โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งซ่อม นายก อบจ.ปทุมธานี ผู้สมัครตัวเต็ง เลือกใช้วิธีขึ้นรถแห่หาเสียงตามหมู่บ้านแทนเดินเท้า “บิ๊กแจ๊ส” หวั่นช่วงพายุเข้า ทำคนออกมาใช้สิทธิ์น้อย ขณะที่ “ชาญ พวงเพ็ชร์” ขอคนปทุมวางใจ ลั่นถ้าไม่มั่นใจคงไม่ลงสมัคร

วันที่ 20 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบเหลืองนายชาญ พวงเพ็ชร์ กรณีจัดเลี้ยงและมหรสพเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ตนนั้น เป็นเหตุอันควรเชื่อได้ว่า การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม และกำหนดวันเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานีใหม่ ในวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2567 โดยให้ใช้ผู้สมัครชุดเดิม ได้แก่ เบอร์ 1 นายชาญ พวงเพ็ชร์ เบอร์ 2 นายอธิวัฒน์ สอนเนย เบอร์ 3 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง และเบอร์ 4 นายนพดล ลัดดาแย้ม

ซึ่งระยะเวลาการหาเสียงค่อนข้างกระชั้นชิด และมีพื้นที่กว้าง ผู้สมัครตัวเต็งทั้งสอง อย่างนายชาญ พวงเพ็ชร์ และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ต่างใช้วิธีขึ้นรถแห่ด้วยเครื่องขยายเสียงขับไปตามท้องถนน และพื้นที่ต่าง ๆ ในจังหวัดปทุมธานี เพื่ออ้อนขอคะแนนจากชาวบ้านอย่างใกล้ชิดให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังมีรถขยายเสียงวิ่งตามเส้นทางต่าง ๆ ในพื้นที่ และติดป้ายตามถนนต่าง ๆ ทั่วปทุมธานี แต่ผู้สื่อข่าวพบว่า ป้ายหาเสียงในรอบนี้น้อยลงกว่ารอบแรกอย่างเห็นได้ชัด โดยประชาชนที่มีสิทธิ์ในการเลือกตั้งทั้งจังหวัดนั้นมีจำนวน 949,421 คน แต่ในรอบที่แล้ว การแพ้ชนะสูสีเป็นอย่างมาก โดยนายชาญ พวงเพ็ชร์ ชนะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ หรือบิ๊กแจ๊ส ไปแค่เพียง 1,820 คะแนนเท่านั้น ซึ่งถือได้ว่า ทั้งสองคนนี้เป็นตัวเต็งที่จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชาวปทุมธานี ที่จะได้รับเลือกให้เข้าไปรับตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ในการเลือกตั้งในครั้งนี้

...

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับนายชาญ ผู้สมัครชิงนายก อบจ.ปทุมธานี หมายเลข 1 พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงนี้เป็นโค้งสุดท้ายในการหาเสียง ได้ลงพื้นที่มาทั้ง 7 อำเภอ มีความมั่นใจว่าหากชนะการเลือกตั้งจะสามารถเข้ามาทำงานได้ทันที ต้องพัฒนาปทุมธานีได้ ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องของกฎหมาย กฎหมายมีทางแก้ไข มีทางออก


“มั่นใจถ้าลุงชาญไม่มั่นใจลุงชาญไม่ลงหรอกครับ ก็ต้องบอกพี่น้องชาวปทุมธานีว่า วันนี้ลุงชาญมีความมั่นใจในตัวเองแล้วที่ กกต. ให้ใบเหลืองกับเราถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์มั่นใจได้ครับ คนปทุมธานีอย่าทิ้งลุงชาญก็แล้วกัน เอาลุงชาญกลับมาให้ได้ เพื่อมาพัฒนาปทุมธานี”

ผู้สื่อข่าวยังเดินทางไปพบกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ผู้สมัครชิงนายก อบจ.ปทุมธานี หมายเลข 3 พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า แนวทางในการหาเสียงในครั้งที่สองมันเป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน แต่ที่ กกต. กำหนดคือวันที่ 22 กันยายน เพราะฉะนั้นเวลาจะเหลือประมาณจาก 30 ก็แค่ 20 กว่าวันเอง และแนวทางในการหาเสียงก็คงจะเป็นแบบนโยบายแต่ถ้าเดินเข้าหาประชาชนก็คงจะไม่ทั่ว จึงได้ใช้วิธีขึ้นรถแล้วก็แห่ไปตามชุมชนตามจุดสำคัญต่าง ๆ

“นายก อบจ. ต้องเป็นจุดสำคัญที่จะต้องลงไปร่วมกับภาครัฐ แก้ปัญหาให้ได้ทันท่วงทีก่อนที่พี่น้องประชาชนจะเดือดร้อน ไม่ใช่ว่าปล่อยให้เดือดร้อนแล้วไปเยียวยา และที่สำคัญที่สุดนายก อบจ. ก็ต้องประสานงานได้กับทุกพรรคนะครับ ทุกพรรคการเมืองเพราะอะไรเพราะต้องนำความเจริญนำเม็ดเงิน นโยบายต่าง ๆ ที่บางครั้งมันเกินกว่าอำนาจของนายก อบจ. เราต้องพึ่งพากระทรวงต่าง ๆ เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องประสานงานได้”

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่กังวลก็คืออยากให้พี่น้องออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะ ๆ ขณะที่เมื่อวานก็มีการร้องเรียนขึ้นมาอีกว่าพี่น้องประชาชนต้องลำบากเดินทางไปเลือกตั้งไม่รู้ว่าจะเจอฝนตกหรือเปล่าเพราะว่าช่วงนี้พายุเข้า