“อดิศร” ยินดี ครม.ใหม่ ต้อนรับประชาธิปัตย์ บอก “นายกฯ อิ๊งค์” ยังไม่ทันเริ่มงานโดนร้องแล้ว 9 เรื่อง เมินสังคมมอง ครม.ครอบครัว เชื่อ รัฐบาลอยู่ครบเทอม ออกตัวแทน “สุทิน” ไม่น้อยใจ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 กันยายน 2567 นายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวที่รัฐสภา ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้ว ว่า ขอแสดงความยินดี โดยเฉพาะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะได้ทำนโยบายและแถลงต่อรัฐสภา รวมถึงทำงานตามที่ได้ตั้งใจไว้ ส่วนที่มีการมองกันว่า ครม.ชุดนี้ เป็น ครม.ชุดฝึกงานนั้น ก็แล้วแต่ความเห็น แต่ส่วนใหญ่เป็น ครม.ชุดเดิม ที่ทำงานสานต่อจาก ครม.ชุด นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี อาจมีพรรคร่วมรัฐบาลที่เข้ามาใหม่ ขอต้อนรับพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

ส่วนคำถามว่ากังวลเรื่องคุณสมบัติที่มีการร้องเรียนกันอยู่หรือไม่ นายอดิศร เผยว่า เป็นเรื่องธรรมดาของนักร้อง ยังไม่ทำอะไรก็โดนไป 9 คดีแล้ว ถือเป็นสิทธิ แต่อย่าให้มากกว่านี้ ต้องเปิดโอกาสให้รัฐบาลที่มาด้วยความชอบตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ ผ่านการกลั่นกรองทุกอย่างได้ทำงานก่อนเพื่อผลักดันประเทศไปสู่ความเจริญ เมื่อถามต่อไป รัฐมนตรีบางคนไม่ใช่ตัวจริง มีการนำบุตรหรือเครือญาติมาดำรงตำแหน่งจะทำงานได้ดีหรือไม่ นายอดิศร ระบุว่า การกลั่นกรองเรื่องจริยธรรม คุณสมบัติ ครั้งนี้เข้มเป็นพิเศษตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมา แต่คนที่มาแทนคนเดิมมีวุฒิการศึกษา วัยวุฒิที่เหมาะสม และมีประสบการณ์ที่จะทำงานได้ กรณีบุตรสาวของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่จบปริญญาโทด้านกฎหมายจากกรุงลอนดอน อยู่ใกล้ชิดกับพ่อ ตนก็เป็นลูก สส. สั่งสมประสบการณ์ เชื่อมั่นว่าทำงานได้

...

ขณะที่คำถามว่าการนำบุตรหรือเครือญาติมาเป็น ครม. จะไม่เป็นลักษณะการครอบงำหรือไม่ นายอดิศร ตอบกลับว่า เป็นจินตนาการว่ากันไป การทำงานของคนอายุใกล้จะ 40 ปี มันกระตือรือร้น ถามว่าจะถูกมองเป็น ครม.ครอบครัว หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า “ก็แล้วแต่จะมอง ความเป็นลูกกับความเป็นพ่อมันตัดขาดไม่ได้จริงๆ ถึงอย่างไร น.ส.แพทองธาร ก็เป็นลูกสาวคนสุดท้องของนายทักษิณ ชินวัตร อยู่ดี มันตัดสายไม่ได้ ผมเป็นลูก สส. ก็อยากเป็น สส.เหมือนพ่อ ผมเป็นรัฐมนตรี แต่พ่อไม่ได้เป็น ดังนั้นก็ต้องให้โอกาส มันไม่ใช่จะเซ็นให้กันเหมือนโฉนดที่ดิน อยู่ที่ผลงานการเข้าไปทำหน้าที่ ต้องพิสูจน์ตนเอง การทำงานของ น.ส.แพทองธาร ผมใกล้ชิดเมื่อตอนหาเสียง แม้จะมีอายุน้อยแต่ไวต่อปัญหา เปิดโอกาสรับฟังปัญหาของคนทุกรุ่น เหมือนน้ำไม่เต็มแก้ว ถือว่าเป็นรัฐบาลของคนทุกรุ่น”

สำหรับคำถาม ครม.ชุดนี้จะอายุยาวกว่าชุดที่แล้วหรือไม่ นายอดิศร ให้ความเห็นว่า อย่างน้อยก็มีอายุอีก 3 ปีแน่นอน ตนเชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาระบุว่าอยู่ครบแน่นอน แต่อาจมีการร้องเรียนตามประสาคลื่นทะเลที่มีทั้งลมแรงหรือลมไม่แรงตามระบอบประชาธิปไตย

ในประเด็นที่ นายสุทิน คลังแสง ที่หลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความน้อยใจหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ไม่ ตนเพิ่งไปฉลองวันสันติภาพโลกให้ นายสุทิน มา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่มาจากพลเรือนที่ประเทศสวีเดน เขาให้รางวัลสันติภาพโลก นายสุทิน กลับมาที่สภาก็เหมือนกลับมาที่บ้าน ไม่ได้น้อยใจ ไม่ได้เสียใจอะไร งานในสภา นายสุทิน ก็คงจะเป็นทองคำของฝ่ายนิติบัญญัติแน่นอน ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคนบอกว่าเป็นสหายเก่า ตนก็สหายเก่า ประธานวุฒิสภาก็สหายเก่า บางครั้งอาจคิดไม่เหมือนกัน แต่มันผ่านมานานถึง 50 ปีแล้ว ไม่จำเป็นต้องปลุกผีคอมมิวนิสต์มา เพราะมันไม่มี ตนกับนายภูมิธรรม สมัยนั้นนอนเตียงติดกัน ถ้ารู้ว่าจะได้ดี ตนคงเดินตาม นายภูมิธรรม ตั้งนาน

ในคำถามว่า พรรคเพื่อไทยจะทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ผลัดใบแล้ว ถ้านายอภิสิทธิ์มา กับตนอาจจะเป็นศัตรูกัน แต่นายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ได้เป็นสมาชิกแล้ว หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ก็เป็นประชาธิปัตย์ที่ผลัดใบ

เมื่อถามว่ายอมรับได้หรือไม่ที่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่เคยเป็นแกนนำ กปปส. มาเป็น รมว.อุตสาหกรรม นายอดิศร เผยว่า ความจริงก็ยังมีเรื่องที่หมองใจกันอยู่ แต่โดยรัฐธรรมนูญ โดยการทำงานที่จะต้องจับมือกัน บังคับให้เราทั้ง 2 ฝ่ายต้องอยู่ด้วยกัน นายเอกนัฏ ก็เป็นลูกของเพื่อนตน เมื่อคบกันจริงๆ ก็นิสัยดี ส่วนเรื่องการเมืองที่ติดค้าง ก็ว่ากันเป็นไปตามกฎหมาย ยืนยันว่าพร้อมทำงานร่วมกันได้ สำหรับรัฐบาลผสมรอบนี้ก็คิดว่าอยู่ได้อีก 3 ปี ถ้าทำงานต่อไปได้เขาก็เลือกกลับมาใหม่.