“พรหมินทร์” ชี้กฤษฎีกาชุดใหญ่ตอบกลับชุดคำถามกลั่นกรองคุณสมบัติ รมต.เข้มข้น ถึงมือเลขาฯ ครม. คาดสัปดาห์นี้สลค.มีข้อมูลครบถ้วน “นายกฯอิ๊งค์” วางกำลังส่ง “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงคุมตำรวจ แบ่งเบางานนายกฯเน้นลุยปั่นผลงานเศรษฐกิจ พท.มั่นใจไร้ปัญหาดึง ปชป.ร่วมรัฐบาล “วิสุทธิ์” โอ่ทำงานร่วมกันได้ ยุคใบไม้ผลัดใบไปแล้วเลิกเจ้าคิดเจ้าแค้น ผ่านมา 16 ปีต้องรู้จักอโหสิให้อภัยกัน “สรวงศ์” การันตีถกงบฯปี 2568 วาระ 2-3 ราบรื่น 3 วันจบ “ไหม” ง้างมีดรอถล่มดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลตั้งงบฯไว้ 4.5 แสนล้าน แต่หามาได้แค่ 1.8 แสนล้าน แจกได้แค่ 18 ล้านคน ยังมืดแปดด้านหาเงินได้ไม่ครบ “อภิสิทธิ์” แซะ “ทักษิณ” ไม่จำบทเรียนในอดีต ก้าวไม่ข้ามเรื่องครอบครัว “เทพไท” เตือน ปชป.ท้าทายศรัทธาประชาชนทัวร์ลงจนไม่มีที่จอด พลิกข้ามขั้วกระแสติดลบยากกู้คืน ผลโพลสำรวจเกม จูบปากสลายขั้ว พท.คะแนนขยับพุ่งลิ่ว ส่วน ปชป.กลับวูบดิ่งเหว

รัฐบาลพรรคเพื่อไทย (พท.) พยายามลดความ เสี่ยงที่จะเกิดปัญหากับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่รัฐมนตรีอย่างเข้มข้น ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะใหญ่ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นประธานและนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ร่วมคณะ ตรวจสอบ โดยนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยืนยันรายชื่อ ครม.ใหม่จะครบถ้วนในสัปดาห์นี้

“หมอมิ้ง” ยันสัปดาห์นี้ข้อมูล ครม.ครบ

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีส่งคุณสมบัติ รัฐมนตรีให้คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะใหญ่ที่มี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่าง รัฐธรรมนูญ 2560 รวมถึงนายวิษณุ เครืองาม อดีต รองนายกฯ ร่วมคณะอยู่ด้วยช่วยพิจารณาว่า ได้ส่งไป ให้ตรวจสอบแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ตอนนี้มีการตอบกลับมายังเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะถ้ามีข้อสงสัยทางข้อกฎหมายจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ขั้นตอนต่างๆ ยังไม่เสร็จสิ้น เมื่อถามว่า รายชื่อที่ส่งให้กฤษฎีกาตรวจสอบเป็นใครบ้าง นพ.พรหมินทร์ตอบว่า ด้วยความรอบคอบ เลขาธิการ ครม.ส่งไปทุกกรณี แต่ไม่ได้ระบุตัวบุคคล คาดว่าการตรวจสอบของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) จะได้ข้อมูลครบถ้วนในสัปดาห์หน้าที่จะถึง

...

มั่นใจถกงบวาระ 2–3 ไม่มีปัญหา

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงาน พรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วาระ 2-3 วันที่ 3-5 ก.ย. ว่า คนที่แปรญัตติไว้มีข้อมูลอยู่แล้ว ต้องรอดูว่าฝ่ายค้านจะมีอะไรมาบ้าง แต่โดยภาพรวมไม่น่ามีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า เบื้องต้นแต่ละฝ่ายได้เวลาเท่าไหร่บ้าง นายสรวงศ์กล่าวว่า เท่าที่คุยไว้ 3 วันเท่าเดิม แต่อาจ มีปัญหาเรื่องประธานในที่ประชุมขณะนี้เหลือเพียง 2 คน คือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ผู้แทนราษฎร และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่ 2 ต้องดูว่าใครจะควงกี่ชั่วโมงอย่างไร แต่คาดว่าน่าจะจบภายใน 3 วัน และวันสุดท้าย น่าจะโหวตได้ช่วงบ่ายหรือช่วงเย็น เมื่อถามว่า ตอนนี้ หมดห่วงเรื่องเสียงโหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้แล้วหรือไม่ เพราะได้เสียง สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มาร่วม และ สส.ในก๊วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว. เกษตรและสหกรณ์ ที่แนวโน้มน่าจะอยู่ฝั่งรัฐบาล นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่น่ามีปัญหาอะไร

“วิสุทธิ์” ชี้ไร้ปัญหา ปชป.ผลัดใบไปแล้ว

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพท. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรค ปชป. มีมติร่วมรัฐบาล กับพรรค พท. มั่นใจว่าจะทำงานด้วยกันได้ดีหรือไม่ว่า ไม่มีปัญหาสมัยนี้เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพรรค ปชป. แล้ว ทำงานร่วมกันได้ เมื่อถามว่า ต้องชี้แจง กับแฟนคลับพรรค พท. หรือคนเสื้อแดงอย่างไรบ้าง นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ปชป.ยุคนี้กับยุคก่อนต่างกัน ใบไม้ผลัดใบไปแล้ว จะไปเจ้าคิดเจ้าแค้นอะไรกัน ไม่อย่างนั้นไปไม่รอด ต้องเอาประเทศชาติบ้านเมืองไปข้างหน้าก่อน ดังนั้นการสลายขั้ว ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง เป็นเรื่องดี เราเสียหายกันมา 16 ปี ต้องรู้จักอโหสิ อภัยบางอย่าง เรื่องผ่านมาแล้วก็ผ่านไป หากพลิกไป ข้างหลัง ก็ไปข้างหน้าไม่ได้ วันนี้ประชาชนต้องรอด

“อิ๊งค์” วาง “ภูมิธรรม” คุมตำรวจ

สำหรับการจัดตั้ง ครม.ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้วางตัวให้นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็น รมว.กลาโหมและรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลความมั่นคง รวมถึงศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อแบ่งเบางานของนายกฯที่ต้องเข้ามามุ่งเน้นแก้ ปัญหาเศรษฐกิจเป็นหลัก เพื่อเร่งสร้างเป็นผลงานให้รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำต่อไป

“สมชาย” ปูด ครม.“อิ๊งค์” 11 คนมีคดี

วันเดียวกัน นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ข่าวดี! ครม.อิ๊งค์ 1 ตรวจละเอียดยิบ รมต.ต้องสุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่ประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ข่าวลืออื้ออึงว่า ติดปมตั้ง 11 ทั้งคดีใน ป.ป.ช. อัยการ ศาล ฯลฯ จะกล้าลุยตั้งก่อน ไปตายเอาดาบหน้า? #นักการเมืองดี หายากนักหรือไง

“ธนกร” โวในสภาฯเสียง รบ.แน่นปึ้ก

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ในวาระ 2-3 ระหว่างวันที่ 3-5 ก.ย.ว่า สส.พรรค รทสช.ทั้ง 36 คนพร้อมเข้าร่วมพิจารณางบฯอย่างเต็มที่ทั้ง 3 วัน สส.พรรคทุกคนพร้อมยกมือเห็นชอบสนับสนุนให้รัฐบาลได้ใช้จ่ายงบฯให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ โดยเฉพาะการเร่งแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ความยากจน ปัญหาหนี้สิน รวมถึงปัญหายาเสพติดและอื่นๆ ที่สำคัญต้องให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบาย หรือในขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐได้ เมื่อถามว่า แต่ชัดเจนแล้วว่าพรรคเพื่อไทยดึงพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่เป็นฝ่ายค้านเดิม เข้ามาร่วมตั้งรัฐบาลและถอดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกจะทำให้สมการการเมืองตัวเลขเสียงโหวตในสภาฯเปลี่ยนไปหรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า เมื่อนับเสียงจากแต่ละพรรคการเมืองที่ประกาศตัวเข้าร่วมรัฐบาลแล้ว คาดว่าเสียงน่าจะไม่น้อยไปจากเดิม คือไม่ต่ำ 300 กว่าเสียง มั่นใจว่าสมการการเมืองเสียงสนับสนุนรัฐบาลยังคงเหนียวแน่น ไม่เปลี่ยน

“ไหม” กางงบฯถล่มดิจิทัลวอลเล็ต

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 วาระ 2-3 วันที่ 3-5 ก.ย.ว่า ได้เตรียมบุคคลที่จะอภิปรายไว้ตามข้อมูลที่ได้รับในชั้นกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการ และเนื่องจากข้อมูลที่ได้จากการทำงานในกรรมาธิการมีหลากหลายประเด็น ต้องสรุปจับประเด็นแล้วนำมารายงานให้ประชาชนรับทราบถึงวิธีการจัดงบฯที่มีปัญหาของรัฐบาล เราคงจะเน้นไปที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตต้องใช้งบฯปี 68 อีกกว่า 3 แสนล้านบาท แต่จนแล้วจนรอดรัฐบาล ยังไม่สามารถหางบฯมาเพียงพอที่จะใช้กับดิจิทัลวอลเล็ตทั้งโครงการที่เคยตั้งงบฯไว้ 4.5 แสนล้านบาท สำหรับงบฯปี 68 หามาได้แค่ประมาณ 1.8 แสนล้านบาทเศษ เท่ากับว่าจะครอบคลุมที่จะแจกไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรือเงินดิจิทัลได้เพียงแค่ 18 ล้านคน และรัฐบาลยังคงมืดแปดด้านที่จะหางบฯมาให้ครบ ชะตากรรมของคนที่เหลือที่เคยลงทะเบียนเอาไว้และไม่ได้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังอยู่ในภาวะวิกฤติที่ยังไม่แน่ใจว่าจะได้เงินดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่

ปชป.ย้ายขั้วพลิกเสียงโหวตในสภาฯ

เมื่อถามว่า การที่พรรค พท.ดึงพรรค ปชป.ที่เป็นฝ่ายค้านเดิมไปร่วมรัฐบาลด้วย แล้วถอดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออก มองว่าจะทำให้สมการเสียงโหวตในสภาฯเปลี่ยนไปหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คงจะเปลี่ยน เพราะฝ่ายค้านไม่มีพรรค ปชป.แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าในส่วนของพรรค พปชร.จะแบ่งเสียงโหวตอย่างไรบ้าง

“อภิสิทธิ์” เตือน “ทักษิณ” ทบทวนอดีต

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมามีบทบาทในประเทศอีกครั้งว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากวันที่นายทักษิณเคยเรืองอำนาจ ที่เข้ามามีบทบาทในการบริหารประเทศจะกระทบกับการบริหารประเทศมากน้อยแค่ไหน สังคมมองออกว่านายทักษิณมีบทบาทมาต่อเนื่อง เพียงแต่จะเปิดเผยมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง ส่วนหนึ่งถ้ามองในมุมบวกต้องบอกว่า สำหรับคนที่เชื่อในแนวทางนั้นอาจจะมีความเชื่อมั่น มีความมั่นใจมากขึ้น อาจจะทำให้การประสานงาน อาจใช้ประสบการณ์ผลักดันในสิ่งที่ตัวเองต้องการ “อย่างที่ผมเคยบอกว่า วันที่นายทักษิณเคยมีอำนาจมากมายมหาศาล สุดท้ายต้องยุติลงด้วยหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นความไม่ถูกต้อง ดังนั้นถ้ายังไม่เก็บเกี่ยวบทเรียนตรงนี้ความเสี่ยงที่จะเกิดแบบนี้อีกก็มี” นายอภิสิทธิ์กล่าว

แขวะก้าวไม่ข้ามเรื่องครอบครัว

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ช่วงที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลงเล่นการเมือง นายอภิสิทธิ์เคยปราศรัยว่าสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ วันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาเป็นนายกฯแล้ว มองอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรากำลังพูดถึงคนในครอบครัว ไม่ไปก้าวล่วงในแง่ความสัมพันธ์ในครอบครัวจะเป็นอย่างไร แต่แสดงว่าเป็นแนวทางที่ต้องสอดรับกัน “ผมเคยพูดหลายครั้งว่าแม้จะต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยมาอย่างยาวนาน ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยมีความสำเร็จในบางเรื่อง และเสียดายว่าเขาไม่ได้ต่อยอดเอาตรงนั้นมาเป็นแกนในการขับเคลื่อนพรรค และยังไม่สามารถที่จะก้าวพ้นครอบครัวได้” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เชื่อสภาครบเทอมไม่มีใครอยาก ลต.เร็ว

เมื่อถามย้ำว่าทั้งนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีจุดจบที่ไม่สวย มาวันนี้คนมองว่าจุดจบของ น.ส.แพทองธารจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราไม่อยากให้มีปัญหา จริงๆดีที่สุด ถ้าหากรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศบนความถูกต้องได้ ทุกคนควรจะดีใจ ส่วนที่มีการมองว่าจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะคนตระกูลชินวัตรมาเป็นนายกฯคนที่ 3 แล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงไม่ใช่เรื่องตระกูลหรืออะไร แต่อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้มันมีเงื่อนไข และเราไม่อยากจะต้องไปสู่จุดนั้นกันอีก เมื่อถามอีกว่า มองว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธาร จะอยู่ครบเทอมหรือไม่ เพราะตัวนายกฯมีปัญหาเรื่องที่ดินอัลไพน์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าสภาฯน่าจะอยู่ครบเทอม เพราะมองไม่เห็นว่าจะมีปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล ไม่น่าจะมีพรรคไหนอยากจะเลือกตั้งเร็ว เมื่อถามย้ำว่า คิดว่ามีอะไรเป็นจุดอ่อนหรือจุดตายของรัฐบาลชุดนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปัญหาศรัทธาของประชาชนที่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องความไม่ถูกต้อง

“คึก” เตือน ปชป.ทัวร์ลงจนไม่มีที่จอด

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์คลิปภาพและเสียงผ่านสื่อโซเชียลเฟซบุ๊กหัวเรื่อง “เตือน ปชป. ทัวร์ลงเต็มลานจอด สัญญาณอันตราย อย่าท้าทายความรู้สึกประชาชน” ใจความว่า หลังจากพรรค ปชป.มีมติเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรค พท. ทั้งที่ยืนกันอยู่คนละขั้วกันมาตลอด มีอุดมการณ์แตกต่างกัน และถือว่าเป็นพรรคการเมืองคู่แข่งกันในทุกสนามเลือกตั้งร่วมเวลา 20 กว่าปี เมื่อพรรค ปชป.ได้นำข่าวเกี่ยวกับผลการลงมติพรรคเพื่อเข้าร่วมรัฐบาล เผยแพร่ลงบนเพจเฟซบุ๊กทางการของพรรค ปชป. ขึ้นปกว่า “ทุกเสียงสะท้อนของท่าน สำคัญกับเราเสมอ” และข่าวการให้สัมภาษณ์ของนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ปชป. เพื่อให้มวลสมาชิกและประชาชนทั่วไปได้รับทราบ ปรากฏว่ามีประชาชน ผู้สนับสนุนพรรคเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก จะหนักไปทางรุมด่า ส่วนใหญ่หรือเกือบ 100% ไม่เห็นด้วยกับการที่พรรค ปชป.เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรค พท. หลายคนบอกว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าสูญพันธุ์บ้าง ต่ำสิบบ้าง ไม่เกิน 5 คนบ้าง บางคนใช้คำหยาบคาย บ้างบอกว่าจะหยุดสนับสนุนพรรค ไม่เลือกแล้ว อย่างนี้ภาษาโซเชียลเรียกว่า ทัวร์ลงจนไม่มีลานจอดรถทัวร์แล้ว

อย่าท้าทาย ปชช.ติดลบยากกอบกู้

“ถ้าจะกล่าวหาว่าเป็นเฟซไอโอหรืออวตาร ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่กระแสในสื่อโซเชียลที่แสดงความเห็นมาสอดคล้องกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนจริงๆ อาจมีคนเข้ามาอวยอยู่บ้างประปรายหรือน้อยมาก แต่ถูกจับโป๊ะว่าเป็นบัญชีของนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค คอมเมนต์อวยตัวเอง สร้างความอับอายให้กับผู้คนในสังคมมากขึ้นไปอีก จนแอดมินเพจพรรคต้องปิดช่องแสดงความคิดเห็นไป ไม่อาจรับฟังความคิดเห็นตำหนิติเตียนและเห็นต่างกับมติพรรคได้ ถ้าหากคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ตั้งความหวังไว้ว่าการเข้าร่วมรัฐบาลกับระบอบทักษิณจะทำให้พรรค ปชป.ได้รับความนิยมมากขึ้นนั้นเกิดกระแสติดลบ กว่าจะกอบกู้มา ให้เป็นเสมอตัว หรือเท่าทุนยากยิ่ง จะให้เพิ่มขึ้นเป็นบวกยิ่งยากกว่าเดิมอีก อย่าท้าทายความรู้สึกประชาชน ถ้าหากประชาชนเสื่อมศรัทธา และไม่สนับสนุนพรรค จะทำให้พรรคเดินหน้าไปได้ยากมาก ขอให้ชาวประชาธิปัตย์จดจำมือทุกมือ ชื่อทุกชื่อที่โหวตสนับสนุนให้พรรค ปชป.ไปร่วมรัฐบาลกับระบอบทักษิณไว้ให้ดี เผื่อวันข้างหน้าเมื่อเกิดความเสียหายใดๆเกิดขึ้นกับพรรคจะได้ทวงถามความรับผิดชอบทางการเมืองได้หรือว่ากว่าจะถึงวันนั้น พรรค ปชป.เสียหายยับเยินจะกอบกู้ไปเสียแล้ว” นายเทพไทกล่าว

“อิทธิพร” ลงพื้นที่ดูเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรี

เมื่อเวลา 07.45 น. ที่ จ.ราชบุรี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี (อบจ.) มีผู้สมัคร 2 คน คือนายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ หรือหวุน ผู้สมัครเบอร์ 1 พรรคประชาชนและนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือกำนันตุ้ย เบอร์ 2 ลงอิสระ อดีตนายก อบจ.ราชบุรี ที่ลาออกจากนายก อบจ.ราชบุรี จนต้องเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรีในครั้งนี้ โดยนายอิทธิพรเริ่มลงพื้นที่หน่วยเลือกตั้งที่ 35 ที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศราชบุรี อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี มีส่วนราชการ อาทิ นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รอง ผวจ.ราชบุรี นายณัฏฐกร คงเดชา ผอ.สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จ.ราชบุรี ร่วมสังเกตการณ์และให้ข้อมูล จากนั้นเวลา 08.00 น.นายอิทธิพรได้ทำการประกาศเปิดคูหาให้ประชาชนเข้าไปใช้สิทธิ ก่อนเดินทางลงพื้นที่สังเกตการณ์และตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งอื่นๆในเขตพื้นที่ จ.ราชบุรี

ภาพรวมราบรื่น ร้องเรียนนิดหน่อย

นายอิทธิพลให้สัมภาษณ์ว่า ภาพรวมมีความเรียบร้อย ราบรื่น มีร้องเรียนเพียง 1 เรื่อง คือหาเสียงด้วยการหลอกลวง ใส่ร้าย สำนักงาน กกต.ราชบุรี ได้รับเรื่องไว้พิจารณาและได้ส่งความเห็นไปให้ส่วนกลางแล้ว เมื่อถามถึงกระแสข่าวซื้อสิทธิขายเสียง 200 บาท นายอิทธิพรตอบว่า มีผู้มาให้เบาะแสกับ ผอ.สำนักงาน กกต.ประจำ จ.ราชบุรี โดยได้แจ้งชุดเคลื่อนที่เร็ว 5 ชุดที่ได้รับการสนับสนุนจาก ผบก.ภูธร จ.ราชบุรี แต่ไปถึงไม่พบมีการแจกเงินแล้ว

“กำนันตุ้ย” เข้าวินทิ้งขาดคู่แข่งขาดลอย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 20.13 น.ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้ง นายก อบจ.ราชบุรี ที่นับไปแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ พบว่า นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ เบอร์ 1 พรรคประชาชน ได้ 145,055 คะแนน ขณะที่นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือกำนันตุ้ย เบอร์ 2 ได้คะแนนทิ้งห่างแบบขาดลอย 208,574 คะแนน ถือว่าเป็นการกลับมาคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งไปได้ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น

ยังไม่เห็นคำร้องบุรุษนิรนามยุบ พท.

นายอิทธิพรให้สัมภาษณ์กรณีมีผู้ร้องนิรนามยื่นยุบพรรค พท.ว่า เป็นเพียงการรายงานข่าว ขณะนี้สำนักงาน กกต.ยังไม่ได้รายงานให้ทราบ ยังไม่เห็นคำร้อง ตามขั้นตอนแล้วหากมีผู้มายื่นคำร้อง ต้องพิจารณาว่าเป็นคำร้องที่สมควรรับไว้หรือไม่ หากเห็นว่าควรรับไว้ก็ตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน สอบปากคำพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานแวดล้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้ข้อสรุปเสนอความเห็นพร้อมสำนวน ไปยังสำนักงาน กกต. โดยมีเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองเป็นผู้ให้ความเห็น แต่ละขั้นตอนต้องใช้ระยะเวลา เมื่อถามถึงคำร้องที่ไม่ได้ระบุชื่อตัวตน นายอิทธิพรตอบว่า โดยหลักการต้องแสดงให้เห็นตัวตนของผู้ร้อง หากเป็นคำร้องที่ไม่ได้ระบุชื่อให้ถือไปว่าเป็นบัตรสนเท่ห์ แต่หากในคำร้องนั้นมีเนื้อหาและมีข้อเท็จจริง แม้ไม่รับคำร้องเพราะไม่มีการระบุชื่อของผู้ร้อง แต่สามารถรับไว้พิจารณาในฐานะมีเหตุอันควรสงสัย หรือความปรากฏก็ได้

“พิธา” ลุยพิษณุโลกหาเสียงช่วย “โฟล์ค”

สำหรับบรรยากาศการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 1 จ.พิษณุโลก แทนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองหลังถูกยุบพรรคนั้น เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.ย.67 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อม สส.พรรคประชาชนหลายคน อาทิ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ลงพื้นที่ช่วยปราศรัยช่วยหาเสียงให้นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ หรือโฟล์ค ผู้สมัคร สส. ที่บริเวณลานหน้าร้านสะดวกซื้อตรงข้ามกับ อบต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีแฟนคลับและประชาชนไปร่วมรับฟังกว่า 100 คน จากนั้นนายพิธาพร้อมคณะได้แห่รถหาเสียงไปรอบเขต ต.บึงพระ ก่อนเดินทางไปปราศรัยหาเสียงที่ตลาดนัดวัดบางทราย ต.วังน้ำคู้ อ.เมืองพิษณุโลก และเดินทางกลับ กทม.ในช่วงเย็นวันนี้ ทั้งนี้การเลือกตั้งมีขึ้นในวันที่ 15 ก.ย.67 โดยมีนายจเด็ศ จันทรา ผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย มีศักดิ์เป็นหลานชายนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา

พท.เซฟ “อิ๊งค์” ช่วยหาเสียงผวานักร้องอื้อ

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกำหนดการลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก เพื่อช่วยนายจเด็ศ จันทรา ผู้สมัคร สส.พิษณุโลก เขต 1 พรรค พท. หาเสียงเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างว่า ช่วงวันที่ 6-8 ก.ย.จะมี สส. ลงพื้นที่กันหลายคน แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะมีผู้บริหารพรรคไปกี่คน และคาดว่าวันที่ 6-7 ก.ย. อาจจะมีปราศรัยใหญ่ตามที่ในพื้นที่ได้จัดไว้ เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค จะร่วมลงพื้นที่ช่วยหาเสียงหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า “ต้องรอดูว่าท่านจะสามารถไปด้วยได้หรือไม่ เพราะคาบเกี่ยวในเรื่องของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เสี่ยง ตอนนี้ต้องเซฟไว้ให้ได้มากที่สุด นักร้องเยอะเหลือเกิน”

ดุสิตโพลชี้แต้มนิยมฝ่ายค้านนำโด่ง

วันเดียวกัน สวนดุสิตโพล สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,249 คน เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือน ส.ค.67” ระหว่างวันที่ 23-30 ส.ค. พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยเฉลี่ย 4.46 คะแนน ลดลงจากเดือน ก.ค.67 ที่ได้ 4.59 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือ ผลงานของฝ่ายค้าน เฉลี่ย 5.39 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุด คือ การแก้ปัญหายาเสพติดและผู้มีอิทธิพล เฉลี่ย 4.05 คะแนน นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีบทบาทโดดเด่นคือร้อยละ 49.73 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองลงมา ร้อยละ 28.52 นายเศรษฐา ทวีสิน ด้านนักการเมืองฝ่ายค้านที่มีบทบาทโดดเด่น ร้อยละ 44.77 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รองลงมา ร้อยละ 32.35 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบ ร้อยละ 41.44 ระบุ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบาง ผลงานฝ่ายค้านที่ชื่นชอบ ร้อยละ 51.29 ระบุ ตรวจสอบรัฐบาล เปิดเผยข้อมูลที่เป็นจริง

หลังจูบปาก พท.เรตติ้งพุ่ง ปชป.ดิ่งฮวบ

ขณะที่สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ความนิยมต่อประชาธิปัตย์ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,346 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 29-31 ส.ค.67 พบว่า หลังมีข่าวเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยคนเคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่ ร้อยละ 60.1 ให้คะแนนนิยมต่อพรรคประชาธิปัตย์ลดลง ขณะที่ร้อยละ 39.9 ให้คะแนนนิยมต่อพรรคประชาธิปัตย์เพิ่มขึ้น ส่วนความนิยมของประชาชนคนเคยเลือกพรรคเพื่อไทยต่อพรรคเพื่อไทย หลังมีข่าวพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล พบว่าคะแนนนิยมต่อพรรคเพื่อไทยกลับเพิ่มขึ้น ร้อยละ 80.4 ในขณะที่ร้อยละ 19.6 ให้คะแนนนิยมต่อพรรคเพื่อไทยลดลง

เชียร์ “ทักษิณ” แจกเงินกลุ่มเปราะบาง

ขณะที่ “นิด้าโพล” เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชนเรื่อง “ทักษิณคิด นายกฯอิ๊งค์ทำ...ดีไหม?” ระหว่างวันที่ 26-28 ส.ค.67 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นต่อแนวคิดของ นายทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเงินสด ให้แก่กลุ่มคนเปราะบางและกลุ่มคนพิการ ในเดือน ก.ย.พบว่า ร้อยละ 53.74 เห็นด้วยมาก รองลงมา ร้อยละ 21.14 ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 17.56 ไม่เห็นด้วยเลย และร้อยละ 7.56 ไม่ค่อยเห็นด้วย ส่วนความคิดเห็นต่อแนวคิดของนายทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวกับการเวนคืนรถไฟฟ้าบางสายจากภาคเอกชนมาให้รัฐบาลบริหาร เพื่อให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าถูกลง ร้อยละ 43.82 เห็นด้วยมาก รองลงมา ร้อยละ 25.88 ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 18.09 ไม่เห็นด้วยเลย ร้อยละ 8.93 ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 3.28 ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ส่วนความคิดเห็นต่อแนวคิด เกี่ยวกับการให้สิทธิชาวต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยในรูปแบบการเช่าที่ดิน 99 ปี หลังจากนั้นจึงโอนกรรมสิทธิ์มาเป็นของรัฐ พบว่า ร้อยละ 70.92 ไม่เห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 14.11 ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 7.79 ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 6.26 เห็นด้วยมาก และร้อยละ 0.92 ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ค้านผุดเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์

นิด้าโพลระบุอีกว่า ส่วนความคิดเห็นของประชาชนต่อแนวคิดเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตการลงทุนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีทั้งกาสิโน สวนสนุกและโรงแรม ร้อยละ 44.81 ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 19.39 เห็นด้วยมาก ร้อยละ 17.79 ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 16.72 ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 1.29 ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ส่วนความคิดเห็นต่อแนวคิด เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาธุรกิจที่ผิดกฎหมายให้ถูกต้อง เพื่อนำภาษีที่จัดเก็บได้มาพัฒนาด้านการศึกษา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 34.81 เห็นด้วยมาก รองลงมา ร้อยละ 34.20 ไม่เห็นด้วยเลย ร้อยละ 21.60 ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 8.63 ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 0.76 ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่