“นายกฯอิ๊งค์” ถือฤกษ์วันมังกร 13 ก.ย.เข้าทำเนียบฯทำบุญตักบาตร สักการะพระพรหม ไหว้ศาลพระภูมิ-ศาลตายาย ก่อนดีเดย์เริ่มงาน 16 ก.ย. ถก ครม.นัดแรก 17 ก.ย. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง สะพัด “จักรภพ” โผล่คั่วเก้าอี้โฆษกรัฐบาล “ภูมิธรรม” โอดเป็นเหยื่อเหตุการณ์เดือน ต.ค.19 โวยนักร้องขุดอดีตฟื้นความขัดแย้งในสังคม “อนุทิน” นำทีม รมต.เข้ากระทรวง แซว 2 รมช.สาวผู้มีอิทธิพลตัวจริง แบะท่าหนุนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ “เดชอิศม์” ไหว้พระแม่ธรณีก่อนเข้า สธ. ขึงขังถ้ารัฐบาลมีทุจริตคอร์รัปชัน ปชป.ถอนตัวทันที วิป 3 ฝ่ายเคาะถกนโยบายรัฐบาล 29 ชั่วโมง ฝ่ายค้าน ได้ 13 ชั่วโมงโชว์ฝีปาก “ปชน.” ทวงคำตอบชัดๆ หวั่นไม่ได้ รธน.ใหม่ใช้ทันเลือกตั้งปี 70

คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทยอยเดินทางเข้ากระทรวงเพื่อเตรียมตัวเริ่มต้นปฏิบัติหน้าที่กันอย่างคึกคัก โดยนายกฯจะเดินทางเข้าทำบุญตักบาตร พร้อม สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 13 ก.ย. ก่อนจะเริ่มเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการในวันที่ 16 ก.ย.

นายกฯเข้าตึกชินวัตร 3 ไม่ตอบนโยบาย

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 9 ก.ย. ที่อาคารชินวัตร 3 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดี แต่เมื่อขอสัมภาษณ์ถึงร่างนโยบายรัฐบาล ที่เผยแพร่ออกมาขณะนี้นายกฯได้แต่ยิ้มโบกมือทักทายสื่อ ก่อนเดินขึ้นลิฟต์ขึ้นไปบนห้องทำงานทันที

วันเดียวกัน ทีมรักษาความปลอดภัยนายกฯ ได้ประชุมเพื่อวางแผนและมาตรการการอารักขานายกฯ ตามแผนปกติในการรักษาความปลอดภัยที่จะดูแลทั้งพื้นที่บ้านพัก ทำเนียบรัฐบาล และเส้นทาง ในการปฏิบัติภารกิจของนายกฯ

...

ใช้ฤกษ์วันมังกรไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธารนอกจากจะนำ ครม.แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่างวันที่ 12-13 ก.ย. แล้ว ในวันที่ 13 ก.ย. เวลา 07.30 น. ก่อนร่วมแถลงนโยบายรัฐบาลเป็นวันที่ 2 นายกฯ จะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร ก่อนเพื่อสักการะพระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า และสักการะศาลพระภูมิ ศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ วันดังกล่าวตามโหราศาสตร์ไทยถือเป็นวันโชคดีที่สุด (ดิถีสิทธิโชค) ขณะที่ทางโหราศาสตร์จีนถือว่าเป็นวันมังกร ฤกษ์ดี อยู่ช่วงเวลา 07.00-09.00 น.

16 ก.ย. ดีเดย์เริ่มงานขนโต๊ะมาเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล ได้ทำความสะอาดพระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า ศาลพระภูมิ และศาลตายายแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนชุดโต๊ะทำงานนายกฯได้นำมาตั้งที่ห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.ตั้งหันหน้าไปยังตึกบัญชาการ 1 รวมถึงได้ติดผ้าม่าน สีงาช้าง เป็นผ้าม่านเดิมที่ถูกถอดออกสมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ โดยวันที่ 16 ก.ย. นายกฯจะเข้า ปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนัดแรกในวันที่ 17 ก.ย. ในที่ประชุมจะมี การพิจารณาตำแหน่งข้าราชการทางการเมืองทั้งหมด ขณะที่เวลา 11.35 น. เจ้าหน้าที่บริษัท TATEE SERVICE มาย้ายปลามังกรทอง ตู้ปลามังกรทองและชุดโซฟา ที่เดิมเป็นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยเลี้ยง สมัยเป็นรองนายกฯ แล้วมอบต่อให้น้องชายที่ห้องทำงาน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 นำไปส่งที่ซอยสามเสน 18 เขตดุสิต กทม.

ซินแสชี้ฤกษ์ดีแต่อายุเข้าเคราะห์

นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสชื่อดังประธานสถาบันศาสตร์แห่งชีวิต และอดีต สว. กล่าวถึง กรณีนายกฯจะเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำเนียบรัฐบาลวันที่ 13 ก.ย. เวลา 07.30 น. ว่า ตามตำราโหราศาสตร์จีนวันที่ 13 ก.ย.เป็นวันมังกร และเวลา 07.30 น. ถือเป็นฤกษ์มังกร และปีนี้เป็นปีมังกร แต่มองว่าเดือนนี้อาจจะไม่ดีสำหรับผู้หญิง เข้าใจคงจะมีซินแสดูฤกษ์ดูยามให้นายกฯมาแล้ว จึงเลือกใช้ ฤกษ์มังกรนี้ มองว่าฤกษ์นี้ใช้ได้ แต่ยังไม่ครบ ต้องมี ฮวงจุ้ยมาประกอบด้วย แต่ที่สำคัญปีนี้ น.ส.แพทองธาร อายุเข้าเคราะห์เดือนนี้ จึงเป็นเดือนที่วุ่นวายและจะพ้นเคราะห์เดือน พ.ย. ประกอบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ดวงเข้าเคราะห์ด้วย ทำให้เหนื่อยและวุ่นวายกันหน่อย

“จักรภพ” ชื่อโผล่คั่วเก้าอี้โฆษก รัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนัดแรก วันที่ 17 ก.ย.เวลา 10.00 น.จะมีการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี ส่วนใหญ่ยังคงเป็นรายชื่อเดิมสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ แต่อาจปรับเปลี่ยนบางกระทรวง เพื่อให้เหมาะสม ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของแต่ละพรรคต้นสังกัด รวมถึงจะมีการพิจารณาแต่งตั้งโฆษกประจำสำนักนายกฯ มีแคนดิเดตหลายคน รวมถึงชื่อนายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ ในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยชื่อนายจักรภพ ขณะนี้มีกระแสมาแรงอยู่ในลำดับต้นๆ

“อ้วน” โอดนักร้องขุดอดีตฟื้นขัดแย้ง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว. กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส่งหนังสือให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เสนอชื่อนายภูมิธรรมเป็น รมว.กลาโหม เข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ว่า การกล่าวหาว่าตนฝักใฝ่ เข้าข่ายเป็นการล้มล้างเป็นปฏิปักษ์ต่อระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย ตนเป็นนักศึกษาเป็นเหยื่อเหตุการณ์เดือน ต.ค.19 เพื่อนพี่น้องหลายคนถูกฆ่าตาย ไล่จับ ต้องหนีเข้าป่า ไม่ได้ฝักใฝ่ แต่มีความตั้งใจเรื่องการรักชาติ อยากเห็นความยุติธรรมประชาธิปไตยเกิดขึ้น หลังมีนโยบาย 66/23 ทำให้ทุกคนออกมาจากป่าได้พิสูจน์ตัวเองแล้วอยู่กับระบบประชาธิปไตยที่เปิดเผยมาตลอด เป็นรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 2548 นายเรืองไกรอย่าใช้การเมืองมารื้อฟื้นความขัดแย้งในอดีตเลย

“อนุทิน” นำทัพ รมต.เข้ามหาดไทย

เมื่อเวลา 08.00 น.ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย นำ 3 รมช.มหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ เข้าปฏิบัติหน้าที่ โดยมีการตรวจแถวกองเกียรติยศกองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย พร้อมกันทั้ง 4 คน จากนั้นร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เริ่มจากศาลพระชัยมงคล ศาลพระกาฬไชยศรี และอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรง ราชานุภาพ มีข้าราชการกระทรวงฯให้การต้อนรับ ต่อมานายอนุทินนำ รมช.มหาดไทย 3 คน พบปะข้าราชการระดับสูง ทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมต่างๆ ข้าราชการ โดยนายอนุทินกล่าวว่า อยากแนะนำผู้มาร่วมงานใหม่ คือ น.ส.ซาบีดา และ น.ส.ธีรรัตน์ แต่ไม่ใช่เป็นคนหน้าใหม่ทางการเมือง พวกเราทุกคนมาดี ไม่ได้มาทำให้เกิดการปั่นป่วนวุ่นวาย ถ้าหมดวาระก็จะไปด้วยมิตรไมตรี

แซว 2 รมช.หญิงเป็นผู้มีอิทธิพล

นายอนุทินกล่าวว่า ให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อนถึงแบ่งงาน ไม่อยากให้ รมช.มหาดไทย 3 คน คำนึงถึงตัวเลขเรียงลำดับ ไม่อยากให้เรียกมท.1 มท.2 มท.3 อยากให้เรียก “มท.หนู” “มท.ป้อม” (นายทรงศักดิ์) ตัวเลขไม่สำคัญอยู่ที่ภารกิจที่ทำให้ประชาชนมากกว่า ด้าน น.ส.ซาบีดากล่าวว่า จากที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน เมื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระทรวงฯแล้ว ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย ขณะที่ น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า หวังว่าจากนี้ไปจะทำงานกันอย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จอยู่ครบเทอมแน่

นายอนุทินกล่าวถึงการมอบหมายงานให้ น.ส.ซาบีดาดูงานปราบปรามผู้มีอิทธิพลแทนบิดาว่า ต้องพิมพ์คำสั่งทำไม เพราะปรับไม่มาก ส่วน กทม.คงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ดูแล เมื่อถามว่างานเกี่ยวกับความรุนแรงจะมอบหมายให้ น.ส.ซาบีดาดูแลต่อหรือไม่ นายอนุทินกล่าวติดตลกว่า “มองไปข้างหลังสิ ผมว่าน่ากลัวกว่าคุณชาดาอีก” เมื่อถามว่า รมช.มหาดไทยเป็นผู้หญิงจะไม่มีปัญหากับการดูผู้มีอิทธิพล นายอนุทินตอบว่า “สำหรับผม ผู้มีอิทธิพลคือ รมช.หญิงทั้งสองคนนั่นแหละ สิงห์สองคู่อยู่ใน มท.ร่วมกันได้” ขณะที่รัฐบาลถ้าเข้าใจกัน สนับสนุนกันและกัน มั่นใจอยู่ครบเทอม

แบะท่าหนุนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

นายอนุทินกล่าวอีกว่า ส่วนนโยบายกัญชา พรรค ภท.ขอให้นายกฯพิจารณาออกฎหมายควบคุมใช้กัญชาในทางการแพย์อย่างเคร่งครัดเพื่อสุขภาพ เมื่อถามถึงจุดยืนต่อเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ที่มีท่าทีคัดค้าน นายอนุทินปฏิเสธว่า ไม่ได้คัดค้าน เห็นด้วยอยู่แล้ว แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ปรับโซนนิงให้กระจาย ไม่กำหนดจุดใดจุดหนึ่งและคนไทยได้ประโยชน์สูงสุด เมื่อถามย้ำว่าหากเงื่อนไขโครงการเหมาะสมพรรค ภท.พร้อมสนับสนุน นายอนุทินตอบว่า พรรคร่วมรัฐบาล โดยกติกามารยาทต้องสนับสนุนกันและกัน หากไม่สนับสนุน พอถึงนโยบายเรา ฝั่งโน้นไม่สนับสนุนแล้วประชาชนจะได้อะไร ประเทศจะได้อะไร ต้องสนับสนุนให้มีการขับเคลื่อน แต่ทุกอย่างต้องถูกต้องตามครรลองคลองธรรม ไม่ผิดศีลธรรม เกิดประโยชน์ชัดเจนต่อส่วนรวม

“เดชอิศม์” ไหว้พระแม่ธรณีก่อนเข้า สธ.

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ปชป. พร้อม น.ส.สุภาพร กำเนิดผล และนายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.สงขลา พรรค ปชป. เข้าสักการะพระแม่ธรณี บีบมวยผม สัญลักษณ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ รมช.สธ. โดยนายเดชอิศม์กล่าวว่า นโยบายของพรรคที่จะนำไปเป็นนโยบายรัฐบาลคือความพยายามเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) ทั่วประเทศให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ลดความแออัด รพ.ในตัวเมือง ส่วนที่นโยบายรัฐบาลไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน ได้พูดคุยในที่ประชุม ครม.นัดพิเศษแล้ว เพราะถ้ามีเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน พรรค ปชป.จะถอนตัวทันที แต่ถ้าไม่มีรัฐบาลนี้อยู่ครบเทอมแน่

โอ่ต้องปั้นผลงานกู้คืนศรัทธา

เมื่อถามถึงการเรียกศรัทธาพรรค ปชป.กลับคืนมา นายเดชอิศม์กล่าวว่า ก่อนพรรคจะตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล ให้ สส.ไปทำการบ้านในพื้นที่อย่างละเอียด สอบถามประชาชนแฟนพันธุ์แท้ของพรรค เชื่อว่าเกิน 90% เห็นด้วย แต่เสียงที่ดังมากจะเป็นคนที่ไม่อยู่ในพรรคกับคนที่ไม่เคยเลือกพรรค ปชป.ที่ออกมาโน้มน้าวให้คนรังเกียจพรรค เมื่อมีโอกาสจะไปแก้ปัญหาประชาชนได้ ทำไมเราไม่ใช้โอกาสนั้น พรรค ปชป.มาร่วมบริหารประเทศต้องมีผลงานให้แตกต่างให้ได้ สร้างความโดดเด่นให้ได้ ที่จริงประเมินผลงานตัวเองทุกเดือนอยู่แล้ว แต่ภาพรวมอาจประเมินอีกทุก 3-6 เดือน ส่วนตัวไม่กดดัน เพราะถูกปรามาสไว้มาก สมัยเป็นนายก อบจ.สงขลา เคยถูกปรามาสเช่นกัน แต่สุดท้ายคนอื่นๆที่เคยอยู่ในตำแหน่งนี้ติดคุกไปหลายคน ยกเว้นตนคนเดียว ที่ถูกร้อง ป.ป.ช. ไม่กังวล รู้ตัวเองดีมั่นใจไม่ผิดจริยธรรม อุปสรรคที่เกิดขึ้นยิ่งเพิ่มพลังในการต่อสู้เพื่อประชาชนมากกว่าเดิม

“เฉลิมชัย” ไปส่งถึงกระทรวงหมอ

ต่อมาที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป.ในฐานะ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มาร่วมแสดงความยินดีกับนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช. สาธารณสุข โดยนายเฉลิมชัยกล่าวว่า มาให้กำลังท่านเลขาฯ ไม่มีเรื่องอื่น ไม่ต้องกำชับอะไร โตเป็นผู้ใหญ่แล้วทำงานได้แล้ว เชื่อมั่นว่าจะทำได้เพราะเราตั้งใจเข้ามาเพื่อมาทำงาน ส่วนการร้องเรียนให้ตรวจสอบไป ใครทำผิดไม่สามารถพ้นผิดได้ แต่ถ้าไม่ได้ทำผิดขึ้นมาแล้วความจริงปรากฏวันใดวันหนึ่ง อยากฝากว่าใครทำอะไรไปขอให้มีคำขอโทษบ้าง คนร้องไม่ใช่เด็ก การคัดเลือกรัฐมนตรีมีการตรวจสอบ หากเล่นเกมการเมืองเยอะขนาดนี้ ประเทศไม่ได้อะไร ส่วนการแถลงนโยบายพร้อม ทุกอย่างเป็นไปตามที่พรรคเสนอร่วมไป

“นริศ” โวนโยบาย ปชป.บรรจุครบ

นายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่มี 4 นโยบายของพรรค ปชป.ที่เสนอให้บรรจุไว้เป็นนโยบายรัฐบาล แต่อ่านร่างนโยบายรัฐบาลแล้ว มีนโยบายของพรรค ปชป.ถูกบรรจุไว้ครบถ้วนแล้ว คือ 1.เร่งแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งอากาศสะอาดและโลกร้อน 2.กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นให้เพิ่มมากขึ้น 3.แก้ปัญหาเรื่องน้ำและที่ดินทำกิน และ 4.การพัฒนาศักยภาพ รพ.สต. และยกระดับระบบสวัสดิการ

อสม. และบุคลากรด้านสาธารณสุข ดังนั้น ขอให้เชื่อมั่นว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค รมช.สาธารณสุข พร้อมผลักดันโครงการดีๆภายใต้สโลแกน “ความหวัง โอกาส และความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม”

วิป 3 ฝ่ายเคาะถกนโยบาย รบ.29 ชม.

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วม 3 ฝ่าย (วิป 3 ฝ่าย) ได้แก่ คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) ตัวแทน ครม.เข้าร่วมหารือกรอบเวลาการอภิปรายนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา วันที่ 12-13 ก.ย. มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธาน ต่อมานายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า วิป 3 ฝ่าย กำหนดกรอบเวลาอภิปรายนโยบายรัฐบาลใช้เวลา 29 ชั่วโมง แบ่งเป็นนายกฯและ ครม. 6 ชั่วโมง พรรคร่วมรัฐบาล 4.30 ชั่วโมง พรรคร่วมฝ่ายค้าน 13 ชั่วโมง และ สว. 4.30 ชั่วโมง โดยวันที่ 12 ก.ย. เริ่มเวลา 09.00 น. ใช้เวลา 14.30 ชั่วโมง สิ้นสุดเวลา 24.00 น. หรือเกินเวลาเล็กน้อย วันที่ 13 ก.ย. เริ่มเวลา 09.00 น.

ปชน.ห่วงได้ รธน.ใหม่ใช้ไม่ทัน ลต. ปี 70

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน. กล่าวถึงนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า เราจะซักถามเพิ่มเติมในวันแถลงนโยบาย การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำ 2 ทางคู่ขนานกันไป คือการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็วที่สุด โรดแม็ปรัฐบาลวางไว้ต้องทำประชามติ 3 ครั้ง แต่การจัดทำประชามติรอบแรกยังไม่เกิดขึ้น คำนวณแล้วอาจสุ่มเสี่ยงจะไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้พร้อมกฎหมายลูกทันการเลือกตั้งปี 70 และเราไม่ได้บอกว่าต้องแก้ไขรายมาตราแทนที่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่มาตราไหนในรัฐธรรมนูญ 2560 จำเป็นเร่งด่วนต้องแก้ไข ควรเสนอแก้ไขรายมาตรา ปีศาจอยู่ในรายละเอียดรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ใครจะเป็นคนร่างมาจาก ส.ส.ร.เลือกตั้ง 100% หรือไม่

ขอคำตอบโรดแม็ปแก้ รธน.ชัดๆ

“ล่าสุดรัฐบาลวางโรดแม็ปไว้อย่างไรให้เรามีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้ทันการเลือกตั้งปี 2570 รวมถึงสนับสนุนการแก้ไขรายมาตราที่มีปัญหาเร่งด่วนด้วยหรือไม่ คำตอบสุดท้ายที่พรรค ปชน. อยากได้จากรัฐบาลคืออยากได้โรดแม็ปที่ชัดเจนว่าจากวันนี้จนถึงวันที่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีการกำหนดระยะเวลาไว้อย่างไร” นายพริษฐ์กล่าว

พปชร.ยังไม่ขอคิวสับนโยบาย รบ.

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ว่า พรรค ปชน.จะได้ข้อสรุปหัวข้อการอภิปรายนโยบายรัฐบาลภายใน 10 ก.ย. ส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังไม่มีใครมาคุย อาจต้องเว้นไปก่อน เมื่อถามว่าเวลา 13 ชั่วโมง เป็นของพรรค ปชน.ทั้งหมดใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิตอบว่า ณ ตอนนี้มีพรรคเล็กมาขอโควตาเวลาแล้ว คงบริหารจัดการเชื่อว่าไม่มีปัญหา ส่วนจัดสรรเวลาให้พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ยังไม่ได้พูดคุยกัน เมื่อถามว่าติดใจหรือไม่ที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตมีรายละเอียดเปลี่ยนไป นายปกรณ์วุฒิตอบว่า เป็นเรื่องใหญ่มีสมาชิกอภิปรายแน่นอน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ถามไปหลายครั้งแล้วว่าบางรายละเอียดสุ่มเสี่ยงจะขัดกฎหมาย ต้องรอคำตอบที่ชัดเจนว่านิ่งแล้วหรือไม่

สว.พันธุ์ใหม่จ้องเขม็งเงินดิจิทัล

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ กล่าวถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 12-13 ก.ย.ว่า รัฐบาลยังผลักดันนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตแต่อาจเปลี่ยนรูปแบบ ต้องรอดูเพราะงบประมาณถูกจัดสรรและดำเนินการไปแล้ว และจะทำได้ตามกฎหมาย กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ จะเป็นพายุหมุนหรือเป็นแค่ลมพัด ส่วนปัญหาการเลือกประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ 21 คณะ ของวุฒิสภา กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ได้เสนอตัวแทนเป็นประธาน กมธ.บ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ หากทั้ง 21 คณะ มีประธาน กมธ.เป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมด จะไม่เห็นการนำปัญหาประชาชนมาสะท้อน เท่าที่ดูน่าหนักใจมาก การทำงานตลอด 5 ปี ถ้าประธาน กมธ.ใน 21 คณะ ไม่มีสัดส่วนของ สว.อิสระ จะกลายเป็นสภาอำนาจนิยมหรือไม่

“อังคณา” ห่วงนโยบายปราบยา

นางอังคณา นีละไพจิตร สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ กล่าวว่า ร่างนโยบายรัฐบาลเรื่องการปราบปรามยาเสพติด กังวลจะกลับไปเหมือนปี 2546 ช่วงสงครามยาเสพติด มีคนตาย 3,000 กว่าคน แต่ไม่มีใครเคยต้องโทษ คนตายฟรี สงครามยาเสพติดจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ขณะนี้มีกฎหมายให้ผู้เสพเป็นผู้ป่วย ถามว่าจะดูแลอย่างไร คิดจะปราบปราม แต่จะทำอย่างไร อีกเรื่องปัญหาชายแดนภาคใต้ถูกจัดอันดับความสำคัญน้อย ทั้งที่เป็นปัญหาต่อเนื่องมากว่า 20 ปี นโยบายรัฐบาลชุดนี้ไม่ต่างจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ และรัฐบาลนายทักษิณก็ไม่ต่างกัน ดูแล้วไม่มีอะไรใหม่

ติงไม่ได้คิดเองต้องทำความเชื่อมั่น

นายปฏิมา จีระแพทย์ สว. กล่าวว่า อ่านนโยบายรัฐบาล 14 หน้าแล้ว รู้สึกว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ไม่ได้คิดและเขียนนโยบายเอง ขอให้ น.ส.แพทองธารสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่า นโยบายทุกข้อจะเป็นรูปธรรมชัดเจน อาทิ แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้กลุ่มเปราะบางได้ภายในวันที่ 30 ก.ย. ที่เหลือจะแจกเป็นรูปแบบใดควรระบุให้ชัดเจน ภายใน 1-2 เดือน จะดำเนินการเรื่องใดบ้าง รวมถึงมาตรการช่วยเหลือปัญหาน้ำท่วมภาคเหนืออย่างไร ขอฝากว่า ต้อง ททท.หรือทำทันที อย่า รยย.หรือรอยาวๆ ประชาชนจะเดือดร้อน

“หมอเปรม” โวย สว.ได้เวลาน้อย

นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. กล่าวว่าการจัดสรรเวลาและกรอบการอภิปรายนโยบายรัฐบาลว่า ให้สว.พูดแค่ 4 ชั่วโมงครึ่งน้อยไป ปีก่อนได้ถึง 5 ชั่วโมง กีดกัน สว.ตัวแทนที่ไปประชุมเป็น สว.บ้านใหญ่ไปสมยอมกับเขามา การชี้แจงงบโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลไม่กล้าตอบ และงบที่ยังขาดอยู่อีกกว่าแสนล้านบาท ไม่รู้ว่าจะหามาจากที่ไหน ปัญหาคือจะกู้มาเพิ่มอีกหรือไม่ รัฐมนตรีตอบแบบกว้างๆไม่ได้ตอบชัดเจน เชื่อว่าจะเล่นแร่แปรธาตุเอามาจนได้ ต้องเฝ้าติดตามรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ต้องฟังผู้นำทางจิตวิญญาณจะเอาอย่างไร ต้องทำไปตามนั้น

สว.ชี้งบฯปี 68 เสี่ยงผิดวินัยการเงิน

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม โดยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม สว.ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ. งบฯปี 2568 วุฒิสภา ชี้แจงว่า กมธ.ตั้งข้อสังเกตงบประมาณรายจ่ายปี 2568 สุ่มเสี่ยงจัดเก็บรายได้ไม่ตามเป้า สถิติการจัดเก็บรายได้ย้อนหลังต่ำกว่าประมาณการต่อเนื่อง หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ไม่เกิน 70% แต่หากรัฐบาลยังใช้งบเพิ่มขึ้น โดยการกู้เงิน อาจเสี่ยงต่อการผิดกรอบวินัยการเงินการคลัง รัฐบาลควรจัดสรรงบชำระคืนต้นเงินกู้เพิ่มขึ้น 2.5-4% เพื่อรักษาวินัยการเงินการคลังเคร่งครัด และลดการกู้เงิน คู่ไปกับเร่งขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ซัดมุ่งโกยคะแนนนิยมลูกเดียว

จากนั้นที่ประชุมเปิดโอกาสให้ สว.อภิปราย หลายคนแสดงความเป็นห่วงการจัดงบแบบขาดดุล ไม่สามารถจัดเก็บรายได้ตรงตามเป้า ขณะที่รายจ่ายประจำถีบตัวสูงขึ้น พร้อมตั้งข้อสังเกตโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เน้นแจกเงิน ประชานิยม หวังผลแค่คะแนนนิยมการเมือง อาทิ นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว.อภิปรายว่า งบจัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายลงทุน 908,244 ล้านบาท มีงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 187,700 ล้านบาท จะคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ เนื่องจากเน้นลงทุนระยะสั้น และแจกเงินแทนทำโครงสร้างพื้นฐานสร้างรายได้ให้ประชาชนระยะยาว การแจกเงินโครงการเรือธงรัฐบาลตรวจสอบยาก เอาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไปใส่ในงบกลาง ใช้กลยุทธ์แอบๆซ่อนๆไปล้วงตัด ดึงงบส่วนต่างๆมาใช้ ไม่แน่ใจมีเจตนาทุจริต ไม่ต้องการให้ตรวจสอบได้หรือไม่ สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ของบเพิ่มเติมปี 2567 จำนวน 1.65 แสนล้านบาท พอเป็นรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บอกไม่เอาแล้ว ไม่มีดิจิทัลวอลเล็ต จะแจกเป็นเงินสด ขอมาอย่างแต่ไปทำอีกอย่าง ถูกต้องหรือไม่ มอง สว.เป็นแค่ตราประทับใช่หรือไม่

ฉะจัดสรรแบบไม่เห็นหัว ปชช.

นางนันทนา นันทวโรภาส สว.อภิปรายว่า งบเป็นภาษีประชาชนต้องใช้ให้คุ้มค่า ควรรับฟังความเห็นประชาชน เลิกจัดงบแบบไม่เห็นหัวประชาชน หน่วยงานใดทุจริตมาก ใช้งบไปดูงานต่างประเทศมากๆต้องตัดงบให้มาก 10 กว่าปีที่ผ่านมาประเทศมีปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองกลายเป็นความเคยชิน หลายคนตั้งข้อสังเกตความวุ่นวายมาจากศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ ใช้นิติสงครามเมามัน เกิดอาชีพใหม่นักร้อง นายกฯคนใหม่ไม่ทันทำหน้าที่ เจอไปแล้ว 9 คดี การให้งบองค์กรอิสระ ที่ประชาชนสงสัยมีหลักนิติธรรมหลงเหลือหรือไม่ ควรหันกลับมาดูศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระยึดประชาชนเป็นที่ตั้งหรือไม่ อยากให้จัดงบให้ประชาชนมีส่วนร่วม

“หนิม” ยันหางบโปะแจกเงินได้แน่

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงว่า รัฐบาลเตรียมงบโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไว้ 4.5 แสนล้านบาท งบที่ยังขาดจะบริหารจัดการหาในส่วนที่ทำได้ เช่น ปี 2567 ออกกฎหมายงบเพิ่มเติม 1.2 แสนล้านบาท และงบส่วนอื่นอีก 23,000 ล้านบาท นำมาช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในช่วงปลายเดือน ก.ย.รัฐบาลจะปรับเปลี่ยนโครงการภายหลังการปิดลงทะเบียนที่จะทราบจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งหมดที่ชัดเจน รัฐบาลจะบริหารจัดการโดยใช้งบที่มีอยู่ และบริหารจัดการงบบางส่วน จากจำนวนผู้ลงทะเบียนขณะนี้ 32 ล้านคน ยังไม่หักกลุ่มเปราะบาง ยังอยู่ในวิสัยที่รัฐบาลสามารถบริหารจัดการได้

เหงื่อแตกพลั่กแอร์พังทั้งรัฐสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุมวุฒิสภา พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 แอร์อาคารรัฐสภาเสียทั้งระบบ ตั้งแต่ช่วงเช้าเพราะระบบ Chiller Run หรือระบบเครื่องทำความเย็นขัดข้องชั่วคราว ทำให้เครื่องปรับอากาศอาคารรัฐสภาทำความเย็นล่าช้า ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้การประชุมในห้องจันทราทุลักทุเลอากาศร้อน สว.ถึงกับถอดสูท เหงื่อแตกพลั่ก ยกเอกสารขึ้นมาพัด เจ้าหน้าที่ต้องนำพัดลมมาช่วยคลายร้อน แก้ปัญหาชั่วคราวไปก่อน กระทั่งเวลา 11.15 น. ระบบเครื่องปรับอากาศอาคารรัฐสภาถึงแก้ไขสำเร็จกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

“ธรรมนัส” จวก “วรงค์” ไม่รู้กฎหมาย

วันเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรค พปชร. อดีต รมว.เกษตรฯ กล่าวถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมภาพที่ไปลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมที่ จ.ชัยนาท และ จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ และนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ทำผิดกฎหมายมาตรา 185 ห้าม สส.และ สว.แทรกแซงการทำงานฝ่ายบริหารว่า รู้ข้อกฎหมายดี รัฐมนตรีใหม่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อเมื่อนายกฯแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว นพ.วรงค์เข้าใจอะไรผิดหรือไม่ ทั้ง 3 คนยังไม่สามารถสั่งการอะไรได้ สงครามน้ำตีเมืองจะแตกอยู่แล้ว ต้องไปสนใจเรื่องบ้าๆบอๆคำนินทาอะไร คนกำลังเดือดร้อนต้องโดดเข้าไปช่วย ตนไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วดุกว่าเดิมบอกเลย หนักมาสวนไป พร้อมท้ารบ ขอให้ นพ.วรงค์ไปศึกษาข้อกฎหมายให้ดีก่อน

กลุ่มพิราบขาวยื่น กกต.ยุบ 6 พรรค

วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 เข้ายื่นหนังสือถึง กกต.เพื่อขอให้พิจารณายุบพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคร่วมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาชาติและพรรคพลังประชารัฐ โดยนายนพรุจ กล่าวว่า เนื่องจากวันที่ 14 ส.ค. เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าและมีมติผลักดันนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ และที่ต้องยื่นยุบพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นประจักษ์ว่านายทักษิณเป็นบิดาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. แม้ น.ส.แพทองธารอยู่ระหว่างไปดูงานต่างประเทศ แต่การกระทำของนายทักษิณส่อครอบงำ สั่งการ ควบคุมพรรค จนประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นเจ้าของพรรค พท. จึงยื่นหนังสือถึงนายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาว่ามติพรรค พท.โดยคณะกรรมการบริหารของพรรคเข้าข่ายกระทำโดยไม่ซื่อสัตย์ สุจริต มีจริยธรรม ตามกฎหมายพรรคการเมืองและรัฐธรรมนูญ

16 ก.ย. เคาะขึ้นค่าจ้าง

ที่กระทรวงแรงงาน มีการประชุมคณะอนุกรรมการวิชาการกลั่นกรองตัวเลขค่าจ้างรายจังหวัด โดย ร.อ.สาโรจน์ คมคาย รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวหลังเป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการฯว่า เป็นการพิจารณาค่าจ้างเป็นรายจังหวัดไม่ได้พิจารณาเฉพาะกลุ่มอาชีพ กลุ่มอาชีพไหนที่จะปรับขึ้นต้องขึ้นอยู่กับบอร์ดชุดใหญ่จะพิจารณาอีกที ส่วนที่มี 20 จังหวัดไม่เสนอตัวเลขค่าจ้างใหม่จะนำเข้าสูตรค่าจ้างพิจารณาปรับให้ด้วย โดยจะนำผลการประชุมในวันนี้ส่งให้บอร์ดค่าจ้างชุดใหญ่ที่มีปลัดกระทรวงเป็นประธานประชุมเคาะค่าจ้างในวันที่ 16 ก.ย. ที่กระทรวงแรงงาน

ลูกจ้างเฉ่งอย่าตั้งธงขึ้นค่าจ้าง

นายพนัส ไทยล้วน ประธานสภาองค์กรลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย คณะอนุกรรมการวิชาการกลั่นกรอง กล่าวว่า เป็นการประชุมนัดแรกและจบภายในวันเดียว ฝ่ายนายจ้างยืนยันให้ปรับค่าจ้างรายจังหวัดตามสูตรค่าจ้างเดิม ยังไม่มีการปรับสูตรใหม่ แต่บางตัวในสูตรเดิมมีการปรับเปลี่ยนไป ในขั้นนี้เป็นการเสนอปรับขึ้นเป็นรายจังหวัดอย่างเดียวไม่ได้แยกกลุ่มอาชีพ จะปรับอาชีพไหนบ้างขึ้นอยู่กับบอร์ดค่าจ้างชุดใหญ่ ที่จริงค่าจ้างตามกลุ่มอาชีพมีอยู่แล้วตามมาตรฐานฝีมือ ไม่ใช่อัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ต้องพิจารณาทั้งจังหวัด รัฐบาลและนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ไม่ควรตั้งธงปรับค่าจ้าง 400 บาท เป็นหน้าที่ของบอร์ดค่าจ้าง แต่ถ้ายังยืนยันจะเอาให้จบตามธงที่ตั้งเป้า เชื่อว่าฝ่ายนายจ้างจะวอล์กเอาต์ แต่กฎหมายเขียนไว้ว่าต้องได้เสียง 2 ใน 3 ถ้ารัฐบาลกับลูกจ้างเห็นด้วยก็พอแล้ว และถ้าจะปรับขึ้น 400 บาทเฉพาะบางอาชีพนายจ้างคงไม่คัดค้านอะไร ยังมั่นใจว่าจะมีการเคาะอัตราค่าจ้างใหม่แน่นอน ตอนนี้เร่งกันจนตาเหลือก แต่คงไม่ทันให้มีผลในวันที่ 1 ต.ค. ตามที่ตั้งเป้าไว้ จะประสานงานกันตลอดเวลา เพื่อปรับเวลาให้สอดคล้องกับเวลาที่ใช้

“อิ๊งค์” เป็นเจ้าภาพสวดศพพ่อ “มท.อิ่ม”

เวลา 18.40 น. ที่วัดปลูกศรัทธา แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กทม. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เป็นเจ้าภาพพิธีสวดพระอภิธรรมศพนายวิบูลย์ สำเร็จวาณิชย์ บิดา น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย พร้อมกับพรรค พท. และพรรค ปชป.โดย น.ส.แพทองธารเป็นประธานในพิธี ได้เข้าสวมกอดให้กำลังใจ น.ส.ธีรรัตน์ก่อนเข้าภายในศาลา มีรัฐมนตรีแกนนำพรรค พท. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรค ปชป. เป็นต้น

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่