นายกฯ ลั่น กระตุ้นเศรษฐกิจรอไม่ได้ บอกไม่ทิ้งโครงสร้างดิจิทัลที่ต้องทำต่อ ออกตัวที่ช้าเพราะรับฟัง หวั่นมีปัญหา ห่วงน้ำท่วมภาคเหนือ คุย “ภูมิธรรม” ให้ทหารช่วย บอกทุกฝ่ายสแตนด์บายพร้อม รอจังหวะเข้าช่วย
วันที่ 11 กันยายน 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่อาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 3 โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาเช่นกัน เพื่อเตรียมความพร้อมข้อมูลต่างๆ ในการแถลงนโยบายคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ในวันที่ 12-13 กันยายน 2567
น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ได้กำชับรัฐมนตรีทุกกระทรวงชี้แจงทันทีในข้อสงสัยของสมาชิกรัฐสภาว่า ใช่ รัฐมนตรีทุกท่าน ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมาก็ทำงานกันอยู่แล้ว จึงอยากให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบในเรื่องต่างๆ ได้ตอบเอง เพราะมีดีเทลซึ่งจะชัดเจนกว่า ส่วนนายกรัฐมนตรีตอบภาพรวม เมื่อถามถึงโครงการเติมเงิน 10,000 ผ่าน Digital Wallet หรือโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะชัดเจนจากเวทีนี้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่แน่นอน วันที่ 12 กันยายน แถลงแล้ว ตนเองจะแถลงภาพรวมของนโยบาย แต่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเป็นคนแถลงรายละเอียด
ส่วนคำถามว่าพรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ 10,000 บาท ได้ทั้งหมดก้อนเดียวด้วยดิจิทัลวอลเล็ต แต่วิธีการทำกับการหาเสียงแตกต่างกัน จะอธิบายประชาชนอย่างไร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มันมีความแตกต่างแน่นอน พอได้ลงมือทำจริงๆ เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลมีเรื่องระบบที่ต้องติดตั้งอีกนาน ซึ่งมันต้องรอ แต่เศรษฐกิจรอไม่ได้ ประชาชนรอไม่ไหว ฉะนั้นต้องปรับเปลี่ยนในจุดนี้ให้ประชาชนก่อน เพราะเป้าหมายคือการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ หากกระตุ้นไม่พอเรายังพร้อมที่จะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในแบบดิจิทัล ซึ่งมันมาช้ากว่า แต่เศรษฐกิจต้องถูกกระตุ้นก่อน เราทำอันนี้เสร็จไม่ใช่มีแค่นโยบายเดียว เรามีอีกหลายอันที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ แต่อันนี้เป็นอันหลัก เร่งด่วน และเห็นผลทันที จึงอยากรีบทำ
...
เมื่อถามต่อไปว่าจากรัฐบาลก่อนที่จะจ่ายเงินดิจิทัลรอบเดียว ไม่แบ่งจ่าย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาพใหญ่ แต่วันนี้เปลี่ยนไป การกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นไปตามเป้าหรือไม่ นายกรัฐมนตรี เผยว่า การวางแผนเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายเฟสที่ต้องกระตุ้น อย่าง 10,000 บาท ที่ได้แถลงไปแล้วว่าจะจ่ายก่อน ก็เป็นการกระตุ้นอันหนึ่ง ภาพใหญ่ 1 ภาพก่อน ส่วนหลังจากนั้นก็ไม่ลืมทิ้งโครงสร้างดิจิทัลที่เราจะต้องทำต่อด้วย อันนี้สำคัญ
“ตอนแรกเราจะไม่ให้เป็นเงินสดเลยทั้งหมด จะเป็นเงินดิจิทัลทั้งหมด แต่อย่างที่บอกเศรษฐกิจรอไม่ได้ เราก็เลยต้องแบ่งเฟส ดิจิทัลยังอยู่ แต่เราอาจจะเปลี่ยนเป็นว่า 5,000 บาทไหม หรืออย่างไร เดี๋ยวให้ รมว.คลัง แถลงรายละเอียด”
ผู้สื่อข่าวถามต่อ หากแบ่งจ่ายอาจจะไม่ใช่พายุหมุนเหมือนที่เราตั้งใจไว้ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า มันเป็นการกระตุ้นแน่นอน แต่รูปแบบเปลี่ยนไป ฉะนั้นขอให้ รมว.คลัง แจงในรายละเอียดอีกที ขณะที่เป้าในการกระตุ้นเศรษฐกิจจะลดลงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไม่ค่ะ เพราะเราแบ่งเฟสแล้ว และอย่างที่บอกไม่ได้มีนโยบายเดียวที่จะให้การกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดขึ้น ฉะนั้น การแบ่งทีละเฟสควบคู่กับนโยบายอื่นๆ ก็จะทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจดูดี”
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยหาเสียงจ่ายเงินดิจิทัลขณะที่ยังไม่ศึกษารายละเอียดจึงทำให้การจ่ายเงินล่าช้า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มันล่าช้าเพราะเราเข้ามา เราคิดว่าจริงๆ แล้วระบบมันจะสามารถดำเนินไปได้เลย แต่มันต้องมีการรับฟัง ถ้าไม่เกิดการรับฟังมีปัญหาอย่างแน่นอน ซึ่งต้องรับฟังหลายๆ ฝ่ายว่ามีข้อกังวลหรือข้อสงสัยอะไร อันนี้คือสิ่งที่เราพยายามทำให้รัดกุม และดีที่สุดสำหรับประเทศด้วย
สำหรับการแถลงนโยบายต่อรัฐสภามีความมั่นใจเต็มที่หรือไม่ เนื่องจากทั้งฝ่ายค้านและสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จองคิวไว้เต็มที่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “เหรอคะ เราก็ทำเต็มที่ แต่จริง ๆ แล้วขอโฟกัสเรื่องน้ำท่วมหลังการแถลงก่อน” เมื่อถามย้ำว่าจำเป็นถึงกับจะต้องมีองครักษ์พิทักษ์นายกฯ หรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรีร้องอ๋อ แต่ไม่ตอบได้ ส่วนที่ยังมีเสียงข้อครหารัฐบาลแพทองธาร ไม่ต้องนับปีเอาแค่นับเดือนจะรอดหรือไม่ นายกรัฐมนตรียิ้มพร้อมกล่าวว่า “ก็ช่วยกันนับ”
นอกจากนี้ในเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถสั่งการอะไรได้ เนื่องจากยังไม่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ได้อัปเดตข้อมูลกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว ทราบว่าได้จัดกำลังทหารลงไปในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ได้จัดเตรียมพื้นที่พักพิงไว้ 2 ที่ โดยเฉพาะที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมถึงตั้งโรงครัวซึ่งสามารถประกอบอาหารได้ประมาณ 500-600 ชุดต่อมื้อ ซึ่งก็ยังไม่พอ แต่ทุกหน่วยงานพยายามเร่งมือเต็มที่ แน่นอนว่าหลังจากการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 12 กันยายน 2567 ก็จะสามารถสั่งการได้อย่างเต็มที่ ตอนนี้พยายามหาข้อมูลไว้และให้ทุกคนเตรียมพร้อมในเรื่องของการจัดการต้องให้รีบมาก ๆ
ทางด้านการเข้าไปช่วยเหลือคนที่ยังติดอยู่ในพื้นที่ ที่มีอีกหลายคนที่ยังไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวยอมรับว่าใช่ เพราะน้ำที่ไหลลงมายังเชี่ยวอยู่ เรือท้องแบนยังไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้เต็มที่ ต้องรออีกนิดนึง ทุกฝ่ายสแตนด์บายพร้อมแล้ว เมื่อกระแสน้ำดีขึ้นเมื่อไหร่ก็จะเข้าไปช่วยเหลือทันที และตอนนี้เท่าที่ได้รับรายงานมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้วประมาณ 9,000 ครัวเรือน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าขณะนี้มีการร้องขออุปกรณ์จากรัฐบาลโดยเฉพาะเจ็ตสกี เพราะจะสามารถฝ่าคลื่นกระแสน้ำได้ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ใช่ ขณะนี้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมทุกอย่างที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ และเมื่อสถานการณ์น้ำดีขึ้นพอที่จะสามารถเข้าพื้นที่ได้ก็จะเข้าพื้นที่ทันที แต่ขณะนี้ในส่วนของทหารก็มีการเตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว เรื่องนี้ต้องให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ให้ข้อมูลอีกครั้ง แต่ทราบว่าได้มีการสั่งการเรียบร้อยแล้ว และก็พร้อมที่จะเข้าไปในพื้นที่.