“บิ๊กป้อม” ชิวๆ สบายๆ เรียกถก กก.บห.พลังประชารัฐ ไม่ขับก๊วน “ผู้กอง” มองเป็นคนในครอบครัว “ไพบูลย์” ทวงคำมั่นสัญญา “อิ๊งค์” ยกประมวล ก.ม.แพ่ง ขู่ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง อุบไต๋คลิปเด็ดบ้านจันทร์ส่องหล้า “วิรัช” ซัดกินเหล้าลุง ดันเมาจะเตะลุง “ธรรมนัส” ย้ำชัดหนุนรัฐบาล เสถียรภาพคือมือสส. “ศิริโชค” ทิ้ง ปชป.ประชดร่วมรัฐบาล “เดียร์” ฉะก้าวข้ามหัวประชาชน มือลึกลับติดป้ายประจาน “สนองตัณหา” “ชวน-จุรินทร์” ประสานเสียงไม่ทรยศประชาชน กก.บห. 34 เสียงลงมติเอกฉันท์เข้าร่วมรัฐบาล “เสรีพิศุทธ์” ถอนตัว สะบั้นสัมพันธ์ “ทักษิณ” ช่วยมาตลอดแต่ไม่เห็นค่า แฉหลักฐานแชตไลน์พบ “นายใหญ่” บนชั้น 14 ทายรัฐบาลใหม่อายุสั้นไม่ถึงปี “ภูมิธรรม” คุยรวมเสียงหนุนได้ 300 นิดๆ ส่อตีตราคุมเข้มนักร้อง นายกฯเวียดนามยกหูยินดี “อิ๊งค์”

การจัดตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังคงเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม มีปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งจากพรรคพลังประชารัฐในซีก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. หรือพรรคประชาธิปัตย์ที่ดึงเข้ามาเสียบ ก็มีกลุ่ม 4 สส.ของนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค ที่ออกโรงคัดค้านสุดตัว

“บิ๊กป้อม” อารมณ์ดีบอกสบายๆ

เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 29 ส.ค. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) มี กก.บห.พรรคฝั่ง พล.อ.ประวิตร ทั้ง 12 คน เข้าร่วมประชุมพร้อมหน้า อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ขณะที่ กก.บห.พรรคอีก 6 คนในฝั่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพปชร. ไม่มีใครมาร่วมประชุม ใช้เวลาประชุม 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ ก่อนที่ พล.อ.ประวิตรจะเดินทางกลับ ได้หันมายิ้มโบกมือทักทายสื่อมวลชนว่า “บ๊ายบาย สบาย สบายมาก”

...

ถาม “อิ๊งค์” ลืมสัญญา พปชร.หรือ

ต่อมาเวลา 10.20 น. นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. แถลงว่า มติที่ประชุม กก.บห.พรรค เห็นชอบกำหนดให้มีการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 2/2567 ในวันที่ 6 ก.ย. มีวาระพิจารณาแต่งตั้ง กก.บห.พรรคเพิ่มเติม และแต่งตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครเลือกตั้งเพิ่มเติม ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยมีมติไม่เอาพรรค พปชร.ร่วมรัฐบาล เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง เพราะมีสัญญาประชาคมเสมือนหนึ่งเป็นคำมั่นแสดงออกต่อสาธารณะอย่างครบถ้วนแล้ว เมื่อพรรค พปชร.เห็นชอบให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ และ น.ส.แพทองธารให้คำมั่นว่าจะให้พรรค พปชร.มีที่นั่งใน ครม. ตามสัดส่วนเดิมและตำแหน่งเดิม พรรค พปชร.ให้ สส.โหวตสนับสนุนทั้งหมด 39 เสียง อาจมีหัวหน้าพรรคคนเดียวที่ติดภารกิจ มีเหตุจำเป็น พรรค พปชร.ได้ทำครบแล้วตามคำมั่นที่นายกฯให้ไว้ จึงเป็นเรื่องที่นายกฯต้องดำเนินการตามคำมั่นที่ให้ไว้

ยก ก.ม.แพ่งทวงคำมั่นสัญญา

นายไพบูลย์กล่าวว่า อยากให้ความรู้ทางกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 362 บัญญัติว่า บุคคลออกโฆษณาให้คำมั่นว่าจะให้รางวัลแก่ผู้ซึ่งกระทำการอันใด ท่านว่าจำต้องให้รางวัลแก่บุคคลใดๆ ผู้ได้กระทำการอันนั้น แม้ถึงมิใช่ว่าผู้นั้นจะได้กระทำเพราะเห็นแก่รางวัล กรณีนี้ถือว่านายกฯให้คำมั่นแล้ว และบอกว่าพรรค พปชร.เป็นรัฐบาล มีการโฆษณาเผยแพร่ผ่านสื่อ ส่วนที่สื่อมวลชนไปพูดว่าพรรค พปชร.จะมีปัญหา ขอเรียนว่าพรรคเราสบายมาก หัวหน้าพรรคมีความสุขและเข้มแข็ง แน่วแน่จะดูแลพรรค พปชร.ไปตลอด ไปจนไม่ไหว สื่อควรห่วงนายกฯมากกว่า เพราะการไม่ปฏิบัติตามคำมั่นอาจมีปัญหา อาจขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ต้องไปดูคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่เจตนารมณ์เพื่อไม่ให้ผู้บริหารขาดคุณธรรม จริยธรรม เข้ามามีอำนาจปกครองบ้านเมือง เมื่อถามว่าจะยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ นายไพบูลย์ตอบว่า พรรค พปชร.เป็นผู้ใหญ่ เราไม่ไปทำอะไรอย่างนั้นหรอก เพียงแค่บอกถึงเรื่องราวคำมั่น พรรค พปชร.ไม่ได้ไปหวังว่าต้องไปเปลี่ยนอะไร ทำไปแล้วก็ทำไปเถอะทำไปให้มันจบ พรรคเรามั่นคง

กั๊กคลิปเด็ดบ้านจันทร์ส่องหล้า

นายไพบูลย์กล่าวว่า ห่วงที่สุดคือสถานะของรัฐบาล ถ้าเริ่มต้นอย่างนี้จะไปได้สักเท่าไหร่ ส่วนพรรคเรามีความสุขจะได้ทำงานอย่างอิสระ ไม่ต้องไปมีข้อบังคับขีดจำกัดใดๆทั้งสิ้น การเป็นฝ่ายค้านไม่เสียหายตรงไหน เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าคนบ้านป่ามีคลิปวิดีโอของคนบ้านจันทร์ส่องหล้าในวันเรียกรัฐมนตรีหารือ นายไพบูลย์หัวเราะก่อนตอบว่า ไม่ทราบ ถึงทราบก็ไม่รู้จะบอกทำไมเมื่อถามว่าหากมีคลิปจริง ถือเป็นหลักฐานเด็ดเรื่องครอบงำพรรคหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวย้ำว่า ไม่ทราบ ไม่ได้มีแค่เรื่องนี้หรอก เมื่อถามอีกว่ามีหลักฐานหลายเรื่องใช่หรือไม่ นายไพบูลย์อ้างว่า แค่ดูจากสื่อมวลชน เรื่องเยอะแยะไปหมด

ยังมอง “ผู้กอง” คนในครอบครัว

ผู้สื่อข่าวถามว่าการประชุมใหญ่วันที่ 6 ก.ย. จะมีการขับ สส.ในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่าหรือไม่ นายไพบูลย์ตอบว่ายืนยันไม่มี ใครจะไปขับคนในครอบครัว เป็นครอบครัวเรา เรามีความสุข ที่ได้อยู่ด้วยกัน เป็นเรื่องภายในครอบครัว พปชร. คนอื่นไม่อยากให้เกี่ยว เป็นหนึ่งเดียว คนนอกไปหวังอะไรก็ไม่รู้หรือประสงค์ร้ายกับเราหรือเปล่า เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าครอบครัวจะครบ 39 คน นายไพบูลย์ตอบว่า “Yes หัวหน้าครอบครัวคือ พล.อ.ประวิตร รักกันหมด” เมื่อถามว่าถ้าลูกดื้อจะทำโทษหรือไม่ นายไพบูลย์หันมาโบกมือพร้อมกล่าวว่า “รักกันหมด ไม่คิดจะตีหรือลงโทษ” เมื่อถามว่าได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัสแล้วใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ตอบว่า คุยกับ ร.อ.ธรรมนัสก็เหมือนกัน อยู่กันแบบมีความสุขอยู่แล้ว ย้ำอีกครั้งเป็นเรื่องของครอบครัวเราพรรค พปชร.

“วิรัช”ซัด “กินเหล้าลุงเมาเตะลุง”

ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพปชร. กล่าวว่า ตอนเลือกตั้งกว่าจะได้มา เหนื่อยเลือดตาแทบกระเด็น เหนือ ใต้ ออก ตก มีหัวหน้าพรรค มีตน มีเลขาธิการพรรค 2-3 คนที่ประจำอยู่ แต่วันนี้พอแยกกันก็ใจหาย แต่เราตั้งใจจะทำให้พรรค พปชร.คงอยู่ “ผมมาคิดถึงเรื่องอดีตเดิมๆ

คิดว่าเอ๊ะ ตอนเลือกตั้งก็อีกแบบนึง พอหลังเลือกตั้งมีความรู้สึกว่าเงินก็เงินลุง ซื้อเหล้ามากิน กินเสร็จเมาก็เตะลุง ผมมีความรู้สึกแค่นั้น” เมื่อถามว่าที่พูดหมายถึงกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสใช่หรือไม่ นายวิรัชตอบตัดบทว่า พอแล้ว เมื่อถามว่าคิดว่าลุงจะสามารถไปต่อได้หรือไม่ เพราะมีการพูดว่าปิดสวิตช์ 3 ป.ไปแล้ว นายวิรัชตอบว่าไม่เป็นไร รอเวลา มั่นใจพรรค พปชร.ไปได้ เมื่อถามว่ามั่นใจว่าลุงป้อมจะกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีได้ใช่หรือไม่ นายวิรัชไม่ตอบแต่ยกนิ้วโป้ง 2 ข้าง เมื่อถามย้ำว่ามีข่าวว่าจะงัดกฎหมายมาสู้กับพรรค พท. นายวิรัชตอบสั้นๆว่าไม่ทราบเดี๋ยวรอดู

“ธรรมนัส” ย้ำเสถียรภาพคือมือ สส.

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพปชร. ให้สัมภาษณ์ที่อาคารชินวัตร 3 ว่าเรื่องการร่วมรัฐบาลคงไม่ต้องพูดซ้ำแล้ว อย่างที่สื่อมวลชนทราบกันดี เมื่อถามว่าได้โควตารัฐมนตรี 3 เก้าอี้ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า รอให้มีการโปรดเกล้าฯลงมาก็จะทราบ เมื่อถามว่าสบายใจหรือยังหลังประกาศตัวเป็นอิสระจากพรรค พปชร. ร.อ.ธรรมนัสตอบว่าสบายใจมาตลอด ไม่เคยซีเรียสเรื่องการเมือง เมื่อถามถึงความชัดเจนหลังแยกกลุ่มออกมา จะสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอย่างไร ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า เมื่อมีการประชุมสภาฯและมีการโหวตวาระสำคัญจะเห็นเอง เสถียรภาพของรัฐบาล มือ สส.ที่จะยกมือสนับสนุนรัฐบาล ถึงวันนั้นเราจะรู้ว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพหรือไม่ เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าจะโหวตสวนมติพรรค พปชร.ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า “กลุ่มผมประกาศชัดเจน สนับสนุนรัฐบาล”

แหย่สื่อรู้โควตา ครม.ดีกว่าอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่าในกลุ่มตอนนี้มีกี่เสียง ร.อ.ธรรมนัสตอบว่าเดี๋ยวก็รู้ เมื่อถามว่า 3 เก้าอี้ในโควตา ร.อ.ธรรมนัสรีบปฏิเสธทันทีว่า “ไม่ใช่ 3 เก้าอี้ของผม ผมไม่ได้ส่งใคร” ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ามีชื่อนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นายอัครา พรหมเผ่า และ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร อยู่ในโควตาเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส ใช่รายชื่อตามนั้นหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า “รู้ดีกว่าผมอีก” เมื่อถามย้ำว่าสรุปว่าพรรคพปชร.เป็นฝ่ายค้าน แต่กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัสจะสนับสนุนรัฐบาล ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสรีบตัดบทและเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที

“ศิริโชค” ทิ้ง ปชป.ประชดร่วม รบ.

วันเดียวกัน นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมโชว์หนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป. ระบุเนื้อหาพอสรุปว่า เป็น สส.ครั้งแรกเมื่อปี 2544 ได้รับการเลือกตั้งต่อเนื่องอีก 4 สมัย แม้จะเป็นฝ่ายค้านเป็นส่วนใหญ่ แต่ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และมีส่วนร่วมกับทีมประชาธิปัตย์ทุกครั้งที่มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษคือนายชวน หลีกภัย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่คอยสนับสนุนและให้คำปรึกษามาตลอด ที่ขาดไม่ได้คือนายถาวร เสนเนียม ที่คอยช่วยกันดูแลพยานปากสำคัญให้ระหว่างสู้คดี ไม่เคยลืมบุญคุณบุคคลคนเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ และพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้ง ที่ให้โอกาสมาทำงาน ไม่เคยคิดว่าวันนี้จะมาถึง ตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปี คิดเสมอว่าที่นี่คือบ้านเดียวและบ้านหลังสุดท้าย

ชี้คนคุมพรรคอุดมการณ์เปลี่ยน

นายศิริโชคระบุอีกว่า แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ในปัจจุบัน มีอุดมการณ์ที่ต่างไปจากอดีตมาก จึงจำใจต้องเดินจากไป แม้จะอาลัยอาวรณ์ต่อพรรคมากก็ตาม เพราะเชื่อเสมอว่านักการเมืองต้องมีสัจจะวาจา และอุดมการณ์ที่ต้องรักษา หากปราศจากทั้งสองสิ่งนี้ ก็เป็นได้แค่นักเลือกตั้ง ยังหวังแม้จะเป็นความหวังอันน้อยๆ ว่าสักวันพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง พร้อมกับอุดมการณ์ที่มั่นคง และเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนได้

นายศิริโชคให้สัมภาษณ์สั้นๆว่า ยื่นแสดงเจตจำนงลาออกจากพรรคแล้ว อุดมการณ์ของคนเปลี่ยนไป แต่ตนยังยึดมั่นอุดมการณ์ของพรรค จึงขอลาออกจากพรรคดีกว่า และยังไม่สมัครเข้าสังกัดพรรคการเมืองใด รอดูความเป็นไปสักระยะ เพราะยังมีความหวังยังมีคนที่ยึดมั่นต่ออุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์เช่นเดียวกับตนอีกมาก

“เดียร์” ฉะก้าวข้ามหัวประชาชน

น.ส.วทันยา บุนนาค สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟสบุ๊กระบุว่า “ก้าวข้ามความขัดแย้ง หรือก้าวข้ามหัวประชาชน?” การร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ที่อ้างว่าคนรุ่นนี้ไม่รับมรดกความขัดแย้งของรุ่นก่อนหน้า ฟังดูเป็นการตัดตอนอย่างง่าย เพื่อให้ได้มาซึ่งความชอบธรรมในการขึ้นสู่อำนาจหรือไม่ แท้จริงแล้วภาพความขัดแย้งที่ผู้บริหารชุดนี้เหมารวม คือการทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลของพรรคอย่างเต็มกำลังมาทุกยุคทุกสมัย ไม่อ่อนข้อหรือล้มมวยเพื่อเห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์ต่างตอบแทน ผู้แทนประชาชนที่ดีต้องกล้า...ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง และกล้า...ต่อสู้กับความไม่ชอบธรรม เมื่อขัดแย้งกับประโยชน์ส่วนรวม ให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ ไม่ใช่การเข้ามาทำหน้าที่เพื่อสู้รบ หรือรักกับใครเพราะการแบ่งผลประโยชน์ส่วนตนลงตัว”

“ชัยชนะ” ป้อง 3 อดีตหัวหน้า ปชป.

นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่กล่าวพาดพิงอดีตหัวหน้าพรรค ปชป. 3 คนเป็นไม้แก่ดัดยากว่า เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง มารยาทในการร่วมรัฐบาลกันคือเราต้องไม่วิจารณ์กัน เพราะทั้ง 3 คน เป็นคนที่พรรค ปชป.ให้ความเคารพ และไม่ใช่ไม้แก่แต่เป็นไม้บรรทัดเหล็กที่มีความเที่ยงตรงในการทำงาน การจะอยู่ด้วยกันต้องทำความเข้าใจกัน และต้องยอมรับพรรค ปชป. เรามีหลากหลายความเห็น เมื่อมีมติออกมาเช่นไรเรายึดมติพรรคเป็นหลัก ประเทศต้องเดินหน้าไปด้วยปราศจากความขัดแย้ง หากเรายังยึดติดยืนอยู่กับความขัดแย้งในอดีต ประเทศจะเดินหน้าไม่ได้ “วันนี้อย่าพูดเรื่องสีเสื้อเลยว่าสีนั้นผสมกับสีนี้ สีนี้ผสมกับสีนั้น วันที่คุณผสมกันเองเรายังไม่พูด ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ร่วมกับพรรคการเมืองหนึ่งเหมือนกันการจัดตั้งรัฐบาลไม่มีสูตรสำเร็จ”

“เฉลิมชัย” ปัดตอบเลือดเก่าไหล

ช่วงบ่ายที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม กก.บห.พรรค และ สส.พรรค เพื่อพิจารณาการร่วมรัฐบาล รวมถึงการเสนอชื่อบุคคลดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถึงกรณีนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา ลาออกจากสมาชิกพรรค อาจส่งผลให้เลือดเก่าไหลออกจนหมดว่า ถ้ามีโอกาสให้ไปถามเจ้าตัวด้วยว่าตัดสินใจแบบนั้นเพราะอะไร เมื่อถามว่านายศิริโชคได้แจ้งก่อนลาออกหรือไม่ นายเฉลิมชัยตอบว่า เป็นเสรีภาพส่วนตัว ยืนยันว่าพรรคจะพิจารณาการเข้าร่วมรัฐบาลตามเทียบเชิญของพรรคเพื่อไทย ให้ได้ข้อสรุปในวันนี้แน่นอน

