พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพรรัฐบาล ทรงให้กำลังใจมุ่งมั่นทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม มั่นใจว่าจะปฏิบัติได้ดี “แพทองธาร” รับตื่นเต้น มือเย็น เฉียบ ก่อนนำ ครม.เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ “ภูมิธรรม” ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ “วันนอร์” แจงวิปรัฐบาลประสานแถลงนโยบาย 12-13 ก.ย. “ชูศักดิ์” บอกอย่าซีเรียส “ครม.สืบสันดาน” “บิ๊กป้อม” ล้างไพ่ พปชร. ตั้ง กก.บห.ใหม่ 24 คน ไร้เงาก๊วน “ผู้กอง” ลั่นต่อไปนี้ไม่มีแตกแยกอีกแล้ว ส่งทนาย หน้าหอขึ้นแป้นเลขาฯ “ไพบูลย์” โวแหลกตรวจสอบงานถนัด “ชัยวุฒิ” โยนประชาชนตัดสินคนแปรพักตร์ ซัดทำแบบนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย แต่ยังยื้อไม่ขับพ้นพรรค ไม่ได้ร่วม รบ.ก็หมดเวลาเกรงใจกันแล้ว สว.รอกด ไฟเขียวรับร่างงบฯปี 68 สามวาระรวด

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุได้รับการประสานจากวิปรัฐบาล ขอเปิดประชุมแถลงนโยบายรัฐบาล ในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้

ทำเนียบฯเตรียมพร้อมรับ ครม.

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเช้าคนสวนได้ทำความสะอาดตัดแต่งต้นไม้บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า หน้าตึกสันติไมตรี และบริเวณโดยรอบศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตา-ยาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล รวมถึงทำความสะอาดปืนใหญ่ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า มีการเคลือบสีให้ดูใหม่ขึ้นเงาดำ ดูทรงพลังมากขึ้น รองรับกำหนดการที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ต่อมาเวลา 14.00 น. บรรดารัฐมนตรีที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ทยอยเดินทางเข้าทำเนียบฯเพื่อถ่ายรูปติดบัตร มี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย มาถึงเป็นคนแรก ตามด้วยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์

...

“แพทองธาร” มือเย็นเฉียบตื่นเต้น

ต่อมาเวลา 14.40 น. น.ส.แพทองธารเดินทางมาถึงด้วยรถเบนซ์ รุ่น Vito Tourer สีบรอนซ์ เลขทะเบียน ขจ 995 กรุงเทพมหานคร ทันทีที่ลงจากรถ น.ส.แพทองธารโบกมือทักทายสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ น.ส.แพทองธารชี้มาที่ผู้สื่อข่าวพร้อมกล่าวว่า “นี่แหละที่ทำให้ตื่นเต้น” จากนั้นได้ส่งมือให้สื่อมวลชนจับและถามว่า “มือเย็นมั้ย” ก่อนจะเดินเข้าไปในตึกสันติไมตรี

พบ “ทรงศักดิ์-ซาบีดา” ติดโควิด

ทั้งนี้ก่อนการถ่ายรูปติดบัตร ครม.ชุดใหม่ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งผลการตรวจ RT-PCR ปรากฏว่ามีรัฐมนตรี 2 คนจากพรรคภูมิใจไทย มีผลติดเชื้อโควิด-19 หลังเข้ารับการตรวจเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา คือนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย และ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย แต่รัฐมนตรีทั้ง 2 คนแจ้งว่าจะขอไปตรวจ RT-PCR ซ้ำอีกครั้งที่โรงพยาบาลเอกชน อย่างไรก็ตาม ทั้งนายทรงศักดิ์ และ น.ส.ซาบีดา เดินทางมาขึ้นรถที่ทำเนียบเพื่อร่วมคณะไปเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์พร้อมกับรัฐมนตรีคนอื่น ทั้งคู่สวมหน้ากากอนามัย จนเวลา 16.00 น. นายกฯและ ครม.เดินทางออกจากทำเนียบฯ ด้วยรถตู้ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทั้งนี้ก่อนเดินทาง นายกฯและ ครม.ร่วมถ่ายภาพหมู่ภายในตึกสันติไมตรี เปิดให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ

ครม.ใหม่เข้าถวายสัตย์ฯทุกคน

น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร เปิดเผยถึงกระแสข่าวนายทรงศักดิ์ ทองศรี และ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ผลการตรวจ RT-PCR พบว่าติดโควิดว่า ขอชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า ครม.ทั้งคณะจะเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณพร้อมเพรียงกันเย็นวันเดียวกันนี้ ย้ำว่าเข้าเฝ้าฯทุกคน และวันที่ 7 ก.ย. เวลา 09.15 น. ครม.ชุดใหม่จะร่วมถ่ายภาพหมู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุม ครม.นัดพิเศษในเวลา 10.00 น. หลังเสร็จสิ้นการประชุม น.ส.แพทองธารและ ครม. จะแถลงข่าวร่วมกันที่ตึกสันติไมตรีหลังใน ด้วยชุดผ้าไทยสีเหลือง

“อนุทิน” ยัน 2 รมต.ติดโควิดจริง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่ามีรัฐมนตรีของพรรคติดโควิด 2 คน คือนายทรงศักดิ์ ทองศรี และ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ให้ไปตรวจ 2 ครั้ง ผลออกมายืนยันว่าติดโควิด ขณะนี้จึงยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้จนกว่าจะถวายสัตย์ปฏิญาณ ตนต้องทำงานแทนไปก่อน เพราะรับผิดชอบทั้งกระทรวงอยู่แล้ว ส่วนการแบ่งงานจะดูตามความเหมาะสม คงไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมมาก

นายกฯนำ ครม.กล่าวถวายสัตย์ฯ

จากนั้นเวลา 18.15 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ น.ส.แพทองธารนำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณความว่า ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท

ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ในโอกาสที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ

ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม

โอกาสนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัสเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ ความว่า รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสพบท่านนายกฯและคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ก็ขอให้พร ด้วยความยินดีให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ถวายสัตย์ไปแล้ว เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และประชาชน ซึ่งข้าพเจ้าก็มั่นใจว่าจะปฏิบัติได้อย่างดี ก็ขอเป็นกำลังใจให้ ณ โอกาสนี้ และตลอดไป

“อิ๊งค์” กลับทำเนียบอารมณ์ดี

กระทั่งเวลา 18.40 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ ครม.เดินทางกลับเข้าทำเนียบรัฐบาล ตรงตึกสันติไมตรีหลังนอก และถ่ายเซลฟี่กับรัฐมนตรีอย่างชื่นมื่น จากนั้นออกจากตึกสันติไมตรีเพื่อเดินทางกลับ มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย มาส่งขึ้นรถ นายกฯทักทายสื่อมวลชนที่มารอสัมภาษณ์ว่า “ทำไมยังไม่กลับกันอีก ทานข้าวกันหรือยัง ไปทานข้าวกัน พรุ่งนี้ยังมีอีก” ก่อนขึ้นรถออกจากทำเนียบรัฐบาล

ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้พรเป็นสิริมงคล เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างมาก ให้กำลังใจเราทำงานอย่างเต็มที่ ซาบซึ้งในสิ่งที่พระองค์ท่านทรงตรัส ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเข้ากระทรวงกลาโหมเมื่อไหร่ นายภูมิธรรมตอบว่า หากไม่ก่อนวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ก็หลังจากนั้น จะแจ้งให้ทราบอีกที

อย่าซีเรียสคำ “ครม.สืบสันดาน”

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการให้ฉายา “ครม.สืบสันดาน” ว่า ทางกฎหมายมีจริง เขาเรียกว่าเป็นบุพการีผู้สืบสันดาน เป็นคำในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่กรณีนี้เข้าใจว่านำมาเปรียบเทียบทางการเมือง เป็นเรื่องปกติทางการเมือง แต่ละพรรคได้โควตาที่แตกต่างกันไป ระบบก็เป็นเช่นนี้ขออย่าไปซีเรียสกับเรื่องเหล่านี้ เมื่อถามว่าเปรียบเทียบแรงไปหรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน เป็นศัพท์ธรรมดาทางการเมือง เหมือนช่วงปีใหม่ที่ผู้สื่อข่าวจะตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรี เมื่อถามว่าเป็นผลพวงจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงใช้วิธีการสืบสันดานเพื่อแก้ไขปัญหาใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า จะมองอย่างนั้นก็ได้ อยากให้ทุกคนมองเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่าไปเครียดอะไรมาก

“อ้วน” จับมือ “บิ๊กเล็ก” เพื่อประเทศ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการจัดโผทหารในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ที่ยังไม่ลงตัวในช่วงเปลี่ยนผ่าน รมว.กลาโหมว่า ยังไม่ได้เข้าทำงานยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเรียกประชุมคณะกรรมการปรับย้ายชั้นนายพลเมื่อไหร่ รอให้ขั้นตอนการรับตำแหน่งเรียบร้อยก่อน ส่วนกรณีมีใบปลิวในกองทัพเรือ คงเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เป็นไรค่อยว่ากัน ส่วนกรณีพรรคประชาชนตั้งข้อสังเกตการทำงานร่วมกันระหว่างนายภูมิธรรมกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม นายภูมิธรรมตอบว่า ทุกคนมีความมุ่งหมายจะทำให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวม ปัญหาที่หมักหมมทั้งเรื่องการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ การใช้ความรุนแรงกับพลฯทหาร ขอเข้าไปดูก่อนว่ามีรายละเอียดและข้อมูลอย่างไร เมื่อถามว่าเหตุผลอะไรที่นายกฯให้มานั่งในตำแหน่ง รมว.กลาโหม นายภูมิธรรมตอบว่า ต้องไปถามนายกฯเอง แต่ไม่ถือว่าเป็นงานหิน มีอะไรมอบหมายมาทำได้หมด

“ธีรรัตน์” ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ภูมิใจและดีใจมากๆที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ได้ก้าวไปสู่ในจุดที่มีโอกาสทำงานมากขึ้น จะทำให้ดีที่สุด เมื่อถามถึงการแบ่งงานที่จะมาดูแล กทม. เป็นการทวงคืนพื้นที่ กทม.ให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ น.ส.ธีรรัตน์ตอบว่า ไม่ได้คิดว่ามาทวงคืนอะไร การมาทำหน้าที่ตรงนี้จะทำให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ให้เป็นเมืองหลวงของทุกคนจริงๆ แม้จะเป็นกระทรวงที่พรรคร่วมรัฐบาลนั่งว่าการ แต่ทุกคนมีความตั้งใจเดียวกันให้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์พูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ก็แนะนำหลายอย่าง นายอนุทินบอกว่าดีเลยจะได้เข้าไปช่วยกัน

“หนู” เล็งมอบให้ “อิ่ม” ดูแล กทม.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการแบ่งงานให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทยว่า นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมช.มหาดไทย เคยดูกรมการพัฒนาชุมชน และ กทม. คงไม่แตกต่างจากเดิม และ น.ส.ธีรรัตน์เป็น สส.กทม. คงดูส่วนนั้น ทางการเมืองพรรคเพื่อไทยกับ กทม.มีความคุ้นเคยกัน แต่ทั้งหมดต้องรอคำสั่งแต่งตั้ง และการแบ่งงานจะเกิดขึ้นหลังแถลงนโยบาย เมื่อถามถึงการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองในสัดส่วนพรรคภูมิใจไทย นายอนุทินตอบว่า ต้องสับไพ่ใหม่ ต้องปรับความคิดตัวเองเหมือนกันว่าเป็น มท.1 ภาคสองในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต้องดูให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลมีเวลาไม่ถึง 3 ปี ต้องวางหน้าที่การงานให้เหมาะสม เมื่อถามว่า น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย จะได้ตำแหน่งเดิมหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ทุกอย่างอย่าไปยึดติดของเดิม ไม่มีทางเป็นแบบเดิม 100% ต่อให้ของเดิมก็ต้องตั้งใหม่

แถลงนโยบายรัฐบาล 12-13 ก.ย.

ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงวันแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า วิปรัฐบาลประสานมาว่าขอเป็นวันที่ 12-13 ก.ย. นัดประชุมวิป 3 ฝ่ายในวันที่ 9 ก.ย. เพื่อทำการพูดคุยและตกลงกันเรื่องของเวลาที่แต่ละฝ่ายจะใช้ เมื่อถามว่าต้องมีข้อระวังอะไรหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า ไม่มีอะไร รัฐบาลกับฝ่ายค้านร่วมมือกันดี เห็นได้จากตอนที่อภิปรายงบประมาณที่จบด้วยดี

“ป้อม” ขาดประชุมต้องมีใบลา

นายวันมูหะมัดนอร์ยังกล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตเรื่องการเข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎรของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ไม่มาร่วมประชุมโหวตเรื่องอะไรเลยว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน หากไม่มาต้องส่งใบลา เป็นสิทธิ์ของสมาชิกหากใครไม่สบายหรือมีเหตุจำเป็น สามารถส่งใบลามาได้ ส่วนเรื่องการอนุมัติไบลาต้องไปถาม พล.อ.ประวิตรเอง เมื่อถามว่าการอนุมัติใบลาเป็นอำนาจของประธานสภาฯ นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า หากสมาชิกไม่สบายหรือมีภารกิจสามารถลาได้ แต่ต้องส่งใบลามาที่สภาฯให้รับทราบ เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการช่วยเหลือกันในเรื่องของการอนุมัติใบลาหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า ต้องดูข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและรัฐธรรมนูญ

“บิ๊กป้อม” ล้างไพ่ กก.บห.พปชร.

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 2/2567 มีวาระสำคัญคือการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ (กก.บห.) หลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา อดีตเลขาธิการพรรค พปชร. นำ กก.บห.ในกลุ่มรวม 6 คนลาออก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีกรรมการบริหาร สส. และสมาชิกเข้าร่วมประชุม 800 คน พล.อ.ประวิตรมีสีหน้ายิ้มแย้ม มีสมาชิกพรรคจาก จ.สกลนคร ชูป้ายภาพวาด พล.อ.ประวิตร พร้อมข้อความ “ลุงป้อมสู้ๆ” และมอบพวงมาลัยดาวเรืองตะโกนให้กำลังใจ “ลุงป้อมสู้ๆ” พล.อ.ประวิตร กล่าวก่อนเริ่มประชุมว่า เป็นการเลือก กก.บห.พรรคชุดใหม่ทั้งหมด จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อเปิดทางให้มีการเลือกกันใหม่

ทนายหน้าหอ “ไพบูลย์” นั่งเลขาฯ

ต่อมาเวลา 11.15 น. นายไพบูลย์ นิติตะวัน แถลงภายหลังการประชุมว่า ผลการเลือก กก.บห.พรรคชุดใหม่ จำนวน 24 คน ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค มีรองหัวหน้าพรรค 8 คน ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายชัยวุฒิ ธนา คมานุสรณ์ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิระวงศ์ นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร นายอภิชัย เตชะอุบล มีตนเป็นเลขาธิการพรรค พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ กรรมการและเหรัญญิก นายสมโภชน์ แพงแก้ว เป็นนายทะเบียนพรรค ส่วนกรรมการบริหารพรรค 12 คน อาทิ นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร นายทวี สุระบาล สส.ตรัง นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี นายอัครวัฒน์ อัศวเหม อดีต สส.สมุทรปราการ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นายวัน อยู่บำรุง

โวตรวจสอบงานถนัดรอดูฝีมือ

นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า การปรับ กก.บห.พรรคครั้งนี้จะทำให้มีโครงสร้างเป็นหนึ่งเดียว มั่นคง ส่วนการทำหน้าที่ฝ่ายค้านพร้อมอยู่แล้ว จะทำให้ดีที่สุด ให้รอดู การทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบไม่เคยเกรงใจใคร ชอบมากเพราะเป็นงานถนัด เคยเป็น สว.อยู่ในกลุ่ม 40 สว. ก็ทำหน้าที่ตรวจสอบมาตลอด 6 ปี เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรตั้งเป้าจะซักฟอกใครเป็นพิเศษหรือไม่ นายไพบูลย์ตอบว่า ต้องไปถามท่านเอง แต่รู้อยู่แล้วว่าจะตรวจสอบใคร พูดไปหลายครั้งแล้ว

ลั่น พปชร.ไม่มีแตกแยกอีกแล้ว

พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ว่า ต่อไปนี้พรรคพปชร.เป็นหนึ่งเดียว เราจะไม่แตกแยกกันอีกแล้ว เปลี่ยนวิธีการบริหารใหม่ ให้รองหัวหน้าพรรคเป็นผู้คุมพื้นที่ ให้เลขาธิการพรรคเป็นฝ่ายสนับสนุน พรรค พปชร. จะยึดมั่นและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของเรา พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัวกล่าวต่อว่า เราจะทำเศรษฐกิจที่ทันสมัย ทำให้ประชาชนมีชีวิตและความเป็นอยู่ดีขึ้น มีชีวิตสดใส เราจะช่วยกันเพื่อพรรคของเราจะได้เข้มแข็งต่อไป ประเทศชาติจะได้อยู่ดีมีสุข

เสียงแข็งสื่อไปถาม “ผู้กอง” เอง

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเดินหน้าพรรค พปชร.หลังพูดย้ำว่าจะไม่มีการแตกแยกอีกแล้ว พล.อ.ประวิตรตอบว่าเรียบร้อย เมื่อถามย้ำเรื่องของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะเป็นอย่างไรหลังจากนี้ พล.อ.ประวิตร หันมาพูดเสียงแข็งว่า “เรื่องของธรรมนัส ก็ไปถามธรรมนัสสิ” อุดมการณ์พรรคเรายึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันดับแรก ผู้สื่อข่าวพยายามสอบกรณีของ ร.อ.ธรรมนัสอีกครั้ง แต่ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถาม แต่เดินขึ้นรถพร้อมโบกมือให้สมาชิกพรรคก่อนกลับออกไป

โยน ปชช.ตัดสินกลุ่มแปรพักตร์

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพปชร. กล่าวถึงการขับกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรค พปชร. ออกจากพรรคว่า ยังไม่ถึงเวลาพูดเรื่องนี้ เหตุการณ์เพิ่งเกิด ต้องดูว่าการทำงานจะมีความขัดแย้งหรือปัญหาหรือไม่ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ เมื่อถามว่าการไปนั่งกับฝั่งรัฐบาล แต่ไม่มีการแจ้งลาออกกับพรรคโดยตรง พฤติกรรมเหมาะสมหรือไม่ นายชัยวุฒิตอบว่า ตอบไม่ได้ แต่ประชาชนดูออกว่าอะไรถูกต้อง อะไรไม่ถูกต้อง ดูแล้วขัดอารมณ์ก็ไม่เหมาะสม ทำอะไรแบบลูกผู้ชายก็ดูเหมาะสม แต่หากทําอะไรที่ไม่เป็นลูกผู้ชายก็ไม่เหมาะสม เมื่อถามว่าที่ทำอยู่ไม่ใช่ลูกผู้ชายใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิตอบว่า อะไรที่เป็นลูกผู้ชายมันก็ชัดเจน คนยอมรับ อะไรที่ไม่ลูกผู้ชาย ทำอะไรไม่ตรงไปตรงมา คนก็ไม่ยอมรับแค่นั้นเอง พูดในหลักการ แต่ประชาชนต้องไปคิดเอง

ยกภาษาการเมืองไม่ใช่ลูกผู้ชาย

เมื่อถามว่าถ้าไม่มีกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรรค พปชร.สามารถเดินหน้าได้ใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิตอบว่า ก็เดินอยู่ พรรค พปชร.ยังเหมือนเดิม เพียงแต่เน้นอุดมการณ์ให้ชัดเจน และแนวทางการทำงานต่อไปในอนาคต คนที่อยู่สู้กับพรรคมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานการเมืองต่อกับเรา มีอุดมการณ์ร่วมกัน ส่วนคนที่ไม่อยู่ถือว่าออกไปแล้ว ตรงนี้ชัดเจน ไม่อยากพูดถึงอีก ส่วนคนที่อยู่คือรักกันทำงานร่วมกันแน่นอน พรรค พปชร.ที่เกิดปัญหาในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากภายในพรรคอย่างเดียว แต่เกิดจากบุคคลภายนอกพรรคเข้ามาครอบงำ เข้ามาสั่งการด้วย ทำให้เกิดปัญหา ดูจากการจัดตั้งรัฐบาลที่มีบุคคลภายนอกเข้ามาสั่งการครอบงำ มีการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความแตกแยกในพรรค ภาษาการเมืองเขาเรียกว่าดูดหรืองูเห่า แบบนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ไม่ใช่กระบวนการทางการเมืองแบบตรงไปตรงมา

ใจเย็นยังไม่ถึงเวลาขับพ้นพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่าการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2568 กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้เป็นพฤติการณ์ให้ขับออกจากพรรคใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิตอบว่า ยังไม่ถึงจุดนั้น ถ้าถึงจุดนั้นค่อยว่ากันอีกที ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ เมื่อถามว่ากลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสอยากให้พรรคขับออก แต่ดูเหมือนพรรค พปชร.พยายามดึงรั้งไว้ นายชัยวุฒิตอบว่า ไม่ทราบ ต้องดูสถานการณ์อีกที ยังไม่ถึงเวลาที่จะมาแตกหักกัน เมื่อถามว่ากรณีที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นการแก้แค้นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯกับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ นายชัยวุฒิตอบว่า ไม่ทราบ ตอบแทนไม่ได้ แต่การเมืองอย่าพูดเรื่องแค้นหรือความโกรธเคืองอะไรเลย สถานการณ์การเมืองมันเปลี่ยนไปตลอด เห็นหรือไม่ว่าคนที่ไม่ถูกกันยังกลับมารักกันเลย ผลประโยชน์ลงตัวก็ทำงานด้วยกันได้

ไม่ได้ร่วมรัฐบาลหมดเวลาเกรงใจกัน

เมื่อถามย้ำว่าที่พรรค พปชร.เป็นแบบนี้ เป็นเพราะ พล.อ.ประวิตรเสื่อมการปกครองใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิตอบว่า ไม่ทราบ ดูกันเองแล้วกัน แต่ พล.อ.ประวิตรยังเป็นคนเดิมที่มุ่งมั่นตั้งใจ มีพลังทำงานขับเคลื่อนการเมืองต่อไป ใครจะอยู่ใครจะไปเป็นเรื่องของคนภายนอกไปบังคับเขาไม่ได้ เมื่อถามว่าสมาชิกพรรคพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านหรือไม่ นายชัยวุฒิตอบว่า รอดูต่อไป การตรวจสอบรัฐบาลมีหลายช่องทาง ทั้งในสภาผ่านการอภิปราย เราจะทำให้เต็มที่ และการตรวจสอบด้านกฎหมาย ใครทำผิด ใครทำทุจริต ก็ว่าไป เราจะทำเต็มที่ไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว เพราะไม่ได้อยู่ร่วมกันก็ไม่ต้องเกรงใจกัน ทำให้เต็มที่ เมื่อก่อนเกรงใจกัน แต่ตอนนี้ไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว

พีมูฟจี้นายกฯ บรรจุ 10 นโยบาย

วันเดียวกัน ที่อาคารชินวัตร 3 กลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ นำโดย นายธีรเนตร ไชยสุวรรณ ประธานกรรมการบริหารพีมูฟ ยื่นหนังสือเสนอนโยบายให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ 10 ด้าน นำไปจัดทำเป็นนโยบายรัฐบาล แถลงต่อสภาฯ อาทิ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ การกระจายอำนาจ การปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่น การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมยกเลิกคดีที่ไม่เป็นธรรม การกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม ตามข้อเสนอของภาคประชาชน การจัดการทรัพยากรธรรมชาติยกเลิกนโยบายทวงคืนผืนป่า การคุ้มครองชาติพันธุ์ และสิทธิความเป็นมนุษย์ มีตัวแทนคณะ ทำงานของ ผอ.พรรค พท. รับเรื่อง ก่อนที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จะเดินทางเข้าไปยังอาคารชินวัตร 3

ทสท.บี้ “อิ๊งค์” เร่งแก้ รธน.ให้ ปชช.

อีกเรื่อง นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าและกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า ติดตามการสะท้อนความเห็นทางการเมืองของประชาชน พบว่า คนไทยอยากเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง มีสาระที่เป็น ธรรมยึดโยงกับประชาชน วัฒนธรรมประเพณีของชาติ แม้ทุกพรรคหาเสียงว่าจะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นของประชาชน และแม้รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน กำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วน แต่ผ่านมา 1 ปี ยังไม่มีร่างแก้ไข รัฐธรรมนูญของรัฐบาลบรรจุอยู่ในวาระประชุมรัฐสภา มีเพียงร่างแก้ไขรายมาตราของพรรคฝ่ายค้านเท่านั้น นับเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังที่รัฐบาลไม่มีความจริงใจต่อประชาชน ไม่ซื่อสัตย์ต่อตนเอง เหลือเวลาอีกเพียง 3 ปี จะหมดวาระ ถ้ารัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไม่นำมาเป็นนโยบายเร่งด่วน เลือกตั้งคราวหน้าจะใช้ กติกาเดิม แต่ถ้ามีจิตสำนึก ซื่อสัตย์ต่อการรณรงค์หาเสียง คนไทยจะได้รัฐธรรมนูญใหม่ กติกาใหม่ใช้เลือกตั้งคราวหน้า ก่อนรัฐบาลหมดวาระแน่นอน

“ชวน” ยกก๊วนงดลงมติงบฯ 68

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ภาพรวมการโหวตเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ 2568 วาระ 3 ด้วยคะแนน 309 ต่อ 155 งดออกเสียง 4 ไม่ลงคะแนน 1 เมื่อคืนวันที่ 5 ก.ย. ของสภาผู้แทนราษฎร สส.พรรค พท.ไม่มีใครแตกแถว โดยโหวตเห็นชอบทั้งหมด ยกเว้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ สส.นครราชสีมา และนพ.ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ ส่วน น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ที่ไม่พบว่า ลงมติ ชี้แจงว่ากดเห็นด้วย แต่เครื่องลงคะแนนมีปัญหา ขณะที่ สส.พรรค ปชป.ส่วนใหญ่ลงมติเห็นชอบ ยกเว้นนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และนายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา งดออกเสียง

ขั้ว “ลุงป้อม” โหวตคว่ำแค่ 9 หน่อ

สำหรับ สส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สส. 20 คน ขั้ว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ชักแถวลงมติเห็นชอบเกือบทั้งหมด ยกเว้นนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา ส่วนขั้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เคยอ้างว่ามีประมาณ 20 คน พบว่าลงมติไม่เห็นด้วย 9 คน ที่เหลือไม่ปรากฏว่ามีการ ลงมติใดๆ คือ พล.อ.ประวิตร น.ส.ตรีนุช เทียนทอง สส.สระแก้ว นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สส.สิงห์บุรี นายปริญญา ฤกษ์หร่าย สส.กำแพงเพชร เป็นต้น ส่วนพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) 3 คน ที่เคยโหวต สวนฝ่ายค้าน คือนางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร นายหรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี และนายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี โหวตเห็นชอบ

ด้านพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ที่ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรค ประกาศเป็นฝ่ายค้าน ปรากฏว่านายมังกร ยนต์ตระกูล สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค ไม่แสดงตน และไม่ลงคะแนน ส่วนพรรคประชาชน (ปชน.) ส่วนใหญ่ลงมติไม่เห็นด้วย มีเพียงแค่นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส. ลำพูน และนายสิริน สงวนสิน สส.กทม. ที่พบว่าไม่มีการลงมติใดๆ

สว.รอกดไฟเขียวรับ 3 วาระรวด

ที่รัฐสภา พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ในการประชุมวุฒิสภา วันที่ 9 ก.ย. มีวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 หลังจากสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 5 ก.ย. โดยจะพิจารณาในรูปแบบกรรมาธิการเต็มสภาฯให้แล้วเสร็จในวันเดียว เนื่องจากตามกรอบการพิจารณาวุฒิสภามีเวลาพิจารณาให้เสร็จภายใน 20 วัน หลังได้รับร่างจากสภาฯ เพราะวุฒิสภาได้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษารายละเอียดร่างฯ คู่ขนานกับสภาฯไว้แล้ว

“หมอเปรม” ติงเงินดิจิทัลยังไม่ชัด

นพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สว. รองประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษารายละเอียดร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2568 กล่าวว่า กมธ.ฯพิจารณาเสร็จแล้ว เตรียมส่งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา บรรจุเป็นวาระประชุมวันที่ 9 ก.ย. แต่ กมธ.ฯมีข้อสังเกตหลายประเด็น โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายตามที่พรรคการเมืองหาเสียงไว้ เช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ยังไม่มีความชัดเจนในรายละเอียด

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่