“ชูศักดิ์” กลับลำ เพื่อไทยไม่เคยมีมติให้ สส.โหวตรับข้อสังเกตรายงาน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่รู้สึกเสียใจที่รายงานถูกคว่ำกลางสภา ปลอบยังมีร่างกฎหมายนิรโทษฯ 4 ฉบับจ่อเข้าสภาสมัยประชุมหน้า “เสี่ยอ้วน” ลั่นจบแล้วนิรโทษกรรม “ประเสริฐ” ชี้ “พิเชษฐ์-ชลน่าน” แค่หยอกกันแรงไปนิด รทสช.เชียร์ร่างนิรโทษฯตั้งแต่ม็อบพันธมิตร ที่ไม่เกี่ยวกับ ม.112 “อิ๊งค์” มุ่งดันไทยเป็นฮับจัดนิทรรศการระดับโลกหนุนเศรษฐกิจ “ภูมิธรรม” ตรวจเยี่ยม ทร. ประกาศปม “เรือดำน้ำ” ต้องจบในยุคนี้
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กลับลำปฏิเสธที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทยไม่เคยมีมติให้รับข้อสังเกตรายงานของ กมธ. ประกาศไม่ได้รู้สึกเสียใจที่ร่างรายงานดังกล่าวถูกคว่ำกลางสภา
“ชูศักดิ์” กลับลำ พท.ไม่เคยมีมติ
เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 25 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติโหวตไม่รับข้อสังเกตรายงานของ กมธ.พิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า ถือว่าได้รายงานต่อ สภาเรียบร้อยแล้ว กมธ.ถือว่าทำหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว รายงานฉบับนี้อยู่ในสภา องค์กรใดเห็นว่าเป็นประโยชน์ สามารถไปศึกษาได้ เมื่อถามว่าจะดำเนินการอย่างไร กับ สส.พรรคเพื่อไทยที่ไม่เห็นชอบข้อสังเกตของ กมธ. นายชูศักดิ์ตอบว่า ในที่ประชุม สส.เพื่อไทยไม่มีมติพรรคในเรื่องนี้ ให้เป็นเรื่องของเอกสิทธิ์ เมื่อถามว่า ในฐานะประธาน กมธ.รู้สึกเสียหน้าหรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า คงพูดอย่างนั้นไม่ได้ ญัตตินี้เป็นของพรรคเพื่อไทย มาเป็นประธานทำรายงานเองจะไม่ให้รับคงไม่ได้ ยังดีใจกรรมาธิการฯ ผู้หลักผู้ใหญ่ หลายคนที่ร่วมทำกันมาก็รับรายงาน
...
ร่าง ก.ม.นิรโทษกรรม 4 ฉบับจ่อเข้าสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่าแบบนี้พรรคเพื่อไทยจะเสียมวลชนหรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า คิดว่าส่วนหนึ่งเราไม่ได้ปฏิเสธรายงาน เพียงแต่ไม่รับข้อสังเกต การไม่รับข้อสังเกตหมายความว่า ไม่ส่งไปให้หน่วยงานอื่นดำเนินการแค่นั้นเอง มีบางส่วนไม่รับรายงานเลย หลายคนไปฟังกระแสตีความกันว่าคนที่เห็นชอบกับข้อสังเกตคือคนที่จะแก้หรือคนที่จะนิรโทษกรรม จึงรู้สึกวิตกกังวล ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นเพียง รายงานการศึกษา เมื่อถามว่าถือเป็นการปิดประตูเรื่องนิรโทษกรรมหรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า ไม่ใช่ เพราะยังมีร่างกฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม 4 ฉบับ เป็นของพรรคการเมือง 3 พรรค ของภาคประชาชน 1 ร่าง จ่อเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมหน้า ที่จะเปิดวันที่ 12 ธ.ค. คงต้องไปถกเถียงกันว่าสุดท้ายจะเอาอย่างไร “อันนี้แหละคือร่างจริงๆแล้ว”
ไม่รู้สึกเสียใจที่รายงานถูกคว่ำ
เมื่อถามว่าจากนี้จะเข็ดขยาดกับการเป็นหัวหอกดันเรื่องนิรโทษกรรมหรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า ไม่ได้เข็ดอะไร ไม่ได้รู้สึกเสียใจ เมื่อเขาเห็น แบบนี้ก็ว่ากันไป เมื่อถามว่าต่อไปหากจะพูดเรื่อง นิรโทษกรรม ต้องวางกรอบให้ชัดเจนไม่ให้แตะ 112 หรือไม่เพื่อไม่ให้ถูกคว่ำอีก นายชูศักดิ์ตอบว่า หนีไม่พ้น ที่จะต้องพูดถึงเรื่องพวกนี้ เพราะร่างกฎหมาย 4 ฉบับที่จะเข้าสภา ถามว่ามีเรื่องเหล่านี้หรือไม่ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ แต่สุดท้ายต้องไปไตร่ตรองกัน เชื่อว่ารายงานที่ทำไปครั้งนี้จะเป็นประโยชน์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการ นิรโทษกรรม 4 ฉบับ ประกอบด้วยร่างของพรรคการเมือง 3 พรรค คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคก้าวไกลเดิม พรรคครูไทย และร่างของภาคประชาชน 1 ฉบับ
“ภูมิธรรม” ชี้จบแล้วนิรโทษกรรม
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติโหวตไม่รับข้อสังเกตรายงานของ กมธ.พิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็ถือว่าตกไปโดยปริยาย เพราะถ้ารับข้อสังเกตถึงจะกลับมาที่รัฐบาล เมื่อไม่รับข้อสังเกตก็ถือว่าจบเท่านี้ เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎรไป ส่วนตกไปแล้วจะใช้ได้ใหม่หรือไม่ ต้องไปดูในรายละเอียดข้อบังคับการประชุมสภา แต่น่าจะจบแล้ว หากจะเสนอใหม่อาจเสนอได้แต่ต้องต่างญัตติหรือไม่
“ประเสริฐ” โยนวิปรัฐบาลชี้แจง
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แกนนำพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณี สส.พรรค พท. 115 คน ลงคะแนนสวนมติพรรคไม่รับรองข้อสังเกตในรายงานดังกล่าว ส่งผลให้ถูกตีตกไปว่า เรื่องนี้ให้ไปสอบถามจากประธานวิปรัฐบาล ไม่เห็นเหตุการณ์ชัดๆ ไม่สามารถตอบได้ ส่วนเหตุการณ์ปะทะโต้แย้งกันระหว่างนาย พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรค พท. ในที่ประชุม สภาฯทั้ง 2 คน เป็นเพื่อนกันมานานอยู่กับพรรคมานานทั้งคู่ เชื่อว่าในใจไม่น่ามีอะไรกัน ในที่ประชุมสภาฯ เป็นเรื่องธรรมดาอาจมีการกระเซ้าเย้าแหย่กันบ้าง แต่อาจหยอกกันแรงไปหน่อย เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลที่ติดค้างมาจาก นพ.ชลน่าน เคยมีชื่อจะได้นั่งรองประธานสภาฯ หรือไม่ นายประเสริฐ ตอบว่า ไม่น่าใช่ประเด็นนั้น ไม่มองว่าเป็นความขัดแย้ง เป็นเอกสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นของสมาชิก เรื่องนี้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาลน่าจะทำความเข้าใจกับทั้งคู่ได้ดี
รทสช.ชูนิรโทษตั้งแต่ยุคพันธมิตร
ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีการตั้งข้อสังเกตของนายชัยธวัช ตุลาธน กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ระบุว่าการที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่รับข้อสังเกตในรายงาน แสดงถึงความไม่มีเอกภาพ ของรัฐบาลว่า การลงมติไม่รับข้อสังเกตแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความเป็นเอกภาพ จากการที่ปรับพื้นฐานทางความคิดเข้าหากัน จนมีแนวทางเดียวกัน ที่หลายพรรคมีมติไม่รับข้อสังเกตไม่ได้หมายความว่าจะไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม ในการกระทำความผิดที่มีมูลเหตุจากปัจจัยทางการเมือง พรรค รทสช.ยืนยันว่าเห็นด้วย เพื่อหาทางออกให้กับประเทศจากวังวนความขัดแย้ง แต่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมความผิดมาตรา 112 พรรค รทสช.ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข เข้าสู่สภาฯ แล้ว เพื่อนิรโทษกรรมคดีที่มีมูลเหตุจากปัจจัยทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา เพื่อยุติความขัดแย้งสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น โดยไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112
“อิ๊งค์” มุ่งดันไทยฮับนิทรรศการโลก
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายพสุ โลหารชุน ประธานกรรมการคณะกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ที่นำคณะผู้บริหารจากบริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้าชั้นนำระดับโลก จากประเทศต่างๆ อาทิ อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี เข้าหารือในโอกาสที่ผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมงานประชุมสุดยอดผู้นำ Exhibition Industry Summit 2024 ที่โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า รัฐบาลไทยมุ่งมั่นสนับสนุนการเติบโต และความสำเร็จของภาคธุรกิจ ด้วยการใช้นโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจ และเอื้ออำนวยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเชิงกลยุทธ์สำหรับการจัดนิทรรศการนานาชาติทุกประเภท ด้านผู้แทนสสปน.กล่าวว่า ขอบคุณนายกฯและรัฐบาลที่ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทย รวมถึงสนับสนุนการจัดงาน Exhibition Industry Summit 2024 ในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าด้วยการสนับสนุนของรัฐบาล จะทำให้อุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติมีบทบาทในด้านการค้า การสร้างนวัตกรรม และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
“ภูมิธรรม” มอบนโยบายกองทัพเรือ
ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมกองทัพเรือเพื่อรับทราบภารกิจและผลการดำเนินงาน พร้อมมอบนโยบายเพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้กำลังพล โดยมี พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. ให้การต้อนรับ นายภูมิธรรมแถลงหลังการประชุมว่า กองทัพเรือมีการเตรียมความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ ทั้งการจัดกำลังและการวางแผน แต่ต้องปรับปรุงการปฏิบัติให้ชัดเจนมากขึ้น ส่วนเรื่องสวัสดิการกำลังพล จะมีการแก้ไขปัญหาหนี้สินและจัดบ้านพักให้ พร้อมให้ความสำคัญกับการปลูกบ้านของกำลังพลชั้นผู้น้อย โดยเสนอให้ใช้ที่ดินของกองทัพในการพัฒนาสวัสดิการเพิ่มเติมร่วมกับกระทรวง พม.
ย้ำภารกิจความมั่นคงทางทะเล
นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า ยังมอบนโยบายเกี่ยวกับภัยพิบัติธรรมชาติ ให้กำลังพลเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชน และย้ำงานความมั่นคงทางทะเล รวมถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติด เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีของกองทัพให้สอดคล้องกับการปรับลดกำลังพลจะมีการพูดคุยร่วมกับกองทัพบกและกองทัพอากาศเพื่อแก้ไขปัญหา ขอย้ำว่ากองทัพมีนโยบายไม่สนับสนุนการทำร้ายทหารเกณฑ์ และจะมีมาตรการแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อีก จากนั้นตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ
ลั่นปม“เรือดำน้ำ”ต้องจบในยุคนี้
นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงการขยายสัญญาโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำใกล้ครบกำหนดว่า ช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมกับคณะกรรมการบริหารโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาที่ค้างคา ยืนยันว่าจะพยายามให้เรื่องนี้เดินหน้า แม้มีข้อจำกัดและความคิดเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับความจำเป็นของเรือดำน้ำ หวังว่าจะสามารถสรุปผลได้ในช่วงที่ตนดูแล ส่วนประเด็นเรื่องเกาะกูด จ.ตราด ยืนยันว่าเกาะกูดเป็นของไทยมาตลอด ไม่เคยมีปัญหาว่ากัมพูชาอยากจะเอา หรือแบ่งเขตแดน ขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเขตแดน แต่ทำอย่างไรให้ได้ประโยชน์ร่วมกัน สิ่งสำคัญคือข้างล่างใต้ทะเลที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะน้ำมัน แต่อีก 10 ปีจะลดความสำคัญลง กว่าจะตกลงกันได้ก็ปาไป 5 ปี หากไม่ทำอะไรภายใน 10 ปีก็ไม่มีความหมาย เพราะปัจจุบันมีรถไฟฟ้าแล้ว ถ้าตนเป็นประธานคณะกรรมการด้านเทคนิคฝ่ายไทย เรื่องนี้ต้องเจรจากัน ที่สำคัญต้องทำความเข้าใจกับประชาชน อย่าขยายเป็นเรื่องการเสียดินแดน เป็นการปลุกความคลั่งชาติขึ้นมาทำร้ายผลประโยชน์ที่ประเทศควรจะได้รับ
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่