นายกฯ อิ๊งค์ นั่งหัวโต๊ะประเดิมถกประชุม ครม. นัดแรก “จิรายุ ห่วงทรัพย์” เดินร่วมขบวนด้วย ระบุ พะเยาน้ำลดแล้ว สั่งทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องทำระบบแจ้งเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพ ส่ายหัวไม่เสียสมาธิ มีม็อบมาปราศรัยข้างทำเนียบ

วันที่ 17 กันยายน 2567 เมื่อเวลา 09.20 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นเวลา 09.45 น. นายกฯ เดินลงจากตึกไทยฯ มายังห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก โดยมี นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมเดินมากับนายกฯ และเป็นที่น่าสังเกต นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่มีชื่อเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินร่วมขบวนมากับนายกฯ ด้วย

โดยก่อนการประชุม ผู้สื่อข่าวสอบถามว่านายกฯ ไม่เสียสมาธิใช่หรือไม่ ที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมมาปราศรัย ยื่นหนังสือร้องเรียนหน้าทำเนียบรัฐบาล นายกฯ ส่ายศีรษะ ก่อนกล่าวว่า ได้ยินเสียงผู้ชุมนุมที่อยู่หน้าทำเนียบฯ ก็ตอนที่ผู้สื่อข่าวบอกนี่แหละ เมื่อถามว่าได้รับรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดพะเยาแล้วหรือยัง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องน้ำแล้ว โดยในพื้นที่พะเยาขณะนี้ปริมาณน้ำลดลงแล้ว ซึ่งจุดที่นักศึกษาติดอยู่ก็ออกมาได้หมดแล้ว น้ำก็ลดลงเหลือประมาณหน้าแข้ง โดยหลังประชุม ครม. ตนจะชี้แจงอีกครั้ง

นางสาวแพทองธารได้กล่าวในห้องประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม หรือ คอส. และตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ศปช. ขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ติดตามอย่างใกล้ชิดดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้และหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นให้เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีรายงานสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. ว่ามีปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพะเยาและหลายจังหวัดในภาคตะวันออก ซึ่งเมื่อวานตนเองก็ได้รับแจ้งจากที่ประชุมว่าฝนจะมีตกลงมาและจะมีปริมาณน้ำมากในวันที่ 18-21 กันยายนนี้ จึงขอให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมในการรับมือและเพิ่งได้รับแจ้งมาล่าสุดว่าจังหวัดพะเยาน้ำท่วมแล้วนักศึกษาที่ติดอยู่ได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย

...

และขอให้ส่วนราชการเร่งพิจารณาว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเพิ่มเติมจากกรณีที่ปกติมีการดำเนินการอยู่แล้วได้อย่างไรบ้าง และวันนี้จะมีเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยเสนองบประมาณจากงบกลางปี 3,000 ล้านบาท จึงฝากให้ทุกกระทรวงรับไปพิจารณาเรื่องไหนที่มีความจำเป็นต้องเสนอ ครม. ก็ขอให้ดำเนินการเพื่อจะได้ช่วยเหลือประชาชนที่จะได้รับการเยียวยาเป็นไปด้วยความรวดเร็วที่สุด นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการว่าขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเตือนภัย เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตรวจสอบระบบแจ้งเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ในการประชุม วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะพิจารณาและเห็นชอบงบประมาณในโครงการดิจิทัล Wallet แจกเงิน 10,000 บาทให้กับกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ซึ่งหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะแถลงรายละเอียดในเรื่องนี้

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่ากระทรวงกลาโหมได้สั่งกองทัพแต่ละภาคให้เข้าไปดูแลในพื้นที่ของตัวเอง แต่การช่วยเหลือชุดแรกเราเอาเรื่องของชีวิตของประชาชนที่ประสบเรื่องน้ำท่วมก่อน รวมไปถึงเรื่องของการส่งมอบอาหารการกิน แต่หากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ก็จะเริ่มทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชนที่มีดินโคลนทับถม

ส่วนหน่วยงานที่จะเข้ามาดูเรื่องของการทำความสะอาด ก็จะมีทั้งเครื่องจักรเครื่องกลจากกระทรวงคมนาคมระดมเข้าไป นอกจากการฟื้นฟูแล้ว ในพื้นที่อื่น เช่น ภาคอีสาน ก็กำลังประสบภัยน้ำท่วม เราจึงต้องส่งคนเข้าไปช่วยเหลือเช่นกัน อย่างหน่วยซีล เราก็ถอนจากภาคเหนือไปภาคอีสาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กองทัพธรรม และศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ได้ชุมนุมประท้วงที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล ทำให้ขบวนรถนายกฯ เปลี่ยนเส้นทางมาเข้าทางสะพานอรทัยแทนทางเข้าประตู 1