“บิ๊กอ้วน” บอกเป็นเกียรติได้ดู ก.กลาโหม เชื่อ ร่วมงานทุกเหล่าทัพได้ดี ไม่มีปัญหา ชี้ “บิ๊กเล็ก” นั่ง รมช.กลาโหม ช่วยทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เชื่อ “สุทิน” ไม่นอยด์ หลังมีภาพเพื่อน สส. เข้าปลอบ
วันที่ 4 กันยายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ว่า มีการประสานงานมา ในวันที่ 6 กันยายนนี้ เวลา 17.00 น. ได้รับพระบรมราชานุญาต ครม. เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว จะมีการประชุม ครม. นัดพิเศษ ภายในวันที่ 7 กันยายน หรือ 8 กันยายน หรือ 9 กันยายน เป็นอย่างช้า เพื่อพิจารณานโยบายรัฐบาลร่วมกันที่จะนำเสนอ และเข้าใจว่าทางสภามีความพร้อมในวันที่ 11 กันยายน 2567 ที่จะเข้าแถลงนโยบายรัฐบาล ฉะนั้นหลังวันที่ 14-15 กันยายนเป็นต้นไป ทุกคนจะสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ มีอำนาจเต็มตามกฎหมายครบถ้วน ซึ่งเป็นไปตามไทม์ไลน์
ผู้สื่อข่าวถามว่าการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาจะใช้เวลากี่วัน นายภูมิธรรม ตอบว่า อยู่ที่สภาจะตกลงกัน ส่วนคำถาม ถือว่าวันนี้นโยบายของรัฐบาลคืบหน้าไปกี่เปอร์เซ็นต์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทำไปเรื่อยๆ มีเวลาก็จะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งตอนนี้สมบูรณ์แล้ว ส่วนจะมีการเพิ่มนโยบายอะไรบ้าง ขอให้ไปฟังทีเดียวในวันแถลงนโยบาย ตรงนั้นคือของจริง ชัดเจน
เมื่อถามถึงโผทหารประจำปีที่ นายสุทิน คลังแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าจะให้ รมว.กลาโหมคนใหม่เป็นผู้พิจารณา นายภูมิธรรม ระบุว่า ตอนนี้อยู่ในกระบวนการ และเป็นการดำเนินการตามกฎระเบียบที่รองรับอยู่แล้ว ไปถึงอย่างไรก็หยุดที่ตรงนั้น และทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทันการณ์ในสิ่งที่ควรจะเป็น เมื่อถามว่าได้คุยกับ นายสุทิน เรื่องโผทหารที่ยังมีปัญหาในส่วนของผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) คนใหม่หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า ตนเพิ่งได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็น รมว.กลาโหม เมื่อช่วงเที่ยงเอง ยังไม่ได้ทำอะไรเลย
...
ขณะที่คำถามว่าหนักใจหรือไม่ที่ต้องมาดูหน่วยงานด้านความมั่นคง และอาจจะต้องกำกับดูแลตำรวจด้วย นายภูมิธรรม เผยว่า ยังไม่ได้รับมอบหมายชัดเจนจากนายกรัฐมนตรี แต่ถือว่าเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสไปร่วมงานกับกระทรวงกลาโหม ไม่น่าจะมีอะไรหนักใจ เพราะพวกเราเริ่มจากผลประโยชน์ของประเทศชาติ เชื่อว่าจะสามารถร่วมงานกับทุกส่วนทุกเหล่าทัพได้ดี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
สำหรับกรณีที่มีการขุดภาพคนเดือนตุลา เรื่องสหายใหญ่ ขึ้นมาต่อต้าน นายภูมิธรรม บอกว่า เป็นเรื่อง 50 ปีแล้ว จำอะไรไม่ค่อยได้ แต่อยากจะเรียนว่ามันไม่มีอะไร ที่ผ่านมาเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นจะต้องไปรื้อฟื้นเรื่องในอดีต และตนคิดว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รวมถึงผู้ใหญ่หลายท่านได้ตัดสินใจยุติความขัดแย้งและทำทุกอย่างให้คลี่คลายก็เป็นไปด้วยดี ฉะนั้น วันนี้ตนคิดว่าไม่ควรไปนั่งสืบสาวประวัติ โดยเฉพาะ 50 ปีที่แล้ว มันยาวไป ควรเริ่มต้นจากความจริงวันนี้และมองไปข้างหน้า ช่วยกันทำงานให้กับประเทศดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามต่อไป การมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ถือเป็นการมาเสริมในการทำงานหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า การมี รมช.กลาโหม ต้องดีอยู่แล้ว เป็นการช่วยกันทำงาน และยิ่ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เป็นทหาร ยิ่งทำให้เข้าใจในธรรมชาติและสิ่งที่เป็นอยู่ของทหารได้มากยิ่งขึ้น ตนจะได้ประโยชน์และประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยในการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ นายภูมิธรรม ยังบอกด้วยว่า ไม่มีฤกษ์ในการเข้าไปทำงานในกระทรวงกลาโหม ถ้ามีอำนาจหน้าที่แล้ว ก็เข้าไป แต่ตอนนี้ยังไม่มีอำนาจหน้าที่ จะเข้าไปไล่ที่รัฐมนตรีเก่าได้อย่างไร ตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร พร้อมยอมรับว่ามีการพูดคุยกับปลัดกระทรวงกลาโหมบ้าง เพราะเราคุยกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตอนนี้หรือตอนไหน คุยกันมาต่อเนื่อง ซึ่งตนได้มีโอกาสคุยกันเรื่องงาน จะได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นอย่างไรในปัจจุบัน
เมื่อถามถึงภาพที่มี สส. เข้าไปปลอบ นายสุทิน ในห้องประชุมสภา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่นอยด์หรอก เพราะเราเป็นนักการเมือง ต้องรู้ว่าเราทำไปตามหน้าที่ และเรายังเป็นเพื่อนพี่น้องกันอยู่ ช่วยกันได้ และยิ่งท่านมีประสบการณ์ก็เข้ามาช่วยตนได้ภายใต้กรอบกฎหมายที่ทำได้ ส่วนการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงของแต่ละกระทรวง เมื่อได้รัฐบาลแล้วจะมีการพิจารณาเลยหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า อยู่ที่แต่ละกระทรวง เพราะรัฐมนตรีใหม่จะเข้าไปดำเนินการ ซึ่งต้องไปดูว่าแต่ละกระทรวงมีข้อจำกัดอะไรก็ไปว่ากัน.