ที่ประชุมวุฒิสภาตั้ง กมธ.สามัญ 15 คน ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม “ประภาศ คงเอียด” หลังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการ ป.ป.ช.
เมื่อเวลา 09.41 น. วันที่ 29 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมวุฒิสภา เข้าสู่วาระเรื่องด่วน ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (กรรมการ ป.ป.ช.) พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยกล่าวว่า ด้วย พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปี ตามมาตรา 10 (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 อีกทั้งเมื่อคราวการประชุมวุฒิสภา วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. คือ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง แต่ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา จึงถือว่าไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งนี้ ในกรณีที่วุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการสรรหารายใด ให้ดำเนินการสรรหาบุคคลใหม่แทนผู้นั้น แล้วเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป โดยผู้ที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจะเข้ารับการสรรหาในครั้งใหม่ไม่ได้
บัดนี้ คณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการสรรหาบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. โดยเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามมาตรา 9 วรรคสอง (2) และมาตรา 10 รวมทั้งไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 11 ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เสร็จสิ้นแล้ว ปรากฏว่ามีผู้ได้รับการคัดสรรให้เป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. โดยได้รับคะแนนเสียง 2 ใน 3 ของคะแนนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของคณะกรรมการสรรหา คือ นายประภาศ คงเอียด อดีตอธิบดีกรมบัญชีกลาง และอดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ จึงได้เสนอชื่อมายังวุฒิสภาเพื่อให้ความเห็นชอบตามมาตรา 14 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
...
ทั้งนี้ ข้อบังคับข้อที่ 105 กำหนดว่า เมื่อมีกรณีที่วุฒิสภาจะต้องพิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่งใดตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย ให้วุฒิสภาตั้งคณะกรรมาธิการสามัญจำนวนไม่เกิน 15 คน เพื่อตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง รวมทั้งรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอันจำเป็นสำหรับตำแหน่งนั้นๆ เป็นกรณีๆ ไป
จากนั้น ประธานในที่ประชุม ขอหารือว่าจะเห็นสมควรตั้ง กมธ. กี่คนเพื่อตรวจสอบ โดยที่ประชุมเสนอตั้ง กมธ.สามัญ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 15 คน พร้อมกำหนดเวลาการดำเนินงานของ กมธ. ภายใน 60 วัน.
(แฟ้มภาพ)