยตั้งแต่ 1 ม.ค.-3 ก.ย. 2567 มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.21 ล้านล้านบาท ขณะที่ 3 เดือนสุดท้าย คือ ต.ค.-พ.ย.-ธ.ค.2567 คาดว่าจะสร้างรายได้ 537,474 ล้านบาท รวมทั้งปี 1.74 ล้านล้านบาท เมื่อรวมกับรายได้คนไทย เที่ยวในประเทศ ประมาณ 900,000 ล้านบาท ยังอยู่ ในเกณฑ์เป้าพื้นฐาน ซึ่งการจัดงานนี้ขึ้นใน 2 เดือนสุดท้ายของปี จะช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยอุปสรรคที่ทำให้ไปไม่ถึงเป้ามีทั้งอุทกภัย ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงสงครามที่ทำให้คนไม่กล้าเดินทาง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่