เกมล้มโต๊ะรัฐบาลหลบไปก่อน ตอนนี้ข่าวโคตรใหญ่ไม่มีอะไรร้อนเท่ากระแส

ล้มกระดานอาณาจักรขายตรง “ดิ ไอคอน” ยึดหัวหาดข่าวหน้าหนึ่งวิบากกรรม “บอสดารา” แหย่ขาเข้าเรือนจำไปแล้วหนึ่งข้าง

ทั้งๆที่ตัวอย่างมีให้เห็นก่อนหน้า “นักโทษซุปตาร์แชร์ลูกโซ่” ติดคุกจริง ขังจริงไม่มีสแตนด์อิน ตีหน้าเศร้าเคล้าน้ำตา อ้างยังไงก็ฟังยากกับพฤติการณ์ใช้ชื่อเสียง อาศัยความดังหากินบน “ธุรกิจคาบลูกคาบดอก”

หลอกล่อพวกหวังรวยแบบง่ายๆโดยไม่ต้องออกแรง

สูตรธุรกิจขั้นอนุบาลของพ่อมดการเงินยุคพระเจ้าเหา เล่ห์โบราณของอาชญากรทางเศรษฐกิจ อาศัยใช้กลไก “เงินต่อเงิน” โดยไม่มีการสร้างรายได้ปันผลกำไรจากการผลิต ซื้อมาขายไปอย่างแท้จริง

เมื่อหมุนจน “น็อกรอบ” ก็ติดล็อก พังระเนระนาด

ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย บทเรียนซ้ำซากที่ไม่เคยหายไปจากสังคมไทย “แชร์ลูกโซ่” ซิกแซ็กเป็น “ธุรกิจขายตรง” ยกระดับสลับซับซ้อนในการหลอกลวงชาวบ้านที่ยังไม่ปรับระดับความรอบรู้ หลงอยู่ในวังวนเดิมๆ

เล่ห์กล “เงินต่อเงิน” น็อกรอบ เจ๊งทั้งกระดาน

เอกชนเสียหายหลักร้อยล้านพันล้านยังสั่นสะเทือนกันทั้งบาง ระส่ำกันทั้งเมือง ถ้าระดับกระทบเศรษฐกิจของประเทศจะหนักหนาสาหัสระดับไหน

ตำราเดียวกัน ละม้าย “อัฐยายซื้อขนมยาย” รัฐบาลเพื่อไทย เจ้าตำรับโคตรประชานิยม ยังปักใจกับมุกเก่ง ยักกระเป๋าซ้าย ถ่ายกระเป๋าขวา อัดงบเงินหลวงเข้าระบบ กระตุ้นการหมุนเวียนเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง

ใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน “ต่อเงิน” ก้นถุงคลังของประเทศ

สวนทางกับคำเตือนนักเศรษฐศาสตร์ที่คัดค้านการหว่านเงินแบบไร้ยุทธศาสตร์ แฝงเหลี่ยมหาเสียงการเมือง ตราบใดที่ไม่มีการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ติดหล่มวิกฤติความขัดแย้ง

...

แรงงานไร้ทักษะรองรับเศรษฐกิจยุคเอไอ พลังงานไฟฟ้า ระบบน้ำ ไม่สอดรับการลงทุนที่ผูกกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ระบบราชการ เกมอำนาจการเมือง มาตรฐานความโปร่งใสไม่เอื้อเศรษฐกิจโลกยุคใหม่

ความเชื่อมั่นในกึ๋นฝ่ายบริหาร ไม่ดึงดูดความมั่นใจนักลงทุน

เมื่อปมล็อกไม่ได้รับการแก้ไขตรงจุด มัวสาละวนปลายเหตุ จ่ายยาพาราเซตามอลแก้ปวดรักษาโรคมะเร็ง อัดเงินหลวง เทกระจาด เสี่ยงถึงจุด “น็อกรอบ” อีหรอบเดียวกับแชร์ลูกโซ่

และถึงตรงนี้ น่าจะถลำลึก กลับลำยากซะแล้ว

แนวโน้มโปรโมชันเทกระจาด อัดโปรเศรษฐกิจแลกแต้มการเมือง ทำให้ประชาชนเสพติด “ประชานิยม” อารมณ์สะท้อนผ่าน “นิด้าโพล” สดๆร้อนๆ ตัวเลขชัดๆ คนไทยส่วนใหญ่

โกรธมากๆฉุนขาดเหมือนโดน “บอสดารา” หลอกให้ความหวัง

อันดับหนึ่งร้อยละ 41.58 ตะโกนดังๆ ดักทางขวางคอรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อย่าคิดล้มโต๊ะคิวเทกระจาด “เงินหมื่น” เฟส 2

กดดันมัดคอกันในที ขืนเบี้ยวมีแต่พังกับพัง

จังหวะหักมุมกันเลยกับข้อมูลอย่างเป็นทางการ นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดโพลสำรวจความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือนกันยายน ตัวเลขหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน

ฟันธงการเทกระจาดเงินหมื่น ไม่มีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่อย่างใด

ชีพจรอ่อน ส่อภาวะซึมยาว ไร้สัญญาณฟื้นกระแสเทกระจาดเงินหมื่น ที่รัฐบาลเพื่อไทยวาดหวังให้แรงเป็นพายุหมุนกระตุ้นเศรษฐกิจ เอาเข้าจริงไม่ขยับ เบาบางกว่าหย่อมความกดอากาศต่ำ

ตอกย้ำเดินผิดทาง เจ้าตำรับโคตรประชานิยมจะเสี่ยงลุยต่อหรือพอแค่นี้

ณ จุดที่เพลี่ยงพล้ำด้วยตัวเลขเชิงประจักษ์ ปัญหาแท้จริงของการบริหารเศรษฐกิจ ฟื้นวิกฤติปากท้องคนไทย ไม่อาจใช้ตำราเก่าๆ เจ้าตำนานหว่านเงินหลวงบริหารเศรษฐกิจพร้อมกับหาเสียงการเลือกตั้ง

หากยื้อไปจน “พัง” ใครต้องรับผิดชอบ คำตอบสุดท้ายเห็นๆกันอยู่

สภาพป่วยการที่จะ “ขู่” เบี่ยงเป้ากดดันไปที่ “วังบางขุนพรหม” ปล่อยลูกหาบดาหน้าถล่ม “ดร.นก” เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการแบงก์ชาติ เป็นตัวปัดแข้งปัดขา

เทียบคนเฝ้าขุมทรัพย์ปู่โสมฯกับตำราเทกระจาดเงินหลวง เครดิตมันต่างกัน.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม