ศปช. จับตาอุทกภัยภาคใต้ เตือน 14 จังหวัด 12-14 ต.ค.นี้ ฝนตกหนัก ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือใกล้สู่ภาวะปกติ จ่อจัดโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง กระตุ้นการท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และ ศปช. ส่วนหน้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า วันนี้สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาเมื่อช่วงเวลา 07.00 น. เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,002 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยระดับน้ำท้ายเขื่อนต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 1.83 เมตร ซึ่งลดลงจากเมื่อวาน 14 เซนติเมตร

ทั้งนี้ ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ได้แก่ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง, คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อยบริเวณ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี รวมถึง อ.เมือง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พบว่ามีแนวโน้มลดลง

จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าระหว่างวันที่ 11-17 ตุลาคม 2567 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยบริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตลอดช่วง ขอให้ประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

...

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของกรมทรัพยากรธรณี ได้แจ้งอาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยแล้ว ระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคม 2567 ในพื้นที่ จ.ชุมพร จ.ระนอง จ.พังงา จ.กระบี่ จ.ภูเก็ต จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.ตรัง จ.สตูล จ.พัทลุง จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส และ จ.ยะลา เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ส่งผลทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก วัดปริมาณน้ำฝนในรอบ 24 ชั่วโมง ได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร และเริ่มมีหลากเข้าน้ำท่วมในบางพื้นที่แล้ว

สำหรับ ศปช.ส่วนหน้า จ.เชียงราย เมื่อคืนที่ผ่านมา (11 ตุลาคม 2567) ได้ดำเนินการจัดกิจกรรม Big Cleaning ล้างฝุ่นบนถนน (พหลโยธิน) หน้าด่านพรมแดนแม่สาย เพื่อคืนอากาศบริสุทธิ์ให้ชาวแม่สาย จุดที่ 1 ตั้งแต่หน้าด่านพรมแดนแม่สายแห่งที่ 1 ถึงแยกโรงแรมเบิร์ด จุดที่ 2 ถนนเหมืองแดง (เส้นหลัก) ถึงตลาดเหมืองแดง เพื่อลดปัญหาฝุ่นจากการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เป็นการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สถานการณ์ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด รวมทั้งที่ จ.เชียงใหม่ ก็ได้จัดกิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน ทำความสะอาด (Big Cleaning) ในทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน

พร้อมกันนี้ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ รับฟังความคิดเห็นและหารือร่วมกับผู้แทนเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรวมถึงแนวทางการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว สถานประกอบการ จ.เชียงใหม่ แล้ว สำหรับด้านการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในช่วงอุทกภัย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือนำนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ประสบภัยรวมทั้งสิ้น 1,400 คน ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ได้เริ่มคลี่คลายลงและเป็นช่วงของการฟื้นฟูให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ

นายจิรายุ กล่าวในช่วงท้ายว่า “นักท่องเที่ยวยังคงสามารถไปเที่ยว จ.เชียงใหม่ ได้ตามปกติ เนื่องจากเหตุอุทกภัยครั้งนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น สำหรับมาตรการช่วยเหลือด้านการท่องเที่ยวที่จะพิจารณาเสนอต่อทางรัฐบาล เช่น มีโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง ซึ่งจะเป็นมาตรการที่ช่วยสนับสนุนทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวควบคู่กันไป เพื่อที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาคเหนือให้กลับคืนมา”