ผ่านแบบสบาย ๆ ที่ประชุมสภามีมติเห็นชอบร่างงบประมาณ 2568 จำนวน 3.7 ล้านล้านบาท ในวาระ 3 ด้วยคะแนน 309 ต่อ 155 เสียง
วันที่ 5 กันยายน 2567 ภายหลังสมาชิกในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรร่วมอภิปรายถึงเหตุผลในการขอปรับลดงบประมาณ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 3.7 ล้านล้านบาท ในวาระ 2 รวม 40 มาตรา และมีการลงมติตามที่กรรมาธิการเสียงข้างมากในมาตราที่มีการแก้ไขเสร็จสิ้นแล้ว
...
จากนั้นเวลา 21.45 น. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม กล่าวเข้าสู่การลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในวาระที่ 3 คือการลงมติว่าจะเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ 2568 ทั้งฉบับหรือไม่ ผลเป็นดังนี้
- เห็นชอบ 309 เสียง
- ไม่เห็นชอบ 155 เสียง
- งดออกเสียง 4 เสียง
- ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง
สรุปคือที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
ต่อมาประธานในที่ประชุม ถามมติว่าจะเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการหรือไม่ ผลเป็นดังนี้
- เห็นชอบ 462 เสียง
- ไม่เห็นชอบ 0 เสียง
- งดออกเสียง 0 เสียง
- ไม่ลงคะแนนเสียง 3 เสียง
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะผู้แทนรัฐบาล กล่าวขอบคุณที่สมาชิกได้ให้ความเห็นชอบร่างงบประมาณ 2568 ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้ประเทศมั่นคง ประชาชนมีความสุข สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และจะนำงบประมาณไปใช้ตอบสนองความต้องการของประชาชนทุกมิติ ส่วนข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ความห่วงใย ตลอดการประชุม 3 วัน รัฐบาลขอรับไว้ด้วยความขอบคุณ พร้อมนำไปปรับปรุง และจะใช้งบประมาณเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
พร้อมกันนี้ ขอบคุณคณะกรรมาธิการที่เสียสละในการพิจารณาร่างงบประมาณอย่างเต็มที่ โดยข้อสังเกตของกรรมาธิการ รัฐบาลจะนำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุง เพื่อให้การใช้งบประมาณเป็นไปอย่างประหยัด มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล และขอให้ความมั่นใจว่า งบประมาณที่ได้รับความเห็นชอบจากสภา รัฐบาลจะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ แผนงานที่กำหนด และจะติดตามกำกับดูแลให้โปร่งใส เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด
ทางด้าน นายอดิศร เพียงเกษ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณประธานและรองประธานสภาทั้ง 2 คน ที่สามารถนำพาสภาผ่านกฎหมายสำคัญของประเทศ และขอให้สมาชิกปรบมือให้กับการทำหน้าที่ จากนั้นเวลา 21.57 น. ประธานจึงสั่งปิดการประชุม.
(ภาพ : ธนัท ชยพัทธฤทธี)