ไม่ยอมให้ดูถูกภูมิปัญญาง่ายๆ ประชาชนแกล้งเซ่อไม่เป็น
ตามอารมณ์สังคมที่สะท้อนผ่าน “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดผลสำรวจความคิดเห็นคนไทยส่วนใหญ่ ตัวเลขสูงถึงร้อยละ 59 ฟันธง “เป็นไปไม่ได้เลย”
กับสถานภาพที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะบริหารประเทศโดยปราศจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนาน
ชาวบ้านเชื่อโดยสนิทใจไปแล้วว่า รัฐบาล “นายกฯสองพ่อลูก”
และนั่นก็อาจตรงกับความต้องการของ “เถ้าแก่ใหญ่” ที่ถือ “ใบบริสุทธิ์” พ้นพันธนาการจองจำโดนล็อกอยู่ข้างหลัง ออกมาหน้าฉาก เล่นบทพยัคฆ์ติดปีกเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
ยกระดับความเป็น “ตัวจริงเสียงจริง” ในเกมอำนาจ “ลักลั่น”
นับตั้งแต่ช็อตส่งสัญญาณเรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเข้าคฤหาสน์จันทร์ส่องหล้า ล็อกคิวหามแห่ลูกสาวหัวโปรดขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรี
เล่นเร็ว มาไว เคลมไว ด้วยพลังของผู้ทรงอิทธิพลเบอร์หนึ่งการเมืองไทย “เถ้าแก่ใหญ่” นั่งหัวโต๊ะ จัดการ “เกลี่ยเค้ก” เปลี่ยนพินัยกรรม แบ่งสมบัติกันใหม่ ในการฟอร์มคณะรัฐมนตรี จัดทีม “ครม.อิ๊งค์ 1” ภายใต้นิยาม “สามัคคี” แบบฉบับ “ทักษิณ”
โดยยุทธการหักดิบ “คนในป่า” เดินหน้าไล่รื้อนั่งร้าน เวนคืนพื้นที่มรดก
อำนาจของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ ประกาศไม่ให้มีนามสกุล “วงษ์สุวรรณ” อยู่ใน ครม.
ทวงแค้น “ลุงป้อม” แบบที่หงุดหงิดก็ “หยุมหัว” ระบายอารมณ์ไม่ได้
...
อารมณ์เดียวกับการทะลวงอก “ปรมาจารย์ชวน หลีกภัย” ด้วยการใช้เหยื่อล่อเสือหิวเสือโหย พิชิต “ศัตรูคู่อาฆาต” อย่างพรรคประชาธิปัตย์ให้หมอบราบคาบตรงหน้า
“ศิโรราบ” ขอแค่ได้โหนขบวนร่วมรัฐบาล เลิกอดอยากปากแห้ง
นั่นไม่เท่ากับการ “หักหน้า” ขบวนการสลิ่มอย่างแรง กับการยั่วยวนกิเลส ล่อ “เสี่ยขิง” นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการค่ายรวมไทยสร้างชาติ “ลูกเลี้ยง” คนโปรดของ “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขาใหญ่ก๊วน กปปส. ลุ้นเปิดซิงนั่งแท่นรัฐมนตรี
แต่ต้องแลกกับการเสียฟอร์มเสียหน้า อารมