“แพทองธาร” สั่งเร่งฟื้นฟูแม่สาย ตั้งเป้า ต้นเดือน พ.ย. ต้องเหมือนเดิม ลุยโคลนซับน้ำตาชาวบ้าน คุณยายวัย 80 ปี ร้องไห้โฮ ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้เจอนายกฯ มอบเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย-แจกผ้าอ้อมสำเร็จรูป 102 ห่อจากเงินส่วนตัว ผู้ว่าฯ เชียงราย โดดร่วมคณะ นายกฯ วันที่ 2 ทำ “อนุทิน” ไม่พอใจ
วันที่ 28 กันยายน 2567 เมื่อเวลา 09.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม และคณะ ได้เดินทางต่อมายังที่ว่าการอำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอแม่สาย มี น.ส.ละออง ติยะไพรัช น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย รอให้การต้อนรับ
โดย น.ส.แพทองธาร ได้รับฟังรายงานสรุปจากหน่วยงานของกรมทหารช่างและนายอำเภอแม่สาย ก่อนขึ้นรถบรรทุกทหารเพื่อลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์และติดตามการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหลังจากเหตุการณ์อุทกภัย ณ บ้านเกาะทราย และบ้านผาจม ต.แม่สาย โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวระหว่างนั่งรถว่า ภายในวันที่ 1 ตุลาคมจะมีการเคลียร์ดินโคลนบริเวณถนนที่เป็นถนนสายหลักทั้งหมด 24 สาย ตลาดสายลมจอย และกู้คืนสภาพโรงเรียนบ้านไม้ลุงขนได้สำเร็จ แต่ก็จะต้องเข้ามาเคลียร์พื้นที่อีกครั้ง โดยจะใช้เวลาประมาณ 45 วันซึ่งคาดว่าประมาณต้นเดือน พ.ย. จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ปัญหาคือบ้านที่พังเสียหายต้องเร่งเยียวยา และยังมีบ้านเรือนอีก 64 หลังที่เสียหายทั้งหลัง ถือว่าเสียหายอย่างหนักมากและหากดูตามกฎหมายแล้วก็จะได้รับค่าชดเชยมากพอสมควรเพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องรับไปดูแล
...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั่งรถ นายกฯ ได้มีการอัปเดตข้อมูลกับนายอำเภอแม่สาย เรื่องการทำงานขณะเดียวกันก็ได้มีการสอบถามถึงการทำงานรวมทั้งเครื่องจักรของทางกองทัพจาก พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ซึ่งได้มีการรายงานและอัปเดตข้อมูลอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งยังได้สั่งให้ สส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ไปตรวจเช็ครายละเอียดเรื่องของเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ ยาต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อนำมาให้กับประชาชนในพื้นที่รวมทั้งสอบถามว่ายังขาดเหลืออะไรและมีสิ่งของที่ยังต้องการอะไรเพิ่มเติม เพื่อจะได้เร่งดำเนินการจัดส่งมาให้
คุณยายวัย 80 ปี ร้องไห้โฮ ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้เจอนายกฯ
ต่อมาเวลา 9.55 น. น.ส.แพทองธาร เดินทางถึงบ้านเกาะทราย พร้อมลงเดินลุยโคลนเข้ามาในซอยบ้านเกาะทราย 9 โดยได้ให้กำลังใจทหารกองบัญชาการทหารพัฒนา ที่กำลังช่วยกวาดดินโคลนออกจากบ้านเรือนประชาชน จากนั้นรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และแนวทางการฟื้นฟูในพื้นที่ และได้เข้าไปเยี่ยมบ้านประชาชนที่ได้รับผลกระทบและพูดคุยสอบถามถึงขั้นตอนการขูดโคลนและใช้เครื่องดันน้ำแรงดันสูงฉีดโคลนออกจากบ้านเรือน นายกฯ ยังได้เข้าไปเยี่ยมเยียนบ้านประชาชนที่ได้รับความเสียหายและมีดินโคลนเข้าภายในบ้านจำนวนมาก โดยประชาชนได้ร้องไห้เข้าสวมกอดนายกฯ พร้อมเล่าถึงความเดือดร้อน ทำให้นายกฯ น้ำตาคลอ ก่อนที่นายกฯ ได้ทักทายผู้สูงอายุที่หน่วยแพทย์ทหารได้เข้ามาตรวจสุขภาพ วัดความดันให้ โดยนายกฯ กล่าวให้กำลังใจคุณยาย ขอให้มีกำลังใจนะ วันนี้มากันหมดเลยทั้งนายกฯ รองนายกฯ และรัฐมนตรี ช่วยแน่นอน อีกทั้งยังได้เข้าไปเยี่ยมคุณยายตาล หงศ์คำ อายุ 80 ปี ซึ่งคุณยายร้องไห้โฮและยกมือท่วมหัวหลังจากได้เจอนายกฯ พร้อมกล่าวว่า ไม่คิดว่าชีวิตยายจะได้เจอกับนายกฯ ซึ่งนายกฯ ได้สอบถามถึงอาการป่วยและแพทย์ที่เข้ามาดูแลและจ่ายยาให้กับคุณยายถึงบ้าน เนื่องจากไม่ยอมออกจากบ้านตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ นายกฯ ระบุว่าให้กำลังใจยายนะ ไม่เป็นไรทุกคนเข้ามาช่วยทั้งหมด และขอยืนยันว่าเท่าที่พูดคุยกับทหารจะไม่มีใครออกจากพื้นที่เลย จะดูให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนและเร่งทำงาน ก่อนมอบยารักษาโรคประจำตัวให้คุณยาย ก่อนเดินมาพบกับกลุ่มนักเรียนโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ ที่มาช่วยทำความสะอาดในพื้นที่ นายกฯ จึงให้กำลังใจในการทำงานช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอกของทีมหมูป่า ได้ยื่นข้อเสนอถึงนายกฯ ขอให้ช่วยประสานงานจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และฟื้นฟูจิตใจเด็กและเยาวชนในชุมชนผู้ประสบภัย รวมถึงให้ตั้ง ศปช. ชุมชน ทำงานร่วมกับ ศปช. ส่วนหน้า และช่วงปิดภาคเรียนขอให้มีมาตรการกระตุ้นสนับสนุนเยาวชนในพื้นที่ที่ประสบภัยได้เป็นจิตอาสาเพื่อมีรายได้พิเศษจากการทำงานช่วยเหลือฟื้นฟูชุมชน
มอบเงินเยียวยาแม่สาย-แจกผ้าอ้อมสำเร็จรูป 102 ห่อจากเงินส่วนตัว
จากนั้นเวลา 11.00 น. นายกฯ พร้อมคณะเดินทางไปยังวัดพรหมวิหาร อ.แม่สาย เพื่อพบปะให้กำลังใจ และมอบเงินเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย โดยมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต จำนวน 4 ราย ๆ ละ 29,700 บาท และหัวหน้าครอบครัว จำนวน 1 ราย จำนวนเงิน 59,400 บาท มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอำเภอแม่สาย บ้านเสียหายจำนวน 50 ครอบครัว เป็นเงิน 2,475,000 บาท มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 อำเภอแม่สายจำนวน 222 ครัวเรือนเป็นเงิน 1,110,000 บาทถ้วน มอบชุดอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านเรือนให้กับผู้ประสบภัย และมอบผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก จำนวน 102 ห่อใหญ่ จากเงินส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าในการลงพื้นที่วันที่ 2 ที่ จ.เชียงรายโดยเฉพาะที่ อ.แม่สาย ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดในขณะนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไม่ได้เดินทางร่วมคณะแต่อย่างใด มีเพียงผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายอำเภอแม่สาย สส.ในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติเท่านั้น โดยมีรายงานว่าเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทยเป็นอย่างมากโดยมีการกล่าวกับคนใกล้ชิดว่า แม้จะใกล้เกษียณอายุราชการแล้ว แต่เมื่อประชาชนเดือดร้อนก็ควรที่จะปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ก่อน