“เดชอิศม์” หยันคิดว่าไปนานแล้ว

นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ปชป. กล่าวว่า วันนี้จะทราบผลการประชุมเรื่องตอบรับเข้าร่วมรัฐบาล ส่วนการลาออกของนายศิริโชค โสภา อดีตสส.สงขลา คิดว่าลาออกไปนานหลายเดือนแล้ว เมื่อถามถึงความกังวลที่นายกฯอาจมีความผิดด้านจริยธรรม นายเดชอิศม์ตอบว่า ไม่กังวลอะไร อย่าไปกลัวทุกอย่าง เพราะจะทำอะไรไม่ได้ เราต้องกล้าคิดเปลี่ยนแปลง เราต้องยอมรับว่าพรรคเราแพ้เลือกตั้ง คะแนนลดมาตลอด อะไรที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นต้องทำ มั่นใจว่าจะได้ สส.เพิ่มขึ้น ทุกอย่างต้องประเมินทุกฝ่าย 360 องศา เมื่อถามว่าการไม่ชนะเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย จึงต้องเข้าร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ตอบว่า ไม่ใช่แบบนั้น เราสู้กันมาเราแพ้ ใครอยากให้เกิดสงครามบ้าง การทะเลาะขัดแย้งกันไม่เกิดประโยชน์กับใคร อยากมานับหนึ่งกันใหม่ ใครผิดก็ว่าไปตามผิด

“ชวน” ย้ำอีกไม่ทรยศประชาชน

ด้านนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่คิดว่าการประชุมวันนี้จะมีผลเปลี่ยนแปลงอะไร แสดงเหตุผลชัดเจนแล้วว่าไม่เห็นด้วยตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ข้อขัดแย้งส่วนตัว แต่เป็นเหตุผลที่ในอดีตเคยรณรงค์ไม่ให้ประชาชนภาคใต้เลือกพรรคไทยรักไทยที่เลือกปฏิบัติ ทำให้คนภาคใต้เสียโอกาส จึงไม่ทรยศชาวบ้าน ต้องรักษาจุดยืนนี้ คือเมื่อเลือกปฏิบัติกับเราเราก็อย่าไปเลือกเขา ยืนยันว่าไม่มีเรื่องขัดแย้งส่วนตัว

“จุรินทร์” ชี้ระบอบ “ทักษิณ” ยังอยู่

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า หากมีการขอมติจะไม่เห็นชอบให้เข้าร่วมรัฐบาล อย่างน้อยที่สุดไม่เอาระบอบทักษิณ ไม่ใช่เรื่องอดีตเมื่อ 20 ปีก่อน แต่เป็นระบอบที่ยังอยู่ในปัจจุบัน สถานการณ์ปัจจุบันประชาชนหวังพึ่งพรรค ปชป.ทำหน้าที่ฝ่ายค้านเป็นปากเสียง ตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน พรรคต้องมีศักดิ์ศรี ต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี หมายถึงอุดมการณ์ ความซื่อสัตย์สุจริต อะไรที่ตรงข้ามไม่ควรไปร่วมจับมือ หรือไปทำอะไรด้วย ถ้าไม่มีอุดมการณ์ก็ไม่มีความเป็นประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าหากมติพรรคให้เข้าร่วมรัฐบาล 4 สส.เสียงข้างน้อยจะทำอย่างไร นายจุรินทร์ตอบว่า เป็นเรื่องที่พวกเราทราบ อย่างน้อยตนคนหนึ่งทราบว่าต้องทำอย่างไรต่อไปในฐานะ สส. เราต้องตอบแทนบุญคุณประชาชนที่เลือกเรามา

ป้ายประจานโผล่ “สนองตัณหา”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุม กก.บห.พรรค ได้มีป้ายปริศนาถูกนำมาวางไว้หน้าอาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อาคารที่ใช้ประชุม พร้อมระบุข้อความว่า “เพียงเพื่อสนองตัณหาของคนสองสามคน เราจะยอมคบคนชั่วเป็นมิตรโดยไม่รู้จักแยกดี แยกชั่ว เลยหรือ” กระทั่งเวลา 17.30 น. เริ่มการประชุม กก.บห.พรรค มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค เพื่อพิจารณาวาระสำคัญคือการเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ มี กก.บห.มีทั้งหมด 38 คน แต่มาประชุม 35 คน ขาดไป 3 คน ที่ลาประชุมเนื่องจากติดภารกิจคือ น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองหัวหน้าพรรค นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ กก.บห. และนายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรค ขณะที่นายชนินทร์โพสต์เฟซบุ๊กแสดงจุดยืนว่า “ไม่สนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล”

มติเอกฉันท์ 34 เสียงร่วมรัฐบาลเพื่อไทย

ทั้งนี้ ที่ประชุม กก.บห.พรรค ปชป. มีมติเป็นเอกฉันท์ 34 เสียง ให้ส่งเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาล เข้าสู่ที่ประชุมร่วมของ กก.บห.และสส. เพื่อพิจารณาในเวลา 19.30 น. โดย กก.บห.หลายคนแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง อาทิ มองว่าการเข้าไปเป็นรัฐบาลคุ้มหรือไม่ เพราะมีการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองรัฐบาลนี้ว่าอาจอยู่ไม่ยาว การเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ไม่คุ้มค่ากับการต้องแลกด้วยจุดยืนและมวลชนของพรรค และเมื่อเข้าไปร่วมรัฐบาลแล้วต้องทำงานเต็มที่ แต่อาจถูกรวมผลงานไปเป็นผลงานของพรรคแกนนำรัฐบาล ขณะที่การทำหน้าที่ฝ่ายค้านในเวลานี้ก็ไม่เต็มที่ เพราะเสนอประเด็นต่างๆไป พรรคแกนนำฝ่ายค้านก็ไม่เห็นด้วย ในที่สุดที่ประชุมลงมติเอกฉันท์ 34 เสียงเห็นด้วยกับการร่วมรัฐบาล ส่วนนายเฉลิมชัยไม่ลงคะแนนตามข้อบังคับพรรค พร้อมกันนี้มีการเสนอชื่อนายเฉลิมชัยและนายเดชอิศม์เป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนพรรค ปชป.

“เสรีพิศุทธ์” ยกเหตุน้อยใจถอนตัว

ที่พรรคเสรีรวมไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงจุดยืนถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่า พรรคเสรีรวมไทยทำหน้าที่พรรคร่วมรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อไม่มีโอกาสก็ขอไปทำงานด้านอื่น ที่ผ่านมานายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ตั้งนักโทษเป็นรัฐมนตรี แต่ปัจจุบันนักโทษมาตั้งรัฐมนตรีเอง จะอยู่ร่วมกันต่อไปอย่างไร จึงประชุม กก.บห.พรรค เมื่อวันที่ 27 ส.ค. มีมติ 7 ต่อ 4 เสียง ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ได้แจ้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ผ่านนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยแล้ว จะได้เป็นอิสระทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาอึดอัดต้องยอมให้เขาเหยียบตลอดเวลา โกหกใครไม่เป็น ยอมรับน้อยใจคือเหตุผลถอนตัว วันที่ไปประชุมพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ ได้พูดแดกดันว่าพรรคเสรีรวมไทยรับใช้พรรคเพื่อไทยมาทั้งชีวิตแล้ว เผื่อมีโอกาสได้ทำงานบ้าง แต่ยังมีปัญหา เช่น เรื่องตำรวจที่รองนายกฯ และรักษาการนายกฯ บอกขอดูแลงานเอง การดูแลตำรวจไม่ใช่แค่แต่งตั้ง ผบ.ตร.คนของตัวเองเท่านั้น ต้องปฏิรูปการทำงาน พรรคเพื่อไทยไม่เคยคิดทำงานให้ตำรวจ คิดแต่จะคุมแต่งตั้ง ผบ.ตร.

ช่วยงานมาตลอดแต่ไม่เห็นค่า

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวต่อว่า สมัยเป็น ผบ.ตร. เคยมีนักการเมืองใหญ่ๆ หลายคน มาขอให้แต่งตั้งผู้กำกับ มาขอตำแหน่งผู้การ ก็ให้หมด แต่ไม่เคยได้รับการตอบแทนจากคนเหล่านี้ ช่วงที่นายทักษิณชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่ต่างประเทศ 17 ปี เคยไปเยี่ยม 5 ครั้ง ช่วงหลังเลือกตั้งปี 2562 ที่ได้เป็นประธาน กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ตอนนั้นพรรคเพื่อไทยมีอะไรขอตนหมด แต่เลือกตั้งเสร็จตนมีเสียงเดียว เอาไปเทียบกับพรรค 1 เสียงอื่นๆ ได้อย่างไร รู้จักมา 51 ปี เมื่อเขาไม่รู้จัก ถอนตัวดีกว่า เมื่อถามว่านายทักษิณรับปากจะให้ตำแหน่งหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า พูดกับตนไม่รู้กี่ครั้งว่าเป็นหนี้บุญคุณ พูดเป็นพันครั้งต้องชดใช้ แต่ก็เฉย ตอนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลบอกต้องตอบแทนแต่เฉย แม้การตั้งรัฐบาลเป็นอำนาจนายกฯแต่ลืมตนทุกที พรรคอื่นเข้ามาหวังประโยชน์ แต่ตนเข้ามาทำงาน หลังเกิดปัญหานายทักษิณไม่โทร.มาหา พรรคเพื่อไทยก็ไม่ว่าอะไร

หลักฐานแชตไลน์พบ “นายใหญ่”

“ยืนยันเคยไปเยี่ยมนายทักษิณ 2 ครั้ง ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ มีหลักฐานเป็นข้อความสนทนาในแชตไลน์ระหว่างตัวแทนนายทักษิณกับผม นัดวันเวลาให้เข้าพบ ครั้งแรกพบกันเดือน พ.ย.2566 ครั้งที่ 2 ตัวแทนนายทักษิณส่งแบบฟอร์มขอให้ถอนคำฟ้องที่ฟ้องนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ต่อ ป.ป.ช. มาให้ลงนาม พร้อมนัดเวลาเข้าพบอีกครั้งวันที่ 4 ก.พ.2567 เวลา 10.00 น. มีหลักฐานไปพบจริง แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อตัวแทนนายทักษิณ รวมถึงอาการนายทักษิณในขณะนั้น ขอชี้แจงทีละสเต็ป ไม่อยากปล่อยข้อมูลหมดว่าคุยอะไรบ้าง ตอนนี้หันหลังให้นายทักษิณ ถือว่าหมดเวลาแล้ว ขอตัดสัมพันธ์นายทักษิณ คบมา 51 ปีทำได้แค่นี้ จะคบต่อทำไม หลังจากนี้รอดู ป.ป.ช.จะเชิญผมไปให้ข้อมูลหรือไม่ บอกเลยต้องติดคุกกันทั้งหมด ตั้งแต่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผบ.เรือนจำฯ และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว

ทายรัฐบาลใหม่อายุสั้นไม่ถึงปี

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เรื่องการครอบงำพรรคเพื่อไทย สื่อก็รู้ไม่เห็นต้องถาม เชื่อว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธาร คงอยู่ได้ไม่ถึงปีสั้นกว่านายเศรษฐา จะตายด้วยเรื่องนายทักษิณ รวมถึงคดี น.ส.แพทองธารเอง เมื่อถามว่าประเมินว่า พล.อ.ประวิตร จะเดินเกมแก้แค้นนายทักษิณอย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า ต้องแก้แค้นเต็มที่ แต่ พล.อ.ประวิตรคงสู้ไม่ได้ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคตระบัดสัตย์ หลังเลือกตั้งปี 2562 ก็ตระบัดสัตย์ไปร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้มี สส.ลดลง ส่วนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยบอกถ้าพรรคแพ้เลือกตั้งปี 2566 จะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต แต่ไม่เลิก ตระบัดสัตย์หรือไม่ ทั้งที่พูดต่อที่สาธารณะ ถามว่าผิดจริยธรรมหรือไม่ มองว่าผิด แต่ศาลรัฐธรรมนูญต้องเป็นผู้ตัดสิน พล.อ.ประยุทธ์ยังมีสัจจะดีกว่า

“ธรรมนัส” พบ “อิ๊งค์” คุยปัญหานํ้า

ช่วงเที่ยงที่อาคารชินวัตร 3 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทักทายสื่อมวลชนอารมณ์ดี แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กล่าวเพียงว่า “เอาไว้พรุ่งนี้นะสัมภาษณ์ พรุ่งนี้นะเรื่องการเมือง” ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เข้าพบเพื่อรายงานสถานการณ์น้ำ เพราะวันที่ 30 ส.ค. น.ส.แพทองธารมีกำหนดลงพื้นที่ จ.สุโขทัย เยี่ยมเยียนให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัย จุดแรกจะมอบถุงยังชีพที่ ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก จากนั้นไปที่ ต.วังทอง-วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง ต่อด้วยติดตามสถานการณ์ตลิ่งทรุดตัวที่ ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย และไปมอบถุงยังชีพที่ ต.ยางซ้าย อ.เมืองสุโขทัย และเดินทางกลับ กทม.

“ภูมิธรรม” ย้ำเห็นโฉม รบ.กลาง ก.ย.

นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำบัญชีรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า อยู่ในกระบวนการ แต่ละคนแต่ละพรรคอยากเสนอใครก็ให้เสนอ ไม่มั่นใจก็เสนอมาหลายคนได้ เพราะการตรวจสอบตอนนี้พิเศษตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ยื่นได้หมดยิ่งมากยิ่งดี ติดขัดตรงไหนจะได้จัดตรงนั้น เมื่อถามว่ากระบวนการตรวจสอบใกล้เสร็จหรือยัง นายภูมิธรรมตอบว่า ตอบตัวเลขจริงๆไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และพบอะไรอย่างไร แต่ถ้าไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคคาดว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ประมาณกลางเดือน ก.ย. และต้องรอโปรดเกล้าฯลงมาก่อน ทุกอย่างเราได้เตรียมการไว้หมดแล้ว ทั้งการแถลงนโยบาย การเข้าถวายสัตย์ฯ

รวบรวมเสียงหนุนได้ 300 นิดๆ

เมื่อถามว่าสรุปได้หรือยังว่าพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองจะมาร่วมรัฐบาลกี่พรรคกี่กลุ่ม นายภูมิธรรมตอบว่า อย่างที่เห็นครบทั้งหมดที่ว่ามา ยกเว้นพรรค พปชร.ที่ประกาศออกไปแล้ว เสียงที่รวบรวมได้ขณะนี้อยู่ที่ 300 กว่านิดๆ เมื่อถามว่าเลขาธิการพรรคเพื่อไทยประสานมายังกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เราทำตามกระบวนการ ที่ว่าคนนี้อยู่ตรงนั้นคนนั้นอยู่ตรงนี้ ไม่ทราบว่าข้อมูลจากไหน ความชัดเจนจะมีต่อเมื่อมีการโปรดเกล้าฯลงมา และเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ วันนี้ยังไม่มีใครรู้เลยเก้าอี้ของใครเป็นใคร แม้แต่ตนเองยังไม่รู้เลยว่าเป็นอย่างไร รอให้ออกมาก่อน

ไม่หวั่นนักร้องแต่ต้องมีกฎคุม

ผู้สื่อข่าวถามว่าเสถียรภาพรัฐบาลดูเหมือนไม่แน่น ยังหลวมๆ นายภูมิธรรมตอบว่า ตรงกันข้าม แน่นมากเลยตอนนี้ การตั้ง ครม.ทุกครั้งมีมามีไป และมีไปมีมา มีหลวมมีแน่นตลอด พวกเราตัดสินใจเข้ามาแล้วเราพร้อมทำงานไม่กลัวเหนื่อย เราพยายามทำหน้าที่ให้ได้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนสบายใจ ส่วนพวกนักร้องเป็นสิ่งที่ควบคู่กับการเมืองไทย อยากร้องก็ร้อง ร้องให้ถูกต้องก็ร้องไป เรามั่นใจในตัวเราเองว่าการทำงานอิงข้อกฎหมาย คิดว่าประชาชนต้องช่วยดูอย่าปล่อยให้มีการร้องโดยที่ไม่มีสาระ หรือไม่มีหลักกฎหมายหรือข้อเท็จจริง ไม่เช่นนั้นจะบั่นทอนการทำงาน ร้องแล้วร้องอีกร้องไปร้องมา คิดว่าสาธารณชนเห็นทราบอยู่แล้ว ให้ว่ากันไป เรายินดีเข้าตามกระบวนการ ถ้าบอกมาก็ไปตามกระบวนการ จริงๆน่าจะมีกฎหมาย มันไม่ควรเปิดให้มีโอกาสนำเงื่อนไขนี้มาร้องเรียนเรื่อยๆ ที่ไม่มีเหตุมีผลมีหลักฐานที่เพียงพอ คิดว่าน่าจะมีการทบทวน

ฝาก พปชร.เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว

เมื่อถามว่าห่วงว่าพลังประชารัฐจะเอาคืนหรือไม่หลังจากที่ไม่เอาร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรมตอบว่า เราเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว วันนี้ประเทศชาติเป็นเรื่องสำคัญ ว่ากันไปตามนี้ อย่าให้กระทบกระเทือนกับการบริหารราชการที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชน

ป.ป.ช.ส่งข้อมูลว่าที่ รมต.ติดคดี

ขณะที่นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกระแสข่าวว่าที่รัฐมนตรีบางคนมีคดีใน ป.ป.ช.ว่า ก่อนหน้านี้มีการส่งรายชื่อบุคคลที่ถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาสอบถาม ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบว่ามีคดีใน ป.ป.ช.หรือไม่ และ ป.ป.ช.ได้ส่งข้อมูลกลับไปให้แล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยมีรายชื่อใครบ้าง เรื่องมาตรฐานจริยธรรมที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทำให้การตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีครั้งนี้เข้มข้นนั้น เป็นหน้าที่ผู้มีอำนาจแต่งตั้ง ไม่เกี่ยวกับ ป.ป.ช. ตามกฎหมาย ป.ป.ช. แม้จะถูกร้องเรียนมีการกล่าวหา แต่หากยังไม่ชี้มูลความผิด ยังถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนตัวมองว่าหากตีความคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแค่ถูกไต่สวน หรืออัยการสั่งฟ้องแล้วไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ ข้าราชการ นักการเมือง สส. สว. คงหมดโอกาสกันหมดถ้าจะใช้มาตรฐานนั้น

ปชน.ขอถอนร่างปิดสวิตช์ สว.

อีกเรื่องที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ระหว่างการประชุมนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ได้เสนอต่อที่ประชุมขอถอนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ยกเลิกมาตรา 272 ว่าด้วยการให้ สว.มีอำนาจเลือกนายกฯ ที่อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลและคณะเป็นผู้เสนอ เพราะมาตรา 272 ได้สิ้นสภาพไปแล้ว โดยนายวันมูหะมัด นอร์กล่าวว่า เมื่อไม่มีผู้ใดขัดข้อง ถือว่าที่ประชุมอนุญาตให้ถอนออกไปได้

นายกฯเวียดนามโทร.ยินดี “อิ๊งค์”

เมื่อเวลา 15.15 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความผ่าน X หลังรับโทรศัพท์จากนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ที่โทร.มาแสดงความยินดีในโอกาสรับตำแหน่งนายกฯว่า ตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับนายกฯเวียดนามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุนเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของ 2 ประเทศ ส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกัน นายกฯเวียดนามยินดีต่อยอดพัฒนาความสัมพันธ์ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค และเชิญไปเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในโอกาสแรก

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่