กรณี นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เติบโตทางการเมืองใน เวลาอันรวดเร็ว ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศในอายุยังน้อยเพียง 38 ปี ได้รับการเสนอชื่อว่าเป็น นายกฯ หญิงอายุน้อยที่สุด ในเอเชีย ที่ไปที่มาคงไม่ต้องสาธยายอะไรมากมาย แต่สิ่งที่นายกฯ แพทองธารแบกรับไม่เฉพาะภายใต้ตำแหน่งนายก รัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย แต่ต้องแบกรับบุญคุณความแค้นตั้งแต่ในอดีตของคนใน ตระกูลชินวัตร เอาไว้ด้วย

ไม่ต่างจาก อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือ อดีตนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในจุดแข็งย่อมมีจุดอ่อนเสมอ เกราะกำบัง กำลังหนุน ที่มีอยู่รอบตัว นายน้อย สมบัติอันมีค่าที่สุดของ นายใหญ่ เป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน ท่ามกลางสถานการณ์ หมาป่ากับลูกแกะ ถ้าจะโค่น ชินวัตร ก็ต้องโค่นที่ นายกฯ แพทองธาร เพราะฉะนั้นทุกย่างก้าวของ แพทองธาร จะถูกจับจ้องเป็นพิเศษ แม้กระทั่งอ่าน speech ผ่าน Ipad ของ นายกฯ แพทองธาร ในระหว่างประชุมเวทีสากลก็ถูกเอามาตั้งเป็นประเด็นทางการเมือง มีคนออกมาพูดแทนนายกฯ แพทองธารทันที จนรู้สึกมากไป

ในโลกของโซเชียล เป็น โลกเสมือนจริง มีผิดมีถูก แต่สื่อสารได้เร็วที่สุด เข้าถึงผู้ใช้มากที่สุด แต่โลกความเป็นจริง ความถูกต้อง สำคัญที่สุด ส่วนจะถูกจะผิดแล้วแต่ทัศนคติและมุมมองของแต่ละคน ความถนัดที่ไม่เหมือนกัน ผู้นำบางคนอ่านหนังสือไม่แตก ก็ไม่ชอบนั่งอ่านตัวหนังสือในกระดาษ by heart รู้เรื่องกว่า เป็นการพิสูจน์ว่า ระหว่าง นายกฯ แพทองธาร กับ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ก็มีอะไรที่ไม่เหมือนกัน จะลอกเลียนแบบกันไม่ได้ทุกเรื่อง

สรุปคือเรื่องไม่เป็นเรื่อง

หรือถ้าจะเปรียบเทียบการทำงานของ พรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ที่มีความแตกต่างกันในเชิงนโยบายและการปฏิบัติ ภาษาชาวบ้านคือ พรรคประชาชน จะมองโลกสวย จึงเหมาะกับ คนที่ชอบโลกสวย บางครั้งในโลกความเป็นจริงก็ไม่ได้งดงามเสมอไป แต่ พรรคเพื่อไทย ยังยึดในนโยบายประชานิยม เป็นแก่นแท้ การลดแลกแจกแถมเป็นระยะๆ แม้จะเป็นนโยบายเฉพาะกิจ แต่ถูกจริตคนไทย ยกตัวอย่าง นิด้าโพล สำรวจความเห็นคนที่ได้รับ เงินสด 10,000 บาทจากรัฐบาล ส่วนใหญ่ ร้อยละ 86.79 นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ไม่ต้องไปคิดอะไรหลายชั้น ที่เหลือ ร้อยละ 16.49 เก็บเอาไว้ใช้ในอนาคต ร้อยละ 14.35 นำไปใช้เพื่อสุขภาพ ซื้อยา หาหมอ เอาไปลงทุนทำการค้า ร้อยละ 8.24 การศึกษาร้อยละ 7.48 มีเอาไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ซื้อหวย เพื่อการบันเทิง ซื้อทอง ซื้อเพชร ระหว่างร้อยละ 0.15-1.37 น้อยมาก

...

แต่เมื่อถามว่า มีผลต่อการตัดสินใจในการสนับสนุนรัฐบาลนี้หรือไม่ ร้อยละ 34.35 บอกยังไม่แน่ใจ มีเพียงร้อยละ 30.31 ที่ยอมรับว่า มีส่วนที่จะสนับสนุนรัฐบาลนี้ ที่เป็นแฟนคลับจะได้เงินหรือไม่ได้เงิน 10,000 บาทก็สนับสนุนอยู่แล้ว อีกร้อยละ 13.13 จะแจกไม่แจกก็ไม่สนับสนุน ประชาธิปไตยที่กินได้กับประชาธิปไตยใหม่
ใครแพ้ใครชนะไม่ต้องอธิบายให้เมื่อยตุ้ม.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม