อีกไม่นานก็คงพอจะรู้ว่าฝีมือในการบริหารประเทศจะไปได้แค่ไหนเพราะของแบบนี้มันใช้เวลาพิสูจน์ไม่นาน อย่าง “เศรษฐา ทวีสิน” ที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่งไปไม่นานมานี้ก็ได้เห็นกันมาแล้วไม่จำเป็นต้องรอไปถึงครบวาระ 4 ปี แค่ปีเดียวก็รู้แล้ว
ด้วยสไตล์การทำงานแบบซีอีโอกับการเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นมันแตกต่างกันอย่างชัดเจน เนื่องจากสภาพความเป็นไปนั้นต่างกัน
อดีตนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา” จึงรู้สึกหงุดหงิดไม่ทันอกทันใจรัฐมนตรีที่มาจากนักการเมืองที่พูดมากไม่กระชับฉับไวถึงกับต้องลุกเดินออกจากห้องประชุมเพื่อไปดับอารมณ์แล้วจึงเข้าประชุมต่อ
แต่ประเด็นที่ผลงานไม่ปรากฏออกมาให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนนั้นก็เพราะการที่ไม่มีนโยบายที่เป็นรูปธรรม
พูดง่ายๆคือกวาดทุกเรื่องไม่เน้นหนักเรื่องใดเรื่องหนึ่งจับปลาหลายมือ
ก็เลยไม่ได้อะไรเลย!
อย่างการเดินทางไปเยือนต่างประเทศเป็นว่าเล่นพบปะนักธุรกิจระดับโลกเพื่อชักชวนให้มาลงทุนในเมืองไทยจนสับสนวุ่นวายไปหมด
บริษัทโน้นจะมาบริษัทนี้ สุดท้ายหายจ้อยไปจนถึงวันนี้
บริษัทยักษ์จากต่างประเทศนั้นการไปลงทุนที่ไหนอย่างไรนั้นเขาต้องศึกษาอยู่ตลอดเวลาว่ามันจะคุ้มค่าหรือไม่ เหมาะกับสถานการณ์ช่วงไหนเวลาไหน
ถ้าไม่เหมาะชวนยังไงเขาก็ไม่มา...
นี่เป็นตัวอย่างที่ผู้นำประเทศคนต่อไปต้องนำไปเป็นบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดและหลงทางจนกู่ไม่กลับ
รัฐบาลชุดใหม่จะมีการประชุม ครม.ชุดใหม่นัดพิเศษ เพื่อหารือจัดทำนโยบายของรัฐบาลเพื่อแถลงต่อสภาฯก่อนนำไปปฏิบัติในการบริหารประเทศ
นายกรัฐมนตรีบอกว่าจะนำวิสัยทัศน์ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เป็นประโยชน์มาเป็นนโยบายของรัฐบาล
...
ก็ชัดเจนว่านั่นแหละคือนโยบายของรัฐบาลเพียงแต่เลี่ยงข้อกฎหมายและป้องกันบรรดานักร้องจะนำไปยื่นคำร้องเอาผิด
แน่นอนว่านโยบายประชานิยม “ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่หาเสียงไว้คงมาเป็นอันดับ 1 เพราะเป็นสัญญาประชาคมที่ไม่ทำไม่ได้เพียงแต่จะใช้รูปแบบไหนเท่านั้น
“แลนด์บริดจ์” ก็เป็นอีกนโยบายหนึ่งที่ต้องเดินหน้าต่อเพราะให้เอกชนเข้าลงทุนและสามารถใช้เป็นนโยบายหาเสียงในจังหวัดภาคใต้ได้
“กาสิโน” ที่เน้นความบันเทิงเป็นหลักก็เป็นอีกนโยบายหนึ่งที่จะสอดรับกับการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ทำรายได้หลักให้ประเทศแม้จะมีเสียงค้านจากภูมิใจไทยแต่ก็ไม่น่ามีปัญหาเพราะสามารถแลกกับนโยบายกัญชาเสรีได้
การแก้หนี้ครัวเรือนซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้เศรษฐกิจประเทศมีปัญหาโดยจะให้แบงก์พาณิชย์เป็นจักรกลสำคัญ
นี่เป็นเพียงตัวอย่าง...
ส่วนที่เป็นประเด็นการเมืองคงไม่เน้นมากนักให้ว่ากันไปตามครรลองหรือการกระจายอำนาจปฏิรูปตำรวจก็พับไว้ก่อน
เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาขัดแย้งเนื่องจากต้องการแรงหนุนจากมวลชนเพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและความมั่นคง
มุ่งเน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นหลัก!
"สายล่อฟ้า"
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม