“ธรรมนัส” ไล่ “วรงค์” ไปศึกษาข้อกฎหมายให้ดี หลังหาว่าทำผิด ปมนั่งหัวโต๊ะประชุม

“ธรรมนัส” สวนกลับ “หมอวรงค์” ไล่ไปศึกษาข้อกฎหมายให้ดี หลังบอกทำผิดรัฐธรรมนูญ ม.185 ปมนั่งหัวโต๊ะประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ลั่น รัฐมนตรีใหม่ปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ต่อเมื่อนายกฯ แถลงนโยบายต่อรัฐสภา

วันที่ 9 กันยายน 2567 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลัง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมภาพตนลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมที่ จ.ชัยนาท และ จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2567 เป็นการทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 ที่ห้าม สส. และ สว. แทรกแซงการทำงานของฝ่ายบริหาร ว่า เรื่องนี้ตนรู้ข้อกฎหมายดี เพราะรัฐมนตรีใหม่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ต่อเมื่อนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ซึ่งทั้ง 3 คนน่าจะเป็นการติดตามตนลงพื้นที่มากกว่า นพ.วรงค์ เข้าใจอะไรผิดหรือไม่ เพราะทั้ง 3 คน ยังไม่สามารถสั่งการอะไรได้

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อไปว่า สงครามน้ำเขากำลังเข้าตีเมืองจะแตกอยู่แล้ว ใยจะต้องไปสนใจเรื่องบ้าๆ บอๆ คำนินทาอะไร ไม่เช่นนั้นเมืองแตกแน่ จ่อจะท่วมเมืองโบราณ จ.พระนครศรีอยุธยา คนบางบาล และคนพระนครศรีอยุธยา กำลังเดือดร้อน เราจำเป็นต้องโดดเข้าไปช่วย เรื่องนี้ตนไม่จำเป็นต้องชี้แจงอะไร และเมื่อไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว บอกเลยว่าดุกว่าเดิม หนักมาสวนไป พร้อมท้ารบ ขอให้ นพ.วรงค์ ไปศึกษาข้อกฎหมายให้ดีก่อน

ทางด้าน นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ อดีตที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องทำงานเชื่อมโยงต่อเนื่องรับลูกกันให้ได้ อาจไม่เหมือนบางกระทรวง กรณีที่เป็นข่าวนั้นจริงๆ ไม่มีอะไรเลย ตนมองว่าเป็นภาพบวกเป็นวัฒนธรรมที่ดี เพราะบางภารกิจไม่ได้มอบปากเปล่าแล้วจบ เช่น เรื่องน้ำ เพื่อที่จะได้เชื่อมโยงงานกันได้ และเป็นมิติใหม่

เมื่อถามว่าในทางกฎหมายไม่ผิดใช่หรือไม่ นายบุญสิงห์ ตอบว่า ไม่มีอะไรผิด ไม่ได้ครอบงำ ไม่ได้อะไรเลย เพียงแต่ช่วงมอบหมายงานตามไทม์ไลน์ตอนนี้ รัฐมนตรีใหม่หลังจากถวายสัตย์ปฏิญาณท่านทำหน้าที่จริง แต่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เต็มร้อย จะมาปฏิบัติหน้าที่จริงก็หลังจากที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในช่วงที่ยังไม่แถลงก็จะเกิดช่องว่างของสุญญากาศ ก็เป็นเรื่องของแต่ละกระทรวงที่จะมอบหมายงานในช่วงนี้ หลังจากแถลงนโยบายใหม่รัฐมนตรีก็จะเดินหน้าได้เต็มที่ ถูกที่ถูกทาง เชื่อมภารกิจงานเดิมได้.