“ธนกร” เผย รวมไทยสร้างชาติ จ่อชงร่างกฎหมายสุรารวมไทยต่อสภา ประกบร่างสุราก้าวหน้าพรรคประชาชน ชี้ ต้องยึดหลักไม่สุดโต่ง สร้างมูลค่าเพิ่ม ชูอัตลักษณ์ชุมชน-ท้องถิ่น ควบคู่ความปลอดภัยผู้บริโภค ป้องกันซ้ำรอยเคสยาดองมรณะ

วันที่ 30 สิงหาคม 2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้สภาผู้แทนราษฎรมีวาระเตรียมพิจารณากฎหมายสำคัญ นอกจากพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 แล้ว ยังเตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน (พรรคก้าวไกลเดิม) ได้เสนอแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต หรือกฎหมายสุราก้าวหน้า มาตรา 153 เพราะต้องการให้ผู้ผลิตสุราเพื่อการค้า โดยเสนอให้ยกเลิกไม่ต้องกำหนดคุณสมบัติด้านขนาด กำลังการผลิต กำลังแรงม้า เครื่องจักรและยกเลิกการขออนุญาตมีเครื่องกลั่นสำหรับผลิตสุราไว้ในครอบครองด้วยนั้น

นายธนกร ระบุว่า ตนเองไม่เห็นด้วย เนื่องจากการยกเลิกไม่ให้มีข้อกำหนดกฎเกณฑ์ใด ๆ จะเพิ่มจำนวนผู้ผลิตรายย่อยและปริมาณการผลิตสุราขึ้นจำนวนมาก เกิดความเสี่ยงในการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของสุราที่ผลิตจำหน่าย และการไม่ต้องขออนุญาตมีเครื่องกลั่น จะส่งผลทำให้มีการผลิตสุราเถื่อนออกมาอย่างดาษดื่น การปราบปรามสุราเถื่อนทำได้ยากขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตสุราเถื่อนจะใช้เป็นข้ออ้างได้ว่า มีเครื่องกลั่นสุราอยู่แต่ยังไม่ได้มีการผลิตก็ไม่สามารถจับกุมได้ ตนจึงมองว่าการจะแก้ไขหรือตรากฎหมายใดออกมา ควรคำนึงถึงมาตรการควบคุมให้เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่ายด้วย ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิต และต้องคำนึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่เป็นผู้บริโภคเป็นสำคัญ ไม่ควรใช้แนวทางกฎหมายแบบสุดโต่ง ไร้ความรับผิดชอบ

...

“ยิ่งตอนนี้มีข่าวคลัสเตอร์ยาดองมรณะขึ้น ที่ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย ป่วยสะสมสูงถึง 37 คน ต้องได้รับการฟอกไต 23 คน อยู่ระหว่างการรักษา 22 คน ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจหรืออาการโคม่า 7 คน โดยพบว่ากรณีนี้ผู้ผลิตไม่ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต แต่กลับผลิตยาดองขายเองและส่งขายตามซุ้มยาดองถึง 18 ซุ้ม นับว่าอันตรายถึงชีวิต นี่ขนาดมีกฎหมายควบคุมตามปกติยังมีการลักลอบผลิตสุราเถื่อนและขายกันขนาดนี้ หากยกเลิกข้อกำหนดที่เป็นสาระสำคัญต่างๆ ออกตามที่พรรคประชาชนเสนอ จะยิ่งเกิดผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตประชาชนไปมากกว่านี้อีกกี่เท่าก็ไม่รู้ ถึงเวลานั้นใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ”

นายธนกร เผยต่อไปว่า ถ้ายกเลิกการกำหนดขนาดกำลังการผลิต กำลังแรงม้า ของเครื่องผลิตสุราในกฎหมายสรรพสามิตไป แต่ยังมีกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น หากใช้เครื่องจักรเกิน 50 แรงม้า ผู้ผลิตจะต้องขออนุญาตจากกรมโรงงานอยู่ดี ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงกลายเป็นภาระต่อผู้ผลิต ดังนั้น ถ้ามีการกำหนดประเภทใบอนุญาตตามขนาดของเครื่องจักรไว้ตั้งแต่แรก ก็จะเป็นประโยชน์กับผู้ผลิตเอง

ทั้งนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติจะเสนอการแก้ไขพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 153 ให้ยังคงรักษามาตรฐานการผลิตสุราตามกฎหมายปัจจุบัน ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ เศรษฐกิจและสังคม โดยเน้นส่งเสริมสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือองค์กรเกษตรกรให้สามารถผลิตสุราที่มีลักษณะเฉพาะโดยการผสมผลิตผลทางการเกษตรในประเทศ เพิ่มมูลค่าและสร้างเอกลักษณ์อัตลักษณ์ของชุมชนแต่ละท้องถิ่นของเราได้.