กลุ่มเยาวชน บุกทำเนียบฯ คัดค้านสถานบันเทิงครบวงจร ยื่น 3 ข้อเรียกร้องถึง “นายกฯ แพทองธาร” ทบทวนนโยบายสนับสนุนการพนันออนไลน์-กาสิโนถูกกฎหมาย ขอคำนึงถึงอนาคตเยาวชน มากกว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
วันที่ 19 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายเยาวชน ประกอบด้วย เด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายบางกอกนี้ดีจัง เครือข่าย Youth Club เด็กมีภูมิ เครือข่ายนักสื่อสารสุขภาวะรุ่นใหม่ ภาคีเครือข่ายเยาวชนและเครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา กว่า 50 คน นำโดย นายรวิศุทธ์ คณิตกุลเศรษฐ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กมีภูมิ และ น.ส.วศินี สนแสบ ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน เดินทางมายื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คัดค้านนโยบายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) หรือสถานบันเทิงครบวงจร พร้อมเรียกร้องให้หยุดการเดินหน้ากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่มีแหล่งพนันหรือกาสิโน โดยมี นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษารองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ
...
พร้อมกันนี้ กลุ่มเยาวชนยังได้ชูป้าย “เยาวชนไม่ต้องการกาสิโน” พร้อมแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในการคัดค้าน และตั้งคำถามว่ากฎหมายนี้เป็นประโยชน์ในการดึงรายได้เข้าประเทศหรือเป็นการเปิดช่องว่างให้กับกลุ่มนายทุน โดยอยากให้คำนึงถึงเยาวชนตราบใดที่รัฐบาลไม่ทำให้เป็นที่ประจักษ์ว่าสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างจริงจัง ประชาชนไม่อาจเชื่อมั่นได้ พร้อมเรียกร้องนายกรัฐมนตรี 3 ข้อ ดังนี้
1. ขอให้ทบทวนนโยบายการสนับสนุนการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย และการสนับสนุนให้มีสถานกาสิโนถูกกฎหมาย ด้วยการหยุดการเดินหน้าร่างพระราชบัญญัติการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... รวมทั้งแนวคิดในการจะออกกฎหมายหรือมาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มอบายมุขบนดินต่างๆ ที่มีอยู่และอาจจะมีตามมา
2. ขอให้เร่งผลักดันให้เกิดการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมและลดปัญหาจากการพนัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ซึ่งถือเป็นกฎหมายที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย และเร่งยกเครื่องการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมการพนันให้มีประสิทธิภาพ โดยการตั้งหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ มีอำนาจหน้าที่ที่มากพอ และมีความเป็นอิสระจากการแทรกแซงของฝ่ายใดๆ ด้วยการคำนึงถึงอนาคตของเด็กและเยาวชนเป็นสำคัญ มากกว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่อาจได้ไม่มากพอกับความเสียหาย และขอให้มีการทำประชามติรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในเรื่องนี้ด้วย เนื่องจากเป็นนโยบายที่มีผลกระทบเป็นวงกว้าง
3. เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ (20 กันยายน ของทุกปี) ที่กำลังจะมาถึงนี้ ขอให้นายกรัฐมนตรีประกาศนโยบายที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน ทั้งเอกชนและภาคสังคม ในการพัฒนาปัจจัยส่งเสริมพัฒนาการเชิงบวกแก่เยาวชน โดยความสนับสนุนอย่างเต็มที่ของรัฐบาล และขอให้รัฐเพิ่มความจริงจังในการบังคับใช้มาตรการเพื่อคุ้มครองสวัสดิการเด็กและเยาวชน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การมายื่นหนังสือในวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเมื่อยื่นหนังสือเสร็จเรียบร้อยก็ได้ยุติการชุมนุมและเดินทางกลับ.