“ยักษ์วัดแจ้ง-ยักษ์วัดโพธิ์” ผนึกกำลังกันสิงร่าง อารมณ์ของ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา หัวหน้าก๊วน “กบฏผู้กอง” ที่ตีหน้าทศกัณฐ์กัดกรามคำรามลั่น

ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว “ดุกว่าเดิม” พร้อมท้ารบหนักมาสวนไป

ในจังหวะโต้กลับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ที่ไล่จับโป๊ะประจานพฤติการณ์สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย ส่อขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 185 ห้าม สส.ฝ่ายนิติบัญญัติก้าวก่ายชี้นำฝ่ายบริหาร

ประกอบหลักฐานภาพตำตาที่ “ผู้กองนัส” นั่งหัวโต๊ะบัญชาสั่งการข้าราชการ ขนาบข้างด้วย “มาดามบิ๊กอาย” นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า และนายอิทธิ ศิริลัทธยากร 2 รมช.

โชว์ลูกขยันลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำหลาก ที่จังหวัดชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ลุยงานตั้งแต่ ครม.ยังไม่ทันแถลงนโยบายต่อสภา รัฐมนตรียังไม่เข้านั่งเก้าอี้ทำงานในกระทรวง หวังบวกแต้มความตั้งใจ

แต่ดันโดนขัดคอขัดลำหักคะแนน “ผิดคิว” เต็มๆ

ต่อมฉุน “ผู้กองนัส” เลยพุ่งเต็มเกจ์ อาการขาใหญ่ที่ “มาเฟียเรียกพี่” เด้งกลับมาโดยธรรมชาติ ฟาดกลับ “หมอวรงค์” ไล่ให้ไปดูข้อกฎหมายดีๆ

ด่าแรง พวกบ้าๆบอๆ ไม่สนใจ ไม่สนเสียงนินทา

ตามฟอร์มเท็กแอ็กชันบท “แข็งกร้าว” อำพราง “จุดอ่อน” ปรากฏการณ์สะท้อนว่า “ผู้กองนัส” และทีมรัฐมนตรีในโควตาก๊วน “กบฏพลังประชารัฐ” คือตำบลกระสุนตก สภาพตกเป็นเป้าโฟกัส

“บ่อน้ำมัน” รัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

...

ประเดิมสะดุดตอ ฤกษ์ไม่ดี สภาพโดนไล่บี้หนักแน่

และนั่นก็จะไหลต่อเนื่องไปถึงคิวในสภา ตามสถานะของกระทรวงเกษตรฯคือขุมทรัพย์ปู่โสมฯที่ถูกทีมเด็กค่ายส้ม สส.พรรคประชาชน ลงชื่อจองคิวชำแหละ พ.ร.บ.งบประมาณฯมากที่สุด แถวผู้อภิปรายยาวกว่าทุกกระทรวง

บ่งบอกถึงระดับความ “ระแวง” ในมาตรฐานความโปร่งใส

ตามรูปการณ์ที่ “มาดามบิ๊กอาย” และ 2 รัฐมนตรีช่วยในโควตา “ผู้ครอบครอง” ของ “ผู้กองนัส” ต้องเตรียมพร้อมโดนลากเข้าบัญชี “ดีหนึ่งประเภทหนึ่ง”

อภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไหร่ไม่พลาดตกขบวนแน่

แต่ที่อันตรายและมีฤทธิ์เดชจริงๆก็คือ แรงแค้นของ “คนในป่าฯ” สถานการณ์รอวันชำระสะสาง ตามจังหวะที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ ประกาศสู้ต่อไม่ถอย ไม่ถอดใจ

ตามจังหวะยกระดับการใช้งานมือกฎหมายอย่างนายไพบูลย์ นิติตะวัน ดันขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค “จอมสอยอาชีพ” มือวางอันดับโลก อย่างนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ลุยงานแบบรายวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

“นักร้องออเคสตรา” เต็มวง ถ้ารัฐมนตรีในก๊วน “กบฏผู้กอง” ตกร่องคอร์รัปชัน พลาดเข้าเงี่ยงทุจริต ผิดกฎหมาย ขัดรัฐธรรมนูญเมื่อไหร่

รับรองได้โดนขย้ำซ้ำแบบเอาตายชัวร์

“ทหารเฒ่า” ไม่มีวันตาย “บิ๊กบราเธอร์” ไม่ลดดีกรีทรงอิทธิพล

ทีเด็ดอยู่ที่ “มีดบินไม่เคยพลาดเป้า” พลังภายในที่แฝงอยู่ใน “องค์กรอิสระ” คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปยันศาลรัฐธรรมนูญ

“ลุงในป่าฯ” ยังอยู่ในชัยภูมิได้เปรียบ แนวรบ “นิติสงคราม”

ตามสถานการณ์ตรงกันข้าม “ผู้กองนัส” ที่มี สส.ก๊วน “กบฏผู้กอง” อยู่ในกำมือ ลำพังเหมือนคุมกำลังทหารราบเสี่ยงตำบลกระสุนตกอยู่ในสนาม

ต้องสู้กับแรงปะทะรอบทิศ ประคองตัวเองให้รอดจากการถล่ม “บ่อน้ำมัน”

ณ จุดที่กัปตันทีมติด “รหัสแดง” สะดุด “ปมจริยธรรม” อย่างจัง เส้นทาง “ผู้กองนัส” แทบปิดโอกาสเป็นรัฐมนตรีรีเทิร์นกลับคืนสู่ ครม.

ต้องออกไปนั่งบัญชาเกมอยู่ข้างสนาม ไฟต์บังคับบีบให้ยกระดับเป็นผู้มีบารมีในระนาบเดียวกับ “เนวิน ชิดชอบ” ครูใหญ่ค่ายเซราะกราว ภูมิใจไทย

เกมเขี้ยวที่บท “ยักษ์วัดแจ้ง–ยักษ์วัดโพธิ์” ขู่ดุ ไม่ได้ง่ายๆ.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม