ครม.เคาะแล้วแจกเงิน 10,000 กลุ่มคนเปราะบาง ภายใต้ชื่อโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการจำนวน 14.55 ล้านคน นโยบายเรือธงของรัฐบาล “ดิจิทัลวอลเล็ต” ถูกแปรรูปใหม่ แบ่งจ่ายเงินเป็น 2 เฟส

เฟสแรกแจกเงินสดกลุ่มเปราะบาง 14.55 ล้านคนภายในเดือนนี้ ส่วนเฟส 2 อีก 36 ล้านคน ต้องรอกันต่อไป และยังไม่รู้ว่าจ่ายเมื่อไหร่ อย่างไร วิธีไหน

รายละเอียดถูกปรับเปลี่ยนไปมา จนแทบไม่สามารถใช้ชื่อโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต”แล้ว

“นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถึงขั้นต้องประกาศกลางที่ประชุมพรรค ขอให้ สส.ทุกคนติดตามการแถลงข่าว เอาข้อมูลไปตอบคำถามประชาชนในพื้นที่

เพราะรูปแบบ วิธีการ เปลี่ยนมาแล้วหลายรอบ กังวลชาวบ้านจะสับสน

ในที่สุดก็ปรับแนวทางมาจ่ายเป็นเงินสดให้คนฐานรากก่อน รูปแบบนี้คาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจลำบาก เพราะไม่สามารถกำหนดทิศทางการใช้เงินได้

ประชาชนไม่น้อยจะนำเงินไปใช้หนี้ จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ซื้อของจำพวกที่ไม่สร้างการหมุนเงินในระบบ

ส่วนเฟส 2 ยังไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะใช้รูปแบบการแจกเงินสดแบบนี้ หรือจะทำตามแนวทางโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเดิม เพื่อหวังผลสร้างพายุหมุนกระตุ้นเศรษฐกิจ

แต่จากพายุลูกใหญ่ก็คงต้องเล็กลง หรือจะกลายเป็นแค่หย่อมความกดอากาศต่ำ ฝนหลงฤดู ตามที่ฝ่ายค้านปรามาส นโยบาย “เรือธง” สุดท้ายอาจกลายเป็นแค่ “เรือเกลือ”

รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาแล้วหลายหน จนเสียงซุบซิบนินทาหนาหู จะเลิกล้มต้มกันใช่หรือเปล่า ถ้าเลื่อนออกไปอีกพังแน่ เพราะล่าช้านานเกินไปแล้ว

น่าเห็นใจรัฐบาลเหมือนกันที่โดนตีโอบเตะสกัดโครงการนี้จนสะบักสะบอม ไหนจะเรื่องของกฎหมาย งบประมาณ รวมทั้งข้าราชการ หน่วยงานต่างๆที่รุมค้าน ขัดขวางเรื่อยมา

...

สุดท้ายนโยบายนี้อาจเป็นแค่การทำตามที่หาเสียงไว้ ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างที่หวัง

พรรคเพื่อไทยแม้จะสลัดจุดยืนย้ายข้างมาเป็นแกนหลักรัฐบาลให้ฝั่งอนุรักษนิยมแล้ว

แต่ก็ยังเป็นเป้าล่อเหมือนเดิม โดนนิติสงครามตามถล่มไม่เลิกรา “เพื่อไทย–ประชาชน” พรรคที่ประชาชนเลือกมามากมายเป็นอันดับ 1–2 ชะตากรรมยังลูกผีลูกคน

ไม่ต้องถามโหร หมอดู ก็เดาอนาคตได้ว่าไม่ปลอดภัยแน่

เจอนักร้องวางงานสารพัด สากกะเบือยันเรือรบ ล่าสุดกลุ่มที่ชื่อคณะนิติชน-เชิดชูธรรม ยื่นร้อง กกต.ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ “นายกฯอิ๊งค์” รวมทั้ง ครม.ทั้งคณะ

กล่าวหาการแถลงนโยบายไม่ได้ชี้แจงแหล่งที่มารายได้ในการใช้บริหารประเทศ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และอาจฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง

“อาจารย์ชู” ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย มือหนึ่งกฎหมายรัฐบาลตอนนี้ ประกาศปลดแอกลุยตีโต้ เปิดฉากห้ำหั่นนิติสงคราม

ฟางเส้นสุดท้ายคือกรณีร้อง “นายกฯอิ๊งค์” ทำสัญลักษณ์มินิฮาร์ตไม่เหมาะสม

หน่อมแน้ม น่ารำคาญ ถ้าร้องเรื่องผิดกฎหมาย ผิดหลักการบริหารประเทศจะไม่ว่าสักคำ

“อาจารย์ชู” เดือดดาลขึงขังเอาจริงเอาจังแก้รัฐธรรมนูญทุกมาตราที่เกี่ยวข้องประเด็นมาตรฐานจริยธรรม ย้ำจุดบกพร่องไม่มีเส้นแบ่งชัดเจน เอื้อต่อเหล่าบรรดานักร้อง ขบวนการนิติสงคราม

แต่ “จอมร้องตัวจี๊ด” เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก็ออกมาทันที ราวีไม่เลิกรา

คุ้ยแคะ “อาจารย์ชู” ยื่นบัญชีทรัพย์สินถูกต้องหรือไม่ เสียภาษีถูกต้องหรือเปล่า ก่อนร้องยื่น ป.ป.ช.ทันที

ส่วน “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่โชว์สเต็ปลุยสุดซอย เดินหน้าร้องไม่หยุดกรณีคลิปเสียงหลุดโยงใยถึง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ก็โดนย้อนเกล็ดทันทีเช่นเดียวกัน “ไพบูลย์ นิติตะวัน” เลขาธิการพรรค พลังประชารัฐ ประกาศฟ้องดำเนินคดีอาญา “เด็จพี่” ที่ สน.หัวหมาก 20ก.ย.

สะท้อนความมั่นใจในผลทางคดี รู้กันดีโมเมนตัมนิติสงครามเอียงไปทางไหน

รัฐบาลเพื่อไทยเองก็รู้ดีสู้เกมนี้ไม่ได้ แต่พยายามแฉซ้ำไส้ในขบวนการนิติสงคราม

หวังปลุกกระแสสังคม ช่วยขจัดออกไปจากการเมืองไทย.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม