“ธรรมนัส” แย้มศุกร์ที่ 30 ส.ค.นี้ ชัด พรรคไหนร่วมรัฐบาล ชี้ นายกฯ มีอำนาจสูงสุดตั้งใครเป็นรัฐมนตรี กร้าวไม่ออกจากพรรค ไม่ยุ่งกับใคร แต่หากใครมาก้าวล่วงพร้อมสวนกลับ เปรย อยู่การเมืองมาจนอิ่มตัวแล้ว


เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 27 สิงหาคม 2567 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงรายชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐที่ดูเหมือนยังไม่มีความชัดเจน ว่า วันที่มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ตนไม่ได้มีส่วนร่วมในการนำเสนอรายชื่อรัฐมนตรีในที่ประชุม ฉะนั้น ข้อสรุปของพรรคพลังประชารัฐที่ได้มีมติตามที่สื่อมวลชนได้รับทราบแล้ว แต่ตนไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมอะไร

ผู้สื่อข่าวถามต่อ บัญชีรายชื่อรัฐมนตรีที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่ามีการเสนอบุคคลในฝั่ง ร.อ.ธรรมนัส ไม่มีใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ตนไม่เคยเสนอบัญชีใดให้ใครเป็นรัฐมนตรี ส่วนคำถามว่ายังคงทำหน้าที่ประสานงานระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า วันนี้ตนยังทำหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานงานเรื่องของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหลัก

...


ทั้งนี้ ถ้าจะเป็นรัฐมนตรีในส่วนพรรคพลังประชารัฐจะต้องยึด 4 รายชื่อที่พรรคแถลงเท่านั้นใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราต้องดูทางแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเป็นหลัก แต่ละพรรคต้องเคารพและให้เกียรติพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และอำนาจที่จะรับบุคคลใดร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี เมื่อถามอีกว่าในส่วนของ ร.อ.ธรรมนัส ได้กรอกประวัติเรียบร้อยแล้วหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส เผยว่า ตนไม่ได้เสนอตัวเอง นั่นเป็นเรื่องของพรรค ขณะที่คำถามย้ำว่าที่มีการแจ้งให้กรอกประวัติ ร.อ.ธรรมนัส ได้กรอกหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า กรอกหรือไม่กรอกเป็นหน้าที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เราไปก้าวล่วงเขาไม่ได้


ผู้สื่อข่าวถามต่อไป เห็นทาง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐไม่ได้รับการแจ้งให้กรอกประวัติ ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า อย่าไปพูดถึงบุคคลภายนอก ถ้าเป็นเรื่องของตนตอบได้ แต่ถ้าเรื่องคนอื่นตนตอบไม่ได้ ส่วนกรณีที่มีชื่อ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม และนายอัครา พรหมเผ่า น้องชาย ร.อ.ธรรมนัส มาเป็นรัฐมนตรี ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส ตอบสั้นๆ ว่าไม่ทราบ


ทางด้านคำถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ พรรคแกนนำรัฐบาลจะไม่รับรายชื่อในส่วนของพรรคน้องชาย ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า อันนี้เราตอบแทนไม่ได้ ตนคิดว่าภายในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ จะรู้ผลแล้วว่าพรรคไหนร่วม ไม่ร่วม เดี๋ยวพรรคเพื่อไทย (พท.) คงแสดงจุดยืนที่ชัดเจน เมื่อถามอีกว่าถ้าเป็นลักษณะของการเสนอชื่อบุคคลภายนอกมาเป็นรัฐมนตรีได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะเอาคนที่มีความรู้ความสามารถที่จะบริหารบ้านเมืองได้มาเป็น ผู้สื่อข่าวถามต่อ แสดงว่าข้อกฎหมายที่พรรคพลังประชารัฐงัดขึ้นมา ท้ายที่สุดจะเป็นอำนาจสูงสุดของนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส บอก ต้องดูว่าพรรคร่วมรัฐบาลเชิญพรรคพลังประชารัฐมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ บางครั้งการแถลงหรืออะไรก็ตาม เหมือนรัฐบาลชุดที่แล้วแถลงหลายรอบ ท้ายสุดก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่แถลง

ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ที่แกนนำรัฐบาลจะเอาแค่ นายอรรถกร ศิริลัทยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพียงคนเดียว และคนนอก ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คนนอกไม่ทราบ แต่นายอรรถกร ก็ไม่ทราบเหมือนกัน เมื่อถามว่าจะยังคลุมเครือไปแบบนี้อีกนานหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า คงไม่เกินวันที่ 30 สิงหาคม ก็คงจบ เหมือนกับที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีระบุ

ขณะที่ตั้งแต่ประกาศอิสรภาพมายังไม่เคยคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่างที่เห็นตนอยู่ จ.พะเยา จ.เชียงราย จ.สุโขทัย และกำลังจะไป จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดูแลเรื่องน้ำ เมื่อถามย้ำว่า หากแกนนำรัฐบาลไม่เอาพรรคพลังประชารัฐจะเป็นอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส ตอบในเรื่องนี้ว่า “ผมอยู่การเมืองมาจนอิ่มตัวแล้ว ในชีวิตตนโตมาจากอีกอย่างหนึ่ง ไม่ได้โตมาจากสายการเมือง” ต่อข้อคำถาม แสดงว่าจะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อไปจนกว่าจะออกจากพรรคใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า “ก็อยู่ไปอย่างนี้ เราก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ผมก็ไม่ก้าวล่วงใคร แต่ถ้าใครก้าวล่วงผม ผมก็สวนกลับ เป็นหลักการ”

เมื่อถามย้ำว่าง่ายๆ คือ รอวันออกใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ไม่ครับ ผมอยู่อย่างนี้ ผมมีมารยาท และผมไม่ยุ่งกับใคร ไม่ก้าวล่วงใคร แต่ถ้าใครมาก้าวล่วงผม ผมสวนกลับ หลักการของผมมีแค่นี้” ผู้สื่อข่าวถามถึงคำที่ระบุว่าอิ่มตัวทางการเมืองแล้ว หมายความว่าจะเปิดโอกาสให้คนใกล้ชิดเข้ามาเป็นรัฐมนตรีใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส เผยว่า “อิ่มตัวคือเบื่อแล้วการเมือง”