10 นโยบายเร่งด่วน พุ่งเป้าแก้ไขเศรษฐกิจ โจทย์ใหญ่โจทย์เดียวที่ "นายกฯอิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและรัฐบาลเพื่อไทย ต้องแก้ให้ได้ภายใน 3 ปี ไม่มีเวลารำมวยไหว้ครู

บ่งบอกทิศทางการก้าวเดิน สานต่อจากรัฐบาลนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ที่ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน เพราะอุปสรรคขวากหนามทิ่มแทงจนสุดท้ายต้องหลุดเก้าอี้

เหลือบดูท่าทีฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชน แล้วแอบชื่นชมในแนวทางสร้างสรรค์ วิเคราะห์วิจารณ์นโยบายเรือธงของรัฐบาลอย่างดิจิทัลวอลเล็ต

สงสัยแทนประชาชนว่าเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้วจะเอายังไงต่อ โดยเฉพาะการจ่ายเงินที่โดนวิจารณ์ทั่วเมืองมาแล้ว ล่าช้าเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ไม่เป็นไปตามที่หาเสียง

ไม่เห็นแจกแบบตูมตามทีเดียว เพื่อสร้างพายุหมุนเศรษฐกิจอย่างที่คุยโว

แต่แบ่งจ่ายเฟสแรกให้กลุ่มเปราะบางก่อน แล้วต่อไปเฟส 2 ยังไม่รู้จะแจกเป็นงวดละ 5 พันบาทหรือไม่

ตามที่ "อาจารย์ไหม" ศิริกัญญา ตันสกุล แกนนำพรรคประชาชน ออกมาขยี้ภาวะรัฐบาลถังแตก

หากใช้วิธีนี้จากพายุหมุนคงเหลือแค่หย่อมความกดอากาศต่ำ

น่ากังวลว่าจากนโยบายที่คาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นกระแสความนิยม จะเหลือเพียงแค่ต้องทำตามสัญญาให้จบๆไป ไม่สามารถหวังผลเชิงบวกอะไรได้อีกแล้ว

กระนั้นแนวติเพื่อก่อตรงไปตรงมาของฝ่ายค้าน ไม่น่ากลัวเท่ากับแนวซุ่มโป่งรอจังหวะของฝ่ายแค้น

ฝ่ายค้านพรรคล่าสุดอย่างพลังประชารัฐที่มี “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นหัวหน้าพรรค ไม่พบว่ามีเนื้อหาอะไรมาบอกกล่าวซักถามนโยบายรัฐบาล เห็นเพียงแค่การแต่งเนื้อแต่งตัวติดดาบ

ปรับกรรมการบริหารพรรคให้ตัวตึงอย่าง “ไพบูลย์ นิติตะวัน” มาเป็นเลขาธิการพรรค

ไม้เบื่อไม้เมา ผู้ยื่นเรื่องตรวจสอบเครือข่ายเพื่อไทยเรื่อยมาตั้งแต่สมัยอยู่กลุ่ม 40 สว.

...

สมัยเป็น สว.คือคนที่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญสอย “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ร่วงจากเก้าอี้นายกฯ กรณีโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมิชอบ

หรือแม้แต่กรณีที่ 40 สว. ไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติอดีตนายกฯเศรษฐา จนประเทศต้องเปลี่ยนผู้นำใหม่ ก็แว่วว่า “ไพบูลย์” ชี้โพรงให้กระรอก

และแน่นอนว่าล่าสุดก็ถูกมองว่ามีเอี่ยวเรื่องยื่น กกต.ยุบพรรคเพื่อไทย กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯครอบงำพรรค เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า

เก้าอี้แม่บ้านพรรคพลังประชารัฐของ “ไพบูลย์” คือการประกาศลุยทั้งบนดินใต้ดิน ไม่ปรานีปราศรัย

แถมยังมีอีกหนึ่งนักร้องแห่งยุค “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่เทียวไปเทียวมาองค์กรอิสระ กกต. ป.ป.ช. หรือถ้าไม่ว่างก็ส่งอีเอ็มเอส ร้องเรียน “นายกฯอิ๊งค์” และพรรคเพื่อไทย

เป็นสิบ เป็นร้อยเรื่อง แค่เข้าเป้าสักเรื่องก็โป๊ะแตก

หลายรายจึงตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค เพราะรับแม่บ้านคนใหม่และแนวทางลุยล้างบางสุดซอยไม่ได้

ยิ่งได้ยินคลิปเสียงที่หลุดออกมาล่าสุด ยิ่งหวั่นไหวไปกันใหญ่

เพราะหลายคนยังแอบหวังจะกลับไปจูบปากกับพรรคเพื่อไทยได้ ไม่วันนี้ก็วันหน้า คนที่จ้องจะชิ่งหนี “ลุงป้อม” อยู่แล้ว ก็ฉวยจังหวะนี้ตีจาก เช่น ครอบครัว “รัตนเศรษฐ”

“วิรัช รัตนเศรษฐ” ที่เพิ่งออกมาปกป้อง “ลุงป้อม” หยกๆ ล่าสุดจะยกครัวโคราชหนีแล้ว

น่าจับตากลุ่ม “มะขามหวาน” ของ “สันติ พร้อมพัฒน์” และ “กลุ่มกำแพงเพชร” ของ “เสี่ยต๋อง” วราเทพ รัตนากร จะตีตัวออกห่างเมื่อไร

แต่ดูสภาพค้านปนแค้นแบบนี้ สมาชิกอาจหายหน้าเกลี้ยงพรรคก่อนถึงเลือกตั้ง

ถึงยังไงรัฐบาลเพื่อไทย และ “นายกฯอิ๊งค์” ก็ประมาทไม่ได้อยู่ดี

แม้จะเปิดหน้าเล่นโจ๋งครึ่มทั้งนิติสงคราม ศึกในศึกนอกสภา แต่องคาพยพก็ยังน่ากลัวร้ายกาจ

เครือข่ายแนวร่วมต่อต้านระบอบทักษิณ บวกแรงแค้นผู้ผิดหวังจากเสื้อเหลือง กปปส. มาตั้งแถวรอเต็มขบวน

ภูมิคุ้มกันรัฐบาลคือสร้างผลงาน เป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก.


ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม