ด้วยอายุและประสบการณ์ที่มีไม่มากนัก จึงเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นห่วงว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 31 ของไทยจะนำพาประเทศไปได้แค่ไหน
แม้โลกปัจจุบันผู้นำประเทศจะเป็นสุภาพสตรีและมีอายุน้อยเพิ่มมากขึ้น แต่นั่นก็อยู่ที่เมื่อขึ้นเป็นผู้นำแล้ว
จะเรียนรู้และปรับตัวมากน้อยแค่ไหนเป็นเรื่องเฉพาะตัว
“แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันนั้นต้องถือว่าเป็นคนโชคดีที่มี “พ่อ” เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีมาก่อน
อีกทั้งยังเป็นเจ้าของพรรคการเมืองชั้นนำของประเทศที่มีอิทธิพลมากพอสมควรจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องฐานเสียงและแรงสนับสนุน
ที่สำคัญคือ มาอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง
แม้จะแฝงจากระบบ “อุปถัมภ์” ก็ตาม!
การศึกษาก็จบจากต่างประเทศ มีประสบการณ์จากการทำธุรกิจซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากตระกูล
แต่ประสบการณ์ด้านการเมืองยังถือว่าน้อยมากนอกจากเรียนรู้ “พ่อ” ซึ่งเป็นนักการเมืองผู้คร่ำหวอด
ทว่าก็ไม่เคยได้สัมผัสในสนามจริง...พูดง่ายๆ ว่าได้แต่ดูอยู่ห่างๆ แต่มีกลิ่นอาย
คนไทยนั้นคุ้นเคยกับผู้นำประเทศที่มีวัยค่อนข้างไปทางกลางคนมาตลอด เมื่อเจอผู้นำวัยละอ่อนอย่างนี้จึงไม่คุ้นเคยและเกิดความวิตกอยู่บ้าง
ก็เป็นเรื่องต่างจิตต่างใจ...
ประเด็นที่อยากจะพูดถึงก็คือ โลกปัจจุบันนั้นเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งความคิดและเทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก
ถ้าพยายามเรียนรู้และศึกษา
การเป็นผู้นำประเทศก็ต้องเรียนรู้ให้มากโดยการอ่านและใส่ใจในเรื่องที่จะต้องรู้เพื่อให้การตัดสินใจต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องใหญ่ๆที่มีความสำคัญต่อประเทศและประชาชน
นี่เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งเพราะสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง
นอกจากนั้นจะต้องมีเทคนิคและวิธีการเพื่อทำให้การตัดสินใจไม่ผิดพลาด หากไม่รู้เรื่องไหนก็ต้องถามต้องหาข้อมูล
...
ยิ่งในรัฐบาลผสมอย่างนี้ย่อมมีความเห็นต่างมากก็ต้องถามความเห็นของแต่ละฝ่ายแล้วก็นำมาประมวลก่อนที่จะปรึกษาทีมที่ปรึกษาส่วนตัว
ก็จะทำให้การตัดสินใจถูกต้องไม่ผิดพลาดและพอใจทุกฝ่าย
แน่นอนว่าด้านหนึ่งมี “พ่อ” เป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดที่สุดแล้วยังมี “5 อรหันต์” ที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลกอีกชุดหนึ่ง
ซึ่งแต่ละคนก็มีความรู้และประสบการณ์พอตัวที่จะทำให้การตัดสินใจไปในทางที่ถูกต้องได้ แต่ทุกอย่าง
ขึ้นอยู่กับการรับรู้และการตัดสินใจของตัวเองเป็นหลักสำคัญ
จากนี้ไปในภารกิจก็จะเพิ่มมากขึ้น และพิสูจน์ตัวตนว่ามีความสามารถแค่ไหน โดยเฉพาะการจะต้องไปพบปะกับผู้นำประเทศต่างๆทั้งในระดับโลกและระดับอาเซียน
ที่ปรึกษาจึงต้องแนะนำและเสริมภูมิให้แน่นเข้าไว้ เพราะนอกจากจะเป็นการเปิดเผยตัวตนแล้ว ยังต้องเจอกับปัญหาใหญ่ๆ ทั้งระดับโลกและระดับประเทศ
การประชุมผู้นำอาเซียนและประเทศใหญ่ๆ ที่เวียงจันทน์ จะเป็นบทพิสูจน์ยกแรก
ว่ามี “กึ๋น” แค่ไหน?...
“สายล่อฟ้า”
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม