ลูกหาบเพื่อไทยปลื้ม “เนวิน-ทักษิณ” ตั้งวงเปิบข้าว “เบิร์ธเดย์บอย” ยกเป็นตัวอย่างก้าวข้ามความขัดแย้งเห็นแก่บ้านเมืองร่วมพัฒนาประเทศชาติไปด้วยกัน “จันทร์ส่องหล้า”ส่งสัญญาณโอนอ่อนกดไฟเขียวเปิดทางคลอดกฎหมายประชามติ 2 ชั้นตามร่างของสว. เร่งเครื่องแก้รัฐธรรมนูญให้เร็วขึ้น ขณะที่เพื่อไทยแห่ค้านประชามติฉบับ สว.สภาฯลงมติตั้ง กมธ.ร่วม 2 สภาพิจารณากันท่วมท้น สส.สีน้ำเงินงดออกเสียงถึง 65 คน “นายกฯอิ๊งค์” ร่วมโชว์วิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนฉลุย เพจเชียร์ไม่หวั่นดราม่าโพสต์รูปนายกฯอวดไอแพดสมุดโน้ตคู่ใจ
การเมืองยังต้องจับตาปรากฏการณ์ “เบิร์ธเดย์บอย” นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าไปเปิปข้าวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถึงในบ้านจันทร์ส่องหล้า แม้ลูกหาบพรรคเพื่อไทย ออกมาขานรับเชื่อสนิทใจว่าเป็นตัวอย่างก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ลึกๆเป็นแค่ดีลกันในบางเรื่องเท่านั้น
พท.ชี้ “ทักษิณ-เนวิน” ก้าวข้ามขัดแย้ง
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกมายอมรับชวนนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าจริง ว่า นายทักษิณเป็นอดีตนายกฯ ที่มีความห่วงใยประเทศชาติ การดำเนินการใดๆของนายทักษิณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรค พท. การนัดหมายพบปะพูดคุยกับผู้ใดเชื่อว่าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ทุกฝ่ายเห็นชัดว่าหากยึดเอาประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นหลักสำคัญ หากมีความไม่เข้าใจกัน หรือมีความเห็นต่างในอดีต ไม่ใช่ปัญหาที่ก้าวข้ามไม่ได้ ทุกฝ่ายสามารถหันหน้าเข้าหากันเพื่อร่วมพัฒนาประเทศชาติไปด้วยกันได้
...
ฉะ “ไพบูลย์” โทสะโมหะบังตา
นายอนุสรณ์กล่าวถึงกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ระบุวันที่ 10 ต.ค.จะมีเหตุการณ์ที่นำไปสู่การล่มสลายพรรคแกนนำรัฐบาลว่า ต้องเคารพในสิทธิที่จะคิดจะฝันหรือดำเนินการอะไรของนายไพบูลย์ แต่สถานการณ์วันนี้ประชาชนต้องการเห็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เดินหน้าพาประเทศพุ่งทะยานไปข้างหน้า ประเทศไทยเสียโอกาสเสียเวลามามากแล้ว เงินหมื่นกำลังฟื้นเศรษฐกิจ ทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกแรก และจะส่งแรงกระแทกไปสู่ทุกบริบทในมิติทางเศรษฐกิจของประเทศ ในอดีตมีพรรคการเมืองเคยชูนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง พอประชาชนจะก้าวข้าม อย่าดึงให้จมอยู่กับความขัดแย้งอีกเลย วันนี้ประชาชนกลุ่ม เปราะบางกำลังจะได้ลืมตาอ้าปาก อย่าให้โทสะโมหะ บังตา จนทำให้ประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาสอีกเลย
“สมคิด” ขำเปลี่ยนนายกฯยุบ พท.
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ให้สัมภาษณ์กรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุให้จับตา เวลา 07.00 น. วันที่ 10 ต.ค. จุดเริ่มต้นจุดจบพรรคแกนนำรัฐบาลว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) ทุกคนไม่ได้กังวล แถมขำด้วยซ้ำที่บอกว่าจะเปลี่ยนตัวนายกฯและยุบพรรค พท. ตนมองว่าไม่มีเหตุอะไรที่จะทำให้เกิดเรื่องขึ้นวันที่ 10 ต.ค. หากจะยุบพรรค พท.ก็เห็นมีการยื่นมาหลายเรื่องแล้ว จนบางครั้งผู้ร้องยังจำไม่ได้ว่า ร้องเรื่องอะไรบ้าง เรื่องยุบเราไม่ได้กังวล เพราะมีประสบการณ์ ส่วนที่บอกว่า อาจถึงขั้นมีการเปลี่ยนตัวนายกฯและเป็นนายกฯคนนอก โดยเฉพาะมีชื่ออดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้วยนั้น ตนอยากให้มาเล่นกันในกระบวนการของสภาฯดีกว่า เพราะสภาฯจะเป็นผู้กำหนด นายกฯ ถูกเลือกโดยสภาฯ แล้วจะมาเลือกจากคนนอกได้อย่างไร ตนไม่เชื่อเพราะแคนดิเดตนายกฯตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88 ยังมีอยู่ ขณะนี้รัฐบาลและ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯยังทำงานเหมือนเดิม ข่าวบางข่าวสร้างเอามันสะใจเข้าว่าดีที่สุดถ้าใครอยากเป็นนายกฯต้องหาเสียงให้ได้เกินครึ่ง มาล้มกัน ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจวันที่ 10 ต.ค.จะมีอันเป็นไป ตื่นมากินกาแฟมาทำงานเหมือนเดิม ไม่มีประโยชน์คิดจะทำให้ระส่ำ เรื่องนี้นายกฯไม่ได้กังวลใจใดๆ
การันตี “เต้น” มือโปรกล่อมม็อบฉมัง
นายสมคิดยังกล่าวถึงกรณีนายกฯแต่งตั้ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกฯว่า ยังไม่ได้คุยกันว่า นายณัฐวุฒิจะมาช่วยตนดูแลม็อบหรือไม่ ต้องรอให้นายกฯกลับจากประชุมอาเซียนที่ สปป.ลาวก่อน แต่มาช่วยไกล่เกลี่ยม็อบก็ดีเพราะนายณัฐวุฒิเป็นม็อบเก่า ถือเป็นมือโปรในเรื่องนี้ ต้องให้ดูแลไปคุยกับม็อบ เมื่อถามว่า เหมือนจะเป็นการจัดวางให้นายณัฐวุฒิชนกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ เพื่อนเก่าตั้งแต่ในยุค นปช.หรือไม่ นายสมคิดตอบว่า คุยกันได้ เพื่อนกันทั้งนั้น
“นายใหญ่-ครูใหญ่” คุยไม่สนิทใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการกินข้าวมื้อเย็นที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้นำจิตวิญญาณพรรค พท. นายเนวิน ชิดชอบ “ครูใหญ่เซราะกราว” ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ภท. ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.ออกมายอมรับเองนั้น ความจริงแล้วการนัดพบกันครั้งนี้ นายทักษิณเป็นคนเรียกนายเนวินมาพบ อ้างว่าต้องการอวยพรวันเกิดให้นายเนวิน แต่เมื่อถึงช่วงที่คุยกันเรื่องการเมืองและบ้านเมือง ต่างระมัดระวังรักษาทรงกันทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้เปิดเผยสนิทใจมากนัก โดยเฉพาะประเด็นที่ต้องถกเถียงต่อรองกันในหลายๆเรื่อง และจนถึงตอนนี้ทิศทางความเห็นของพรรค พท.ก็ยังไม่ตรงกับพรรค ภท.หลายเรื่อง จนเกิดความย้อนแย้งกันอยู่ตลอด
ส่งสัญญาณยอมประชามติ 2 ชั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณยอมรับว่า เคยชินกับการเป็นรัฐบาลพรรคเดียวหรือรัฐบาลพรรคเสียงข้างมากแบบโดดๆ ต่อไปต้องหารือพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลมากขึ้น พร้อมมีท่าทีอ่อนลงในหลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งรายมาตรา และแก้ทั้งฉบับของพรรค พท.ที่ถูกพรรค ภท.ขัดขวาง เพราะไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญที่ตัวเองกำลังขยับเข้าไปคุมกลไกอำนาจ หลังกุมเสียง สว.ไว้กว่า 3 ใน 4 สามารถชี้เป้าว่าใครจะเป็นกรรมการในองค์กรอิสระต่างๆ หากรัฐธรรมนูญถูกแก้ไขอาจทำให้กลไกอำนาจหลุดมือไป รวมถึงกฎหมายประชามติที่ สว.คว่ำร่างของ สส.ด้วยเสียงท่วมท้นกว่า 160 เสียง ปรับแก้จากใช้เสียงข้างมากธรรมดาเป็นใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ต่อให้สภาฯจะยืนยันหลักการเดิมและตั้ง กมธ.ร่วมขึ้นพิจารณาแล้วก็ตาม แต่กระบวนการนี้อาจต้องหน่วงเวลาไปถึง 180 วัน หรืออาจยาวไปถึง 8 เดือน ถ้า สส.-สว.ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ดังนั้น จึงมีสัญญาณถอยจากบ้านจันทร์ส่องหล้า สุดท้ายพรรค พท.อาจยอมตามแนวทางประชามติเสียงข้างมาก 2 ชั้นของ สว.เพื่อความรวดเร็วในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับพรรค ภท.ที่ยังต้องต่อรองเรื่องสำคัญกันอีกหลายเรื่อง
พท.-ปชน.ค้านประชามติฉบับ สว.
เมื่อเวลา 14.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ตามที่วุฒิสภาส่งคืนกลับมาให้พิจารณาจะเห็นด้วยหรือไม่ ภายหลังจากแก้ไขเนื้อหาเสียงการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญให้ยึดหลักเสียงข้างมาก 2 ชั้น 1.ต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง 2.การผ่านความเห็นชอบต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงโดยมองเป็นอุปสรรคต่อการแก้รัฐธรรมนูญ จากเดิมที่สภาฯเสนอใช้เกณฑ์เสียงข้างมากชั้นเดียว โดย สส.พรรค พท.และพรรคประชาชน (ปชน.) ต่างอภิปรายคัดค้าน เพราะมีความยุ่งยากต่อการใช้บังคับ อาทิ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.อภิปรายว่า สนับสนุนเนื้อหาเดิมที่สภาฯเห็นความเห็นชอบไปแล้ว กลับไปกลับมาพรรคจะเสียหายขาดความศรัทธาจากประชาชนในการเลือกตั้ง เรื่องนี้ต้องคุยกันอีกรอบ เจรจากันให้ได้จะเสียเวลาก็ช่าง การแก้รัฐธรรมนูญต้องระมัดระวัง เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจมาก
ลงมติไม่รับร่าง-ตั้ง กมธ.ร่วม 2 สภา
ขณะที่ สส.พรรคภูมิใจไทยอภิปรายสนับสนุนเนื้อหาตามที่ สว.แก้ไขมา อาทิ น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช สส.ลพบุรี พรรค ภท.อภิปรายว่า มีความจำเป็นต้องใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้นแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นหลักการทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุด ต้องได้รับความเชื่อถือ ที่ผ่านมาการทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญมีผู้ออกมาใช้สิทธิเกิน 50% เมื่อสส.ได้อภิปรายจนครบถ้วน ลงมติเสียงข้างมาก 348 เสียง ไม่เห็นด้วยร่าง พ.ร.บ. การออกเสียงประชามติที่วุฒิสภาส่งคืนมา โดย สส.พรรคภูมิใจไทยงดออกเสียงถึง 65 เสียง จากนั้นได้ตั้ง กมธ.ร่วม 2 สภา 28 คน เป็น สส. 14 คน และ สว. 14 คน ขึ้นพิจารณา
“อิ๊งค์” โชว์วิชั่นผู้นำอาเซียน
อีกด้าน เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง อย่างเป็นทางการ เสร็จจากถ่ายรูปหมู่ร่วมกับผู้นำแล้วได้เข้าร่วมกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 44 โดย น.ส.แพทองธารกล่าวย้ำถึงความจำเป็นที่อาเซียนต้องทำงานร่วมกันแก้ไขปัญหาและส่งเสริมการกินดีอยู่ดีของประชาชนกว่า 700 ล้านคนในภูมิภาค ที่ไทยเสนอว่าด้านความยั่งยืน อาเซียนต้องร่วมกันสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน เปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด การเงินสีเขียว และเศรษฐกิจสีเขียว ด้านความมั่นคงของมนุษย์ อาเซียนร่วมกันต่อสู้กับทุกวิกฤติ เพื่อให้ประชาชนมี อาหาร พลังงาน และสิ่งจำเป็นพื้นฐาน ร่วมกันส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพิ่มศักยภาพการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และไทยสนับสนุนปรับปรุงยกระดับ FTA กับประเทศคู่เจรจาเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ๆในอาเซียน
กระตุ้นความเชื่อมโยงทุกมิติ
น.ส.แพทองธารกล่าวด้วยว่า การสร้างความเชื่อมโยงในทุกๆด้านจะเป็นกุญแจสำคัญ อาทิ ขอให้อาเซียนส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนต่อกันเป็นพิเศษ เช่น การเพิ่มเที่ยวบินและขยายระยะเวลาการยกเว้นวีซ่า ระหว่างประเทศอาเซียน การส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว และสมาชิกอาเซียน ควรหลีกเลี่ยงการเป็นตัวแทนของอำนาจใดๆ หรือปล่อยให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นเวทีแห่งการแข่งขัน เพื่อสร้างสมดุลเชิงยุทธศาสตร์ และไทยจะทำหน้าที่ส่งเสริมสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างแข็งขันเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาในภูมิภาค ไทยจะรอการสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านระหว่างอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี และอาเซียน-นิวซีแลนด์ และไทยพร้อมสนับสนุนข้อริเริ่มของมาเลเซียในการจัดการประชุม ASEAN-GCC-China Summit ในปีหน้า
ชูสร้างสันติภาพไม่เลือกข้าง
จากนั้นเวลา 11.20 น. น.ส.แพทองธารหารือทวิภาคีกับนายลอว์เรน หว่อง นายกฯสาธารณรัฐสิงคโปร์ ก่อนเข้าร่วมกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 45 โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อาเซียนต้องมุ่งมั่นเสริมสร้างประชาคมอาเซียน รักษาและคงความแข็งแกร่งเป็นหนึ่งเดียว รักษาสันติภาพ เสถียรภาพในภูมิภาค มีจุดยืนที่เป็นหลักการแต่ไม่เลือกข้าง ไทยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์เพื่อแก้ไขข้อพิพาทในทะเลจีนใต้อย่างสันติ ให้ความสำคัญสูงสุดกับความขัดแย้งในเมียนมาโดยจะทำงานร่วมกับมิตรประเทศในอาเซียนและภายนอกเพื่อนำสันติภาพในเมียนมากลับคืนมา การใช้กำลังทางทหารไม่ใช่ทางออก และไทยพร้อมช่วยเหลือชาวเมียนมามากขึ้น ส่วนจุดยืนสถานการณ์ในตะวันออกกลาง รวมถึงวิกฤติด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซานั้น ไทยสนับสนุนความพยายามเพื่อบรรลุข้อตกลงการหยุดยิง ปล่อยตัวพลเรือนทุกคนอย่างไม่มีเงื่อนไข
ลุยถกวงย่อยจับเข่าคุยผู้นำ
ต่อมาเวลา 13.30 น. น.ส.แพทองธารไปกล่าวปาฐกถาในการหารือระหว่างผู้นำอาเซียนกับผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter- Parlia mentary Assembly : AIPA)ว่า ความพยายามของรัฐบาลเพียงอย่างเดียวไม่สามารถบรรลุวิสัยทัศน์ในการเป็นชุมชนที่เจริญรุ่งเรือง และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง AIPA มีบทบาทสำคัญเป็นตัวแทนของเสียงประชาชน เสริมความเข้มแข็งในประชาคมอาเซียนใน 3 ประเด็นสำคัญ คือการบูรณาการอย่างกลมกลืน เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าภายใน และระหว่างภูมิภาค กรอบกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความยั่งยืนและความมั่นคงของมนุษย์ และส่งเสริมอัตลักษณ์ของอาเซียน นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ได้เข้าเฝ้าฯสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม หารือทวิภาคีกับนายฮุน มาเนต นายกฯราชอาณาจักรกัมพูชา และนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกฯสาธารณรัฐสังคม นิยมเวียดนาม ตามลำดับ ก่อนไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์
เพจเชียร์อวดไอแพดสมุดโน้ตคู่ใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่ น.ส.แพทองธารเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องที่ สปป.ลาว เพจ “Ingshin Forever” เป็นเพจที่สนับสนุนนายกฯได้โพสต์ภาพ น.ส.แพทองธารขณะถือไอแพดส่วนตัวโชว์ พร้อมข้อความระบุว่า “นายกฯแพทองธารกับไอแพดคู่ใจ” พร้อมอิโมจิหน้ายิ้ม ซึ่งมีหัวใจหลายดวง ทั้งนี้ มีประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็นระบุว่า “ไอแพดมันก็คือสมุดโน้ต ต่างกันตรงที่ใครจะเลือกใช้ให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง”
“ทักษิณ” วางแผนไป “อินโดฯ-สหรัฐฯ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ วางแผนเตรียมขอศาลเดินทางออกราชอาณาจักรเป็นครั้งที่ 2 หลังเคยถูกศาลยกคำร้องไม่อนุญาตให้ไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อพบแพทย์เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2567 โดยกำหนดไว้ว่าในวัน 20 ต.ค.จะไปร่วมแสดงความยินดีกับนายปราโบโว ซูเบียนโต ที่ชนะการเลือกตั้ง มีพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซีย ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 20 ต.ค.นี้ โดยนายซูเบียนโตวัย 72 ปี เคยเดินทางมาพบนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2567 นอกจากนี้นายทักษิณยังมีแผนเตรียมเดินทางไปร่วมแสดงความยินดีกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นเดือน พ.ย.ด้วย
“อี้” ร้องลากตัว 18 มงกุฎในสภาฯ
ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบกรณีมีบุคคลแอบอ้างมีตำแหน่งในสภาฯหลอกลวงเหยื่อ โดยนายแทนคุณกล่าวว่า บุคคลดังกล่าวเป็นชายอายุ 41 ปี ชื่อย่อ “น.” เปลี่ยนชื่อมา 3 ครั้ง มีพฤติกรรมแต่งชุดขาว อ้างเป็นทหารเรือยศนาวาตรี มีตำแหน่งสำคัญในสภา และเกี่ยวข้องกับ กมธ.งบฯ ไปยืนถ่ายรูปหน้าห้องสำนักงานประธานสภาฯ หลอกลวงผู้หญิงมาร่วมลงทุนครั้งละ 1-2 แสนบาท มีผู้เสียหายจำนวนมากบางรายมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง รวมถึงอ้างฝากงานราชการ ดีลงานส่วนราชการต่างๆได้ มีค่าใช้จ่าย 1.2 ล้านบาท อ้างเป็นที่ปรึกษานายกฯด้านโลจิสติกส์ เป็นคดีหลายคดี ขณะนี้ยังถูกตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์คดีอยู่ที่ศาล เป็นบุคคลอันตรายมักเข้าๆ ออกๆสภา ถึงขั้นเคยเข้าห้องประชุมไปถ่ายรูปฝั่งตรงข้ามบัลลังก์ประธานสภาฯด้วย
“วันนอร์” ยันเช็กกล้องวงจรปิดได้
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนอยู่ระหว่างประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน ยังไม่ได้รับรายงาน กลับไปจะตรวจสอบเรื่องนี้ ปกติมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว จะรู้ว่าเกิดขึ้นช่วงใด รัฐสภาไม่เหมือนทำเนียบรัฐบาล เพราะสภาฯเป็นที่ของประชาชน คนภายนอกสามารถมาเยี่ยมชมพบประธานสภาฯได้ ยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ต่างๆได้ ถ้าเข้มงวดมากไปจะกระทบประชาชนที่มาพบ สส.แต่คงไม่ถึงขั้นยกระดับการรักษาความปลอดภัย ได้มอบให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯไปดูแลออกมาตรการ
แฉ 2 ผู้ต้องหาคดีตากใบกบดานต่างประเทศ
นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ (ปช.) ในฐานะประธาน กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาฯ แถลงว่า การประชุม กมธ.วันที่ 9 ต.ค.ได้พิจารณาคดีการสลายการชุมนุมตากใบที่มีผู้ต้องหา 14 คนที่ตำรวจยังจับกุมตัวไม่ได้ คดีจะหมดอายุความวันที่ 25 ต.ค.โดยเชิญตัวแทนตำรวจ และอัยการภาค 9 สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) มาให้ข้อมูล ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีผู้ต้องหา 2 คน เดินทางไปต่างประเทศจริง แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อเป็นใคร ได้ประสานไปยังกองการต่างประเทศ กระทรวงต่างประเทศ เพื่อออกหมายติดตามตัวแล้ว ขณะที่อัยการแจ้งว่า หากจับกุมในวันที่ 25 ต.ค.วันหมดอายุความ อัยการสามารถยื่นฟ้องได้ทันที ส่วนเหตุการณ์วางระเบิดบ้านพัก นอภ.ตากใบเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ตำรวจแจ้งว่าไม่มีความเชื่อมโยงกับคดีตากใบ
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่