บรรยากาศการเมืองเงียบๆ อึมครึมแปลกๆ

สถานการณ์แบบนี้นักการเมืองหวาดระแวง เพราะมักเกิดเรื่องใหญ่ตามมาให้แตกตื่นตกใจ เหมือนคลื่นลมสงบก่อนพายุใหญ่มา

แต่คิวที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาโหมโรงจั่วหัว 10 ต.ค. เป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบพรรคเพื่อไทย บรรดาแกนนำเพื่อไทยประเมินไม่ออกว่าเรื่องอะไร แต่หนีไม่พ้นเกมนิติสงคราม

ทีมงานรัฐบาล “สมคิด เชื้อคง” รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง เย้ยแค่เรื่องขำๆ นึกไม่ออกประเด็นอะไร เพราะร้องเรียนมาเป็นเข่ง แม้แต่คนร้องยังจำไม่ได้

ก่อนฝากเตือนถ้าคิดจะเปลี่ยนตัวนายกฯ ขอให้เล่นตามกติกาอย่าใช้วิธีพิสดาร

ข่าวที่ฮือฮามากกว่า “ครูใหญ่เซราะกราว” เนวิน ชิดชอบ ผู้มากบารมีภูมิใจไทย บุกถ้ำ “นายใหญ่จันทร์ส่องหล้า” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คอนดักเตอร์เพื่อไทย

ท่ามกลางภาวะมึนตึงระหองระแหงเงื่อนปมรื้อรัฐธรรมนูญ หลังพรรคเพื่อไทยติดสัญญาณไฟแดง ภูมิใจไทยเบรกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนต้องชะลอถอนคันเร่งไปต่อไม่ได้ เพราะ “ค่ายน้ำเงิน” คุมเกม สว.เบ็ดเสร็จ

“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมายอมรับเองเป็นคนพานายเนวินไปกินข้าวเย็นที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพราะไปประจำอยู่แล้ว

แต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง “เนวิน” กับ “ทักษิณ” ที่ “เสี่ยหนู” ออกตัวว่าไม่ได้โกรธอะไรกัน วลี “มันจบแล้วครับนาย” ก็ไม่มี ไม่เคยได้ยินนั้น คงไม่ใช่

เพราะ “นายใหญ่จันทร์ส่องหล้า” เจ็บปวดกับวลีนี้ที่มาพร้อมความรู้สึกโดนหักหลัง เมื่อครั้งภูมิใจไทยขน สส.ตีจากพรรคพลังประชาชนไปหนุนพรรคประชาธิปัตย์ ส่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ

...

เพียงแต่ตอนนี้ “ทักษิณ” จำเป็นต้องเก็บกดเอาไว้ให้มันเป็นแค่วาทกรรมครั้งหนึ่งในอดีต

แม้จะคุยกันบ่อยแต่ไม่ได้การันตีทุกอย่างราบรื่น ความบาดหมาง การไว้เชิงยังมีอยู่ เห็นชัดจากร่องรอยขัดแย้งหลายเรื่อง เพื่อไทยเดินแต่ภูมิใจไทยขวาง เล่นกันแรงๆคว่ำกันซึ่งๆหน้า

ไม่ว่าปมรื้อรัฐธรรมนูญรายมาตราและทั้งฉบับ หรือกฎหมายประชามติที่ สว.เพิ่งคว่ำไป

เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บ่อนกาสิโน ที่วางแผนเปิดที่กรุงเทพฯ 2 แห่ง เชียงใหม่ 1 ภูเก็ต 1 และพัทยา 1 “นายใหญ่จันทร์ส่องหล้า” ตั้งเป้าทำยิ่งใหญ่ ไฮคลาส แต่ “ครูใหญ่” อยากได้แบบโลว์คอสต์

บนโต๊ะอาหารคุยกันหลายเรื่อง แต่ไม่ได้เห็นพ้อง ยอมให้กันทุกเรื่อง

ถึงกระนั้นก็อยู่บนพื้นฐานที่รัฐบาลต้องไปต่อได้ “นายกฯอิ๊งค์”แพทองธาร ชินวัตร นายกฯทำงานราบรื่น

แม้ขัดแย้งแต่ไม่แตกหัก รอมชอมประนีประนอมคือคำตอบสุดท้าย

เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ยังต้องไปต่อร่วมกัน เรื่องนี้เห็นพ้องทั้ง “นายใหญ่-ครูใหญ่” ขืนมาชิงเหลี่ยม หักกลางกันตอนนี้มีแต่ตายทั้งคู่ เลือกตั้งกระแสยังสู้พรรคส้มไม่ได้

เพื่อไทยจำเป็นต้องใช้เวลาที่เหลืออีก 2 ปีกว่าๆ สร้างผลงาน สะสมเครดิตให้ตัวเองก่อนลงสนามทวงบัลลังก์แชมป์เลือกตั้ง ขณะที่ภูมิใจไทยเองยังกักตุนเสบียงไม่พอ วางเครือข่ายจัดตั้งยังไม่สะเด็ดน้ำ

แน่นอนว่าตามสไตล์ “นายใหญ่บ้านจันทร์” ไม่มีความสุขกับสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่ เพราะโดนเกมต่อรองหลายเรื่อง จึงกำลังคิดอ่านทวงอำนาจต่อรองกลับมาถือไพ่เหนือกว่า

เจอหมากเกมนี้ของ “ค่ายเซราะกราว” ทำให้ “นายใหญ่” ต้องคิดหนักในการวางแผนเลือกตั้งครั้งหน้า

แตะมือหาพันธมิตรเพิ่ม เพื่อประโยชน์สูงสุดในการแชร์พื้นที่เลือกตั้ง โดยเฉพาะภาคใต้ที่ยังเป็นจุดบอดของพรรคเพื่อไทย

อย่างเช่นพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ตอนนี้กระแสแรงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ ตามผลสำรวจ “นิด้าโพล”

ถึงขั้นแกนนำพรรคประกาศยึดพื้นที่เพิ่มในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ส่วนภูมิใจไทย “นายใหญ่บ้านจันทร์” ไม่เคยมีแนวคิดสับหลีก ด้วยสภาพพื้นที่ยังไงก็หนีไม่ออก

แต่สถานการณ์ตอนนี้ทำได้แค่กำหมัดกัดฟัน แว่วว่าเรื่องประชามติต้องยอมใช้เสียงข้างมากสองชั้น ตามแนวทาง สว.

อิทธิฤทธิ์ “เซราะกราว” ที่ปกคลุม สว.สีน้ำเงิน คือเป้าหมายที่ต้องตีแตกแยกย่อย

ดึงดูดให้มาเป็น สว.สายสีแดง เพื่อพลิกโมเมนตัมอำนาจมาไว้ในมือ.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม