“นายกฯอิ๊งค์” โยนคลังเคลียร์หั่นแจกเงินหมื่นเฟสสองเหลือ 5 พัน “จุลพันธ์” ยันยังไม่เคาะวงเงิน อ้างกำลังจัดทำรายละเอียดยังไม่มีข้อสรุป รอบอร์ดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจชี้ขาด “สรวงศ์” รับรัฐหืดจับไส้แห้ง รายได้การท่องเที่ยวยังขาดอีก 8 แสนล้านบาท ไล่ฟื้นปัดฝุ่นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่งยุค “ลุงตู่” หวังช่วยดึงเงินเข้าคลัง “วันนอร์” เผยประชุมรัฐสภาถกแก้รัฐธรรมนูญกลางเดือน ต.ค. ชี้ สว.รื้อใหม่ร่างกฎหมายประชามติ ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ยิ่งทำให้การแก้รัฐธรรมนูญล่าช้า วุฒิสภานัด 30ก.ย.พิจารณาแก้เกณฑ์ประชามติล็อกเสียงข้างมาก 2 ชั้น พท.ปัดยังไม่ได้คุย “สันติ-วราเทพ” ย้ายคืนรัง“ไพบูลย์” โต้ข่าวไม่จริง รู้กันอยู่ใครตัวการปล่อยข่าว

หลังจากรัฐบาลทยอยโอนเงินในโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตให้แก่กลุ่มเปราะบางไปแล้ว แต่ในส่วนของผู้มีสิทธิได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 อีก 26 ล้านคน ยังต้องรอลุ้นท่ามกลางกระแสข่าวอาจจะลดวงเงินเหลือเพียง 5 พันบาท ขณะที่รัฐบาลต้องเร่งจัดหารายได้เข้ารัฐ โดยเตรียมปัดฝุ่นทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่งในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาดำเนินการอีกครั้ง

นายกฯเปิด 30 บาทรักษาทุกที่ กทม.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ก.ย. ที่ลานอเนก ประสงค์ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า กทม. มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยนายกฯได้มอบโล่ตราสัญลักษณ์ 30 บาทรักษาทุกที่ให้ผู้แทน 7 หน่วยบริการนวัตกรรม ได้แก่ แพทยสภา ทันตแพทยสภา สภาเภสัชกรรม สภาการพยาบาล สภากายภาพบำบัด สภาเทคนิคการแพทย์ และสภาการแพทย์แผนไทย

...

ปลื้มโปรเจกต์ตกทอดจากพ่อ “ทักษิณ”

นายกฯกล่าวปาฐกถาหัวข้อ “จาก 30 บาทรักษาทุกโรค สู่ 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า” โดยเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้รับฟังจากนายทักษิณ ชินวัตร สมัยเป็นนายกฯว่า มีคนเดินมาหาคุณพ่อและถอดเสื้อโชว์แผลผ่าตัดหัวใจขนาดใหญ่ตรงหน้าอก ที่จ่ายเงินแค่ 30 บาทก็รักษาได้ อยู่ในความทรงจำผ่านมา 23 ปี ถึงเวลายกระดับจาก “30 บาทรักษาทุกโรค สู่ 30 บาทรักษาทุกที่” ที่ขยายมาถึง กทม.รวม 46 จังหวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มั่นใจได้ว่าภายในปี 2567 จะขยายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกตารางนิ้วทั่วประเทศ จากนั้นนายกฯทำพิธีเปิดงาน พร้อมมอบรถวีลแชร์ให้ตัวแทนผู้ป่วย 7 คน เดินเยี่ยมชมนิทรรศการและนวัตกรรมบริการปฐมภูมิสาธารณสุขวิถีใหม่ของสาธารณสุข

ให้รอคลังชี้ชัดแจกเฟส 2 เหลือ 5 พัน

ต่อมาเวลา 13.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ภายหลังเป็นประธานพิธีเลี้ยงฉลองชัยมอบเงินรางวัลและแสดงความยินดีแก่นักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 17 ถึงกระแสข่าวกรณีจะลดวงเงินเหลือ 5 พันบาทในโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 ว่า รอให้กระทรวงคลังมายืนยัน มีหลายแบบ ถ้าให้อธิบายตอนนี้มันสั้นไปหน่อย ก่อนเดินกลับขึ้นห้องทำงาน ตึกไทยคู่ฟ้า นายกฯยังกล่าวว่า จริงๆแล้วเราค่อยสัมภาษณ์กันวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดีกว่า

“จุลพันธ์” ย้ำเฟส 2 ยังไม่เคาะวงเงิน

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า การโอนเงิน 10,000 บาท ลงไปให้กลุ่มเปราะบางวันที่ 3 ในวันที่ 27 ก.ย. โอนให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ ที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนลงท้าย เลข 4, 5, 6, 7 จำนวน 4.5 ล้านคน สามารถโอนให้สำเร็จเรียบร้อยครบทุกบัญชี ตั้งแต่ช่วงเวลาตี 4 ทุกคนที่ตื่นมาได้รับเงินหมดแล้วและไม่ได้มีปัญหาติดขัดอะไร ส่วนยอดการโอนในวันที่ 2 แก่ผู้ที่มีเลขบัตรลงท้ายเลขที่ 1, 2, 3 ภาพรวมสำเร็จด้วยดีประชาชนนำเงินไปใช้จ่ายได้ทันที สำหรับการแจกเงินให้ผู้ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐที่ไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มเปราะบาง ที่คาดจะมีราว 26 ล้านคน ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดในหลายประเด็น และยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ฉะนั้น ต้องรอการประชุมคณะกรรมการ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายกฯเป็นประธานก่อน ถึงจะให้คำตอบได้

เล็งปัดฝุ่นคนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวปี 2568 ว่า ขณะนี้กำลังไล่รื้อแผนช่วงโลว์ซีซันในปีหน้า โดยฟื้นโครงการเราเที่ยวด้วยกันกลับมา เพราะแอปพลิเคชันนี้ปัจจุบันยังอยู่ จากตัวเลขการเดินทางเข้ามาเที่ยวค่อนข้างเยอะ จะช่วยได้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค แม้มีอุทกภัยทำให้สายการบินยกเลิกเที่ยวบินมากพอสมควร แต่เชื่อว่าไตรมาสสุดท้ายปีนี้ยอดจองยังเหมือนเดิม ยังไม่ยกเลิกเข้ามา ยอมรับว่าตัวเลขรายได้จากท่องเที่ยวยังขาดอีก 8 แสนล้านบาท เป็นเรื่องที่เหนื่อย ยืนยันจะพยายามอัดกิจกรรมต่างๆให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนเต็มที่ เมื่อถามว่าจะนำโครงการคนละครึ่งกลับมาด้วยหรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า พยายามอยู่ เพราะนโยบายไหนรัฐบาลใดก็ตามที่ทำไว้ดีแล้ว เราเอากลับมาใช้แน่นอน แต่ต้องปัดฝุ่นให้ดี

รัฐสภาประชุมแก้ รธน.กลาง ต.ค.

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่า มีร่างที่ถูกบรรจุระเบียบวาระแล้ว 3 ร่าง ของพรรคประชาชน (ปชน.) ส่วนพรรคเพื่อไทย (พท.) จะส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราอีกหรือไม่ ต้องรอความชัดเจนก่อนบรรจุสู่ระเบียบวาระเพิ่มเติมเรื่องเดียวกันเพื่อพิจารณาพร้อมกัน คาดว่าน่าจะประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญช่วงกลางเดือนตุลาคม หากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือแก้ไขอำนาจองค์กรอิสระ หรืออำนาจฝ่ายนิติบัญญัติไม่ว่าจะลดหรือเพิ่ม ต้องทำประชามติถามความเห็นประชาชนตามรัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนการแก้ไขมาตรฐานจริยธรรม อยู่ที่สาระสำคัญต้องพิจารณาว่าแก้ไขอย่างไร มีทั้งประเด็นที่ต้องทำและไม่ทำประชามติ กรณี สว.ต้องการแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ เพราะไม่เห็นด้วยกับการใช้เสียงข้างมากปกติหรือ single majority แต่ให้ใช้วิธีเสียงข้างมาก 2 ชั้น หรือ double majority ต้องรอดูสุดท้าย สภาฯเคยแก้ไขประกาศใช้ไปแล้ว แต่ สว.เห็นไม่เหมือนกัน ต้องแก้ไขอีกครั้ง โดยตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ผล ออกมาอย่างไรก็ตามนั้น

รื้อ ก.ม.ประชามติ แก้ รธน.ยิ่งล่าช้า

นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า หากร่างไหนที่ต้องผ่านการทำประชามติก่อนคงล่าช้าแน่ ไม่ทราบจะทันสมัยประชุมนี้หรือไม่ ไม่อยากพูดไปล่วงหน้า เพราะถ้าแก้ไขกระบวนการทำประชามติต่างจากร่างเดิม กระบวนการต่างๆจะล่าช้าไปด้วย เมื่อถาม ว่าการแก้ไขประชามติอาจทำให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ทันในรัฐบาลนี้หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า จะช้าหรือไม่ช้าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าแก้ไขกฎหมายประชามติ เวลาที่ดำเนินการมาทั้งหมดใช้ไม่ได้ ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ หรือทำประชามติแต่มีผู้ออกมาใช้สิทธิครึ่งหนึ่ง แต่เห็นชอบไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ไม่ใช่เสียงข้างมากของผู้มีสิทธิ ต้องดูรายละเอียด ขึ้นอยู่กับกฎหมาย ทั้งนีิ้ ไม่รู้ว่าประชาชนสนใจหรือไม่ ยังไม่รู้ว่าจะถามอะไร คุ้มค่ากับที่ประชาชนต้องเสียเวลามาหรือไม่ หากแก้ไขไม่ถูกใจ ประชาชนมองว่าไม่ออกมาดีกว่า เพราะไม่ให้ความสำคัญ ทำให้เสียโอกาส เสียเวลาและเสียงบประมาณ เรื่องนี้เดาล่วงหน้าไม่ได้เพราะยังไม่เกิดขึ้น

มาตรฐานจริยธรรมควรมีแต่ต้องชัด

นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวถึงมาตรฐานทางจริยธรรมนักการเมืองว่า ในส่วนของ สส.และ สว.ควรต้องมีมาตรฐานนี้ ทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประชาชนยอมรับได้ ถ้าไม่มีไม่ได้ จะวุ่นวาย หรือมีแล้วอ่อนเกินไปเท่ากับไม่มี จะไม่ดี หากมีหรือมีเข้มเกินไป ทำให้ทำหน้าที่ไม่ได้ ไม่มี ความมั่นคงในการตัดสินใจ ทำให้ไม่กล้าทำอะไรเลย จะทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ ทุกอย่างอยู่ที่ความสมดุลว่า มีแล้วได้ประโยชน์กับประชาชนหรือไม่ ถ้าไม่มีแล้วประชาชนเสียประโยชน์ ควรต้องมี แต่มาตรฐานจริยธรรมแต่ละองค์กรไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ที่เป็นปัญหาถกเถียงอยู่ รัฐธรรมนูญมาตรา 129 ให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้เขียนมาตรฐานทางจริยธรรมสำหรับศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระและให้บังคับถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสมาชิกรัฐสภาด้วย กลายเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกอาชีพ บางอย่างปฏิบัติแล้วไม่มั่นคง ผู้นำรัฐบาลไม่สามารถตัดสินอะไร กลัวจะถูกถอดถอน กังวลจะถูกมาตรฐานจริยธรรม ทำให้คนไม่ไว้วางใจในรัฐบาล ไม่มั่นใจอยู่นานเท่าไหร่ คงมั่นคงพอสมควร ควรระบุให้ชัดว่ามาตรฐานแต่ละอาชีพควรอยู่ตรงไหน เพื่อให้เหมาะสมกับสถานะผู้นั้น สมาชิกรัฐสภาควรมีจริยธรรมระดับหนึ่งไม่เท่ากับคนทั่วไป แต่กำหนดให้สูงเท่าผู้พิพากษาคิดว่าเกินไป

สว.เอาแน่ล็อกเสียงข้างมาก 2 ชั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานรัฐสภาว่า ในการประชุมวุฒิสภาวันที่ 30 ก.ย. มีวาระการพิจารณาเรื่องด่วนร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ที่มี พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. เป็นประธานพิจารณาเสร็จแล้ว ปรับแก้เนื้อหาแตกต่างไปจากเดิมที่สภาฯเห็นชอบมาคือแก้ไขมาตรา 7 เรื่องเกณฑ์การผ่านประชามติ เพิ่มเติมข้อความว่า กำหนดให้การทำประชามติเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง และต้องมีจำนวนเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียง จากเดิมที่สภาฯให้ใช้เสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนในเรื่องที่ทำประชามติเท่านั้น ส่งผลให้การทำประชามติการแก้รัฐธรรมนูญต้องใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ทำให้เกณฑ์ผ่านเสียงประชามติเรื่องแก้รัฐธรรมนูญลำบากมากขึ้น ส่วนการทำประชามติเรื่องทั่วไปยังใช้เกณฑ์เสียงข้างมากชั้นเดียวคือ เสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเท่านั้น โดยเสียงข้างมากต้องสูงกว่าคะแนนไม่แสดงความคิดเห็น

“สนธิญา” ยื่น กกต.จี้ ปชน.ถอนร่างรื้อ รธน.

เมื่อเวลา 10.55 น. ที่สำนักงาน กกต.นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษา กมธ. การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาฯ ยื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อให้วินิจฉัยและมีหนังสือไปยังพรรค ปชน.ให้ถอนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเกี่ยวกับเรื่องจริยธรรม หรือคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือ สส. นายสนธิญากล่าวว่า ขอให้พรรค ปชน.ถอนเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราทั้งหมด ไม่อยากร้องอัยการสูงสุดหรือ กกต. เพื่อผ่านเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยยุบพรรค วันนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา พรรค ปชน.กำลังทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 74 หรือการแก้ไขเรื่องจริยธรรม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง นำไปสู่การยุบพรรคได้ ทั้งนี้ จะไม่ร้องหรือยื่นเอาผิดกับ สส.พรรค พท.ที่ลงชื่อแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ขอกันกินมากกว่านี้ เมื่อถอยแล้ว ให้ทำงานต่อไป

ปธ.สภาฯรับ ก.ม.เปิดช่อง สส.ลาบ่อย

ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ กล่าวถึงกรณีการยื่นร้องสอบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลาประชุมสภาฯ 84 ครั้ง จาก 95 ครั้ง ผิดจริยธรรมหรือไม่ว่า พูดยากเป็นเรื่องข้อบังคับและกฎหมายที่ สส.ทำได้ถ้าจำเป็น แต่ตรวจสอบความเหมาะสมได้ ถือเป็นความรับผิดชอบ กรณีนี้มีน้อยมาก ต้องนำเข้าคณะกรรมการจริยธรรมของสภาฯ แต่ยังไม่มีการประชุมกรรมการจริยธรรมเพราะขาดองค์ประชุม ยังมีปัญหาสัดส่วนตัวแทนที่สลับเปลี่ยนกันใหม่ ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน เพราะบางพรรคแบ่งซีกนั่งฝ่ายค้านครึ่งหนึ่ง ฝ่ายรัฐบาลครึ่งหนึ่ง ต้องเป็นไปตามกฎหมายที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด พรรค พปชร.ถือว่าเป็นฝ่ายค้าน น่าจะเรียบร้อยได้เร็วๆนี้ เพราะมีเรื่องยื่นเข้ามารออยู่ประมาณ 6-7 เรื่อง เลขานุการประธานสภาฯจะดำเนินการให้ครบ เพื่อเรียกประชุมคณะกรรมการจริยธรรม

“เด็จพี่” ยื่นร้อง ป.ป.ช.สอบ “ลุงป้อม”

เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรค พท. ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนและมีความเห็นกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯ ในฐานะ สส. นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ได้ข้อมูลจากสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.66 ถึงปัจจุบัน พล.อ.ประวิตรน่าจะลาประชุมเป็นฉากบังหน้าอ้างติดภารกิจถึง 84 ครั้ง จากวันประชุมทั้งหมด 95 ครั้ง ส่วนวันที่ลงชื่อมาประชุม 11 ครั้ง มีเหตุน่าสงสัยว่าไม่ได้มาเซ็นชื่อในจุดที่สภาฯกำหนด รวมถึงมีเจ้าหน้าที่รัฐนำบัตรประจำตัว สส.ไปสแกนให้ แม้ สส.จะมีสิทธิลาแต่ใครจะลาได้เหมือน พล.อ.ประวิตร ที่ลาทั้งสมัยประชุมสภาฯ ที่สำคัญลาผิดข้อบังคับ ไม่ได้ป่วยจริง ไม่มีเหตุสุดวิสัยจริง

“อ้วน” ปัดยังไม่ได้คุย“สันติ-วราเทพ”

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว. กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค พปชร.และกลุ่มนายวราเทพ รัตนากร ผอ.พรรค พปชร.เตรียมลาออกมาอยู่กับพรรคพท.ว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ไม่รู้ว่าจะเป็นได้หรือไม่ ยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน ที่ผ่านมาเคยทำงานร่วมกัน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่ได้คุยอะไรกัน จึงไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้ มาจริงๆก่อนแล้วค่อยว่ากันเอาความเป็นจริง ถ้าคุยแล้ว จะรีบบอก ที่มีข่าวออกมายังไม่แน่ใจ

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ขอให้สัมภาษณ์จากเลขาธิการพรรคไม่ดีกว่าหรือ ไม่ได้ตามเรื่องนี้ ไม่เคยคุยกับนายสันติเรื่องนี้ เมื่อถามว่าหาก สส.กลุ่มเพชรบูรณ์กับกำแพงเพชรจะมาอยู่พรรค พท.จะมีที่ว่างให้หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า คนมีความรู้ความสามารถทุกท่านสมัครเป็นสมาชิกพรรคได้

“สรวงศ์” แจงยังไม่ได้รับการติดต่อ

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า เป็นเรื่องภายในของพรรค พปชร. แต่การจะย้ายสังกัดกลับมาพรรค พท.ตามข่าว แทบเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะ สส.ที่จะมาต้องไม่มีพรรคสังกัดก่อน เมื่อถามว่า ทั้งนายสันติและนายวราเทพได้ติดต่อมาเป็นการภายในหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่มี ถ้าผ่านเลขาธิการพรรค พท. ไม่มี ส่วนช่องทางอื่นไม่ทราบ ไม่รู้ว่าข่าวออกมาได้อย่างไร เมื่อถามว่าหากย้ายมาจริงพร้อมรับหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ต้องถามกลับว่ามาอย่างไร ถ้ามาต้องลาออกหรือถูกขับออกจากพรรคเก่าก่อนถึงจะมาสังกัดพรรคอื่นได้ เมื่อถามย้ำว่า แต่ทั้ง 2 คนไม่ได้เป็น สส. ย้ายมาได้อยู่แล้ว นายสรวงศ์กล่าวว่า แล้วแต่เป็นวิจารณญาณของท่านเลย เอาตรงๆหากมองไปในสภาฯ เป็นพวกเก่ากันเยอะ

“อิ๊งค์” แค่ยิ้มข่าวคนเก่าแก่จ่อย้ายซบ

เมื่อเวลา 11.12 น. ที่ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงาน 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า กทม. ผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงกระแสข่าวนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค พปชร. และนายวราเทพ รัตนากร ผอ.พรรค พปชร.เตรียมย้ายมาสังกัดพรรค พท.โดยนายกฯได้แต่ยิ้มไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนขึ้นรถเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ต่อมาช่วงบ่ายภายหลังนายกฯเป็นประธานพิธีเลี้ยงฉลองชัยมอบเงินรางวัลและแสดงความยินดีแก่นักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามกรณีดังกล่าวอีกครั้ง นายกฯได้แต่ยิ้ม แต่ไม่ได้ตอบคำถามเช่นเดิม

“ไพบูลย์” เหน็บรู้กันอยู่ใครปล่อยข่าว

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค พปชร.และนายวราเทพ รัตนากร ผอ.พรรค พปชร.จะย้ายไปอยู่กับพรรคพท.ว่า เป็นข่าวปล่อยจากผู้ไม่หวังดี เพื่อหวังผลในทางที่ไม่ดีกับพรรค ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนจะปล่อยมาจากฝ่ายไหน รู้กันอยู่ ฝ่ายนั้นคงจะอึดอัดจนทนอยู่เฉยๆไม่ได้

ร้องผู้ตรวจฯ ล้มเฟ้น สว.-สอย กกต.

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องเพิ่มเติมต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ไต่สวนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่อาจเข้าข่ายกระทำความผิดรัฐธรรมนูญ กรณีไม่จัดการเลือกตั้ง สส. และการเลือก สว. ให้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม เป็นการยื่นครั้งที่ 2 โดยขอให้ส่งความเห็นไปยังศาลธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยให้การเลือกตั้ง สส. และการเลือก สว.เป็นโมฆะ นายณฐพรกล่าวว่า ถ้าคดีนี้ถูกส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ และตัดสินว่าการเลือก สว.ตกเป็นโมฆะ กกต.ต้องถูกถอดถอนเช่นกัน

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่