“ราเมศ รัตนะเชวง” โต้กลับ พรรคประชาชน น่าจะพูดด้วยข้อมูลที่ดีกว่านี้ ย้ำ ยุคทักษิณ เลือกปฏิบัติกับคนใต้จริง ยันพรรคประชาธิปัตย์มีศักดิ์ศรี ชี้ความเกียรติและคุณค่าไม่ได้จบที่คำว่าร่วมรัฐบาล
วันที่ 14 กันยายน 2567 นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการนายชวน หลีกภัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวถึงกรณี สส.พรรคประชาชน ได้กล่าวพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ในการประชุมร่วมรัฐสภาวาระการแถลงนโยบายของรัฐบาล ในเรื่องวาจาในการท้วงติงการเลือกปฏิบัติในภาคใต้ว่า การร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่าเมื่อเป็นมติพรรค ก็เป็นสิทธิของคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส.ของพรรคในการลงมติ แต่ตนเคยย้ำไว้เสมอว่าคำว่าร่วมรัฐบาลไม่ได้เป็นจุดสิ้นสุดความมีศักดิ์ศรีของพรรคที่ได้สร้างสมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายซึ่งฟังก็จะทราบว่าเป็นการพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ คนที่อภิปรายน่าจะพูดด้วยข้อมูลที่ดีกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องการเลือกปฏิบัติในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร นักการเมืองในช่วงนั้นปฏิบัติอย่างไรกับประชาชนในจังหวัดที่ไม่เลือกพรรคไทยรักไทย มีการกลั่นแกล้งเลือกปฏิบัติโดยเฉพาะภาคใต้อย่างไร เกิดเป็นนโยบายการเลือกปฏิบัติ จังหวัดไหนไม่เลือกให้รอไปก่อน จะพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือก สส.ของพรรคเท่านั้น มีการทำเช่นนั้นจริงในการจัดสรรงบประมาณเพื่อการซ่อมแซมถนนเพชรเกษม ที่ได้น้อยกว่าทุกภาค หรือการตัดงบสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติภูเก็ต เพราะคนภูเก็ตไม่เลือกพรรคเพื่อไทย เรื่องการเลือกปฏิบัติคือความจริงที่เกิดขึ้น บาดแผลที่สร้างไว้กับประชาชนไม่มีวันที่ประชาชนจะลืม โดยเฉพาะพี่น้องชาวปักษ์ใต้
นายราเมศกล่าวต่อไปว่า ที่กล่าวถึงการร่วมรัฐบาลเพื่อหวังงบประมาณลงภาคใต้นั้น ตนคงตอบแทนรัฐมนตรีในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ แต่เชื่อว่าความเป็นประชาธิปัตย์การทำงานไม่ได้หวังแค่พัฒนาจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งหรือภาคใดภาคหนึ่ง พรรคไม่เคยเลือกปฏิบัติต่อประชาชน และที่ปรากฏเป็นข่าวพรรคประชาธิปัตย์ก็มีการนำเสนอในเรื่องที่ต้องการผลักดัน มีเรื่องที่ดินทำกินและเรื่องน้ำ เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องกระจายอำนาจ พัฒนา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่เป็นนโยบายของพรรคที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ เชื่อว่าพรรคก็ต้องทำตามที่ได้ยื่นเสนอไปและบรรจุไว้ในนโยบายรัฐบาล แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีนโยบายล้มล้างการปกครอง ไม่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 และคนไทยตาสว่างเพราะพรรคการเมืองไปผลักดันนโยบายต่างๆ เหล่านี้
...
นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า พรรคมีศักดิ์ศรี ตนไม่เคยรู้จัก สส. ที่พูด แต่มีเรื่องอื่นพูดในมุมดีๆ มากมาย มารยาทในทางการเมือง ไม่มีใครพูดเช่นนี้ และให้จำไว้ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีเกียรติภูมิ มีศักดิ์ศรี คุณค่าไม่ได้จบที่คำว่าร่วมรัฐบาล