รัฐบาลนารี ไม่ต้องอุ่นเครื่อง สตาร์ตปั๊บ เร่งสปีดทันที คิวคุยนอกรอบ เตรียมพร้อมไว้ก่อนนำ ครม.เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งรัฐมนตรี รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร

“นายกฯอิ๊งค์” เปิดเกมไวสไตล์ผู้นำซีอีโอหญิง ไม่ผิดแผกจากดีเอ็นเอผู้พ่อ “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร”

ไทม์ไลน์ด่วนจัด นัดประชุม ครม.ชุดใหม่ คิวพิเศษในวันหยุด เสาร์ 7 ก.ย.นี้ เพื่อเตรียมพิมพ์เขียวนโยบายรัฐบาลไว้แถลงต่อรัฐสภา คาดว่าจะเป็น 12–13 ก.ย. ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ

และคาดกันอีกว่าเผลอๆอาจจะประชุม ครม.ทันทีเหมือนกัน กับวาระด่วนขับเคลื่อนเรือธง “แจกเงินหมื่น” ที่ยังค้างอยู่ที่ท่าจอด ส่วนประชาชนก็ชะเง้อตบกระเป๋ารอเงินกระตุ้นอัดฉีดใช้จ่าย

เรื่องด่วนมาก รัฐบาลนารีต้องเร่งประเดิมโชว์

วันนี้ก็เริ่มชัดเจนนโยบายปรับเปลี่ยนเป็นแจกเงินสดในลอตแรก เฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ รวมกว่า 15 ล้านคน งบฯ ที่จะใช้ 1.5 แสนล้านบาทมีพร้อม แต่ต้องควักจ่ายให้ทันปีงบฯ 2567

โดยรูปแบบมีโอกาสอัดฉีดแบบยิงตรง แจกผ่านผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเลิกซีเรียสว่าจะตามรอยผลงานโบแดงรัฐบาลลุง

สะท้อนชัด "ดีลเดิม" ยังไม่ล้ม อะไรที่ดีก็หยิบฉวยมาใช้

แต่ที่ยังไม่ลงตัว คือประชาชนกลุ่มใหญ่ลอต 2 ที่จะใช้งบฯ ปี 2568 อัดฉีด วันนี้ยังมีคำถามค้างคา ทั้งจะแจกเป็นเงินสดทั้งหมดเหมือนกัน หรือจ่ายเป็นเงินสด 5 พัน อีกครึ่งยังยึดนโยบายแจกเป็นดิจิทัลวอลเล็ต

คิวนี้ยังไม่เคาะเพราะเกี่ยวพันกับปมเงินไม่ครบไม่คลิกโครงการ

โจทย์ท้าทาย "นายกฯอิ๊งค์" ทีมรัฐบาล รวมทั้งต้องจับตาที่มหากุนซือ “ทักษิณ” ผู้เชี่ยวชาญการหมุนเงินจะใช้ลูกเล่นใด

...

คิดนอกกรอบ แหกกติกาฝ่ากฎก็มีคนจ้อง มีความเสี่ยง

เอาเป็นว่าคิวเฉพาะหน้า หน้างานเลย เกมไวคือเข็นเรือธงเงินหมื่นไปให้ได้ เพราะรู้ดีว่าในสถานการณ์นี้ ผลงานรัฐบาลนโยบายเป็นรูปธรรมเท่านั้น จะกระตุกแต้มประเดิม รัฐบาลนายกฯหญิง

เป็นห้วงที่ต้องคิดไวทำไวเห็นผลไว รวมถึงเรือธงอื่นที่ต้องรีบปั่นขาย

ยิ่งช้านานจะไม่เป็นคุณ ขณะที่ทีท่าพรรคร่วมรัฐบาลก็ปรับเกมไวไม่แพ้กัน

โดยเฉพาะคิวเด็ด แม้มองมุมดีการแถลงนโยบาย 6 ข้อของพรรคภูมิใจไทย ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ส่งทีมพรรคนำโดย “ไชยชนก ชิดชอบ” เลขาธิการพรรค “ทายาทครูใหญ่บุรีรัมย์”

เสนอ 6 ประเด็น ขอหลอมรวมเข้ากับนโยบายรวมรัฐบาล

ไล่เรียงที่ทีมสีน้ำเงินตีธง ทั้งบำบัดทุกข์บำรุงสุข ปราบอิทธิพล สถานบันเทิง การพนันผิดกฎหมาย กระจายอำนาจ สนับสนุนด้านการศึกษา พัฒนาระบบประปา ไฟฟ้าโซลาร์ครัวเรือน

และข้อสำคัญคือนโยบายกัญชา โยนเข้าฟลอร์ทีมทำนโยบายรัฐบาล วัดใจนายกฯหญิงจะเอาไงกับนโยบาย “พลังใบเขียว” ที่ยังจูนไม่ลงล็อกกันทั้ง 2 ค่าย

ที่น่าสนใจเป็นคิวหลังฉาก “ครูใหญ่บุรีรัมย์” เปิดเกมไว เหยียบคันเร่งเบียดขี่ด้วยนโยบาย

จ้องตาหยั่งเชิงกับ “นายใหญ่เพื่อไทย”

นั่นก็ไม่ต่างจากพรรคพันธมิตรใหม่ที่เหมือนแน่นแฟ้น แต่ยังไม่แนบสนิท ค่ายรวมไทยสร้างชาตินำโดย “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกฯและ รมว.พลังงาน นอกจากชิงจังหวะเก็บแต้มจัดมหกรรมสินค้าราคาถูก “รวมไทยสร้างชาติแฟร์” ช่วยปากท้องชาวบ้านที่ห้างกลางเมือง

ประเดิมโชว์ของขาย เร่งสปีดปาดหน้าเก็บแต้ม

เท่านั้นไม่พอ นโยบายในภาพรวม “เสี่ยตุ๋ย พีระพันธุ์” สะบัดธงมาโดยตลอด นโยบาย “รื้อ ลด ปลด สร้าง” ของ รทสช. โหมดพลังงาน ประกาศปรับเปลี่ยนโครงสร้างทั้งระบบ เตรียมกฎหมายไว้พร้อม

วางบันไดหลายขั้น “รื้อใหญ่” ทั้งน้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม ทิ่มตรงของแพงที่ต้องใช้ โดนใจกองเชียร์

แล้วก็บังเอิญสอดรับนโยบายโซลาร์ครัวเรือน ของภูมิใจไทยที่ยิงตรงเสนอเพื่อไทย ก็มีเสียงตอบรับ

เป็นห้วง 2 พรรคร่วม ขยับช่วยคิดนโยบายรัฐบาล

แต่อีกทางก็สะท้อนภาพเร่งเกมไว ชิงจังหวะหรู

วัดดวงและวัดใจกับค่ายหลักอยู่เหมือนกัน.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม