ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ อากาศกำลังแปรปรวนทำอะไรคงต้องพึงระมัด ระวังเป็นพิเศษ เพราะเครื่องกำลังเพิ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ขืนทะเล่อทะล่าตกหลุมอากาศแล้วมันจะยุ่ง

ถามกันมากว่าช่วงนี้รู้สึกว่าจะมี “คนหาย” ไปจากจอเรดาร์ มีใครพบเห็น ช่วยแจ้งด้วยเพราะเป็นคนสำคัญ

ที่เคยเบ่งบารมีกลับเงียบหายไปเฉยๆ

ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน “พ่อนายกฯ” ที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” นี่แหละ...

เป็นปรากฏการณ์ที่ค่อนข้างจะแปลกไปสักหน่อย เพราะแทบจะไม่ค่อยเป็นอย่างนี้มาก่อน ปกติจะชอบแสดงตัวและให้ความเห็นมาตลอด

สืบสาวมาได้ความว่าไม่ได้หลบไปไหนหรอก แต่จำเป็นต้องเก็บตัว เพราะสถานการณ์อย่างนี้ไม่เหมาะ

เนื่องจากเวลานี้มีนายกรัฐมนตรีชื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” ลูกสาวหัวแก้ว หัวแหวนที่กำลังนำยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

กำลังไต่เพดานบินยังไม่ได้ระดับสมดุล

จึงต้องปล่อยให้ขับเคลื่อนไปสู่จุดที่เหมาะสมเสียก่อน

บทเรียนจากรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องพ้นจากตำแหน่งก็เพราะถูกคลื่นลมกวน

ก็เพราะเขามีส่วนด้วย!

โดยเฉพาะการส่งของชำรุดให้เป็นรัฐมนตรีที่ชื่อ “พิชิต ชื่นบาน” นั่นแหละ

นั่นยังเป็นคนนอกที่มาอาศัยใบบุญ

แต่นี่เป็นลูกสาวแท้ๆ จึงต้องระมัด ระวัง จะทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี ถ้าผิดพลาดขึ้นมาทั้งพ่อทั้งลูก

จะจบเห่พร้อมๆกัน...

นั่นประเด็นหนึ่ง

อีกประเด็นหนึ่งก็เพราะ...

ต้องการให้นายกรัฐมนตรีได้แสดงฝีมือ ในฐานะเบอร์ 1 ได้อย่างเต็มที่ เดี๋ยวจะถูกข้อครหาว่ามีนายกรัฐมนตรี 2 คน จนต้องเสียความมั่นใจไปได้

สู้หลบอยู่หลังฉากดีกว่า!

ขนาดยังไม่ทันได้ทำงานก็โดนนักร้องวางบิลไปแล้วหลายชุด ยิ่งวันนี้มาตรการทางการเมืองว่าด้วยเรื่อง “จริยธรรม” กำลังเบ่งบาน

...

แรงขนาดว่า “เพื่อไทย” ต้องถอนสมอ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะนอกจากกระแสของประชาชนแล้ว ในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง

ก็แสดงตัวตนแจ้งประจักษ์มาแล้ว

นายกรัฐมนตรีประกาศว่าต้องการที่จะเป็นรัฐบาลให้ครบ 3 ปี ก็หมายความว่าต้องการให้ครบเทอมแล้วเลือกตั้งใหม่

เพื่อเป็นต่อไปอีกวาระจนกว่าประชาชนจะไม่ต้องการ

นั่นแสดงถึงความมั่นใจว่าสามารถที่จะขับเคลื่อนรัฐบาลให้เดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นคง เพื่อให้ประชาชนมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี

ลำพังเสียงสนับสนุนนั้นไม่ต้องห่วง

อีกทั้งนายกรัฐมนตรีเปรียบไปก็เหมือน “ไข่ในหิน” ล้อมรอบด้วย “5 จอมยุทธ์” ที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์

และมี 2 นายกฯน้อย “ซ้าย-ขวา” อย่าง “ภูมิธรรม-หมอมิ้ง” ห้อมล้อม

อยู่ที่ว่าจะนำข้อชี้แนะต่างๆไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรมสู่การปฏิบัติอย่างไรให้สัมฤทธิผล รวมถึงการบริหารคน 35 คน ในฐานะรัฐมนตรี

ให้รับลูกให้ได้เท่านั้น...

อีกทั้งยังมีที่ปรึกษาใหญ่ชื่อ “ทักษิณ” คุมบังเหียน ก็น่าจะพารัฐนาวาลำนี้ฝ่าคลื่นลมต่างๆไปได้อย่างที่ปรารถนา

ถ้าไม่ทุจริตโกงกินแบบเก่าก็คงสมหวังได้!

“ลิขิต จงสกุล”

คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม