มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีคนที่ 31

รัฐบาลชุดใหม่พร้อมที่จะเข้าบริหารประเทศรอเพียงแต่ต้องแถลงนโยบายต่อสภาฯ ก็สามารถทำหน้าที่อย่างเป็นทางการได้ทันที

รายชื่อ ครม.ที่ออกมานั้นเป็นไปตามที่สื่อเสนอเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ มีเพียง “ซาบีดา ไทยเศรษฐ์” ที่เข้ามาแทนที่ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ผู้เป็นบิดาที่ขอถอนชื่อออกไป

เพราะถูกตีกลับจากสำนักงานเลขาธิการ ครม.ที่เห็นว่าน่าจะขาดคุณสมบัติจึงจำเป็นต้องให้ลูกสาวเข้ามาแทนที่

ก็นี่แหละคือมาตรฐานใหม่ว่าด้วย “จริยธรรม” ของนักการเมืองที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีที่ยกระดับสูงขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง

ถือว่าเป็นสิ่งดีๆของระบบการเมืองไทย

จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ “เศรษฐา ทวีสิน” ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีทั้งๆที่รู้ว่าขาดคุณสมบัติ

รัฐธรรมนูญได้กำหนดคุณสมบัติของบุคคลที่จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเอาไว้ 2 ประเด็น

1.ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

2.ต้องไม่ฝ่าฝืนขัดขวางมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ความจริง 2 มาตรการนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ควรจะนำมาปฏิบัติใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นกรองบุคคล

อย่างที่มีข้อเตือนสติที่ว่าอย่าให้คนไม่ดีเข้ามาปกครองประเทศ

แต่เนื่องจากไม่มีการนำเรื่องนี้มาใช้ปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมจึงทำให้นักการเมือง “สีเทา” หลุดรอดเข้ามาไม่น้อย

อาศัยช่องโหว่ของกฎหมายแทรกเข้ามาเพราะไม่มีมาตรการที่คัดกรองอย่างเข้มงวด ได้แต่มองตากันปริบๆไม่รู้จะทำอย่างไร

...

จากนี้ไปเมื่อมีมาตรฐานอย่างนี้แล้วก็จะสามารถคัดกรองไปง่ายขึ้น โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบด้วยในฐานะผู้ลงนามแต่งตั้ง

แน่นอนว่าประเด็นนี้คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งระบบแต่อย่างน้อยก็ทำให้นักการเมืองต้องมีสำนักรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง

ทั้งคนเป็นรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีผู้ลงนามแต่งตั้ง

อีกทั้งพรรคการเมืองต้นสังกัดแม้ไม่มีกฎหมายควบคุมในเรื่องนี้ แต่ประชาชนจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจสนามเลือกตั้งเอง

ว่าพรรคนี้เอาบุคคลที่ไม่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งสำคัญ

อย่างที่พูดกันว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะควบคุมได้ระดับหนึ่ง แม้จะมีการตั้งทายาทเข้ามารับตำแหน่งแทน

แต่อย่างน้อยบุคคลที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็ไม่สามารถทำหน้าที่ได้

ถึงที่สุดน่าจะเป็นผลดีต่อนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาลที่ไม่ต้องเจอปัญหาหลังจากแต่งตั้งไปแล้ว

เพราะอย่างน้อยได้มีการตรวจสอบความด่างพร้อยเบื้องต้นไปแล้ว

ทำให้รัฐบาลสามารถบริหารประเทศได้อย่างราบรื่นขึ้น ไม่ต้องพะวงหน้าระแวงหลังกับรัฐมนตรีซึ่งมีปูมประวัติไม่ดี

ที่ผ่านมาบรรดารัฐมนตรี “สีเทา” มักสร้างปัญหามาโดยตลอด

จากนี้ไปใครจะอยู่ใครจะไปวัดกันที่ผลงานเป็นมาตรฐานตัดสินได้ง่ายเข้า!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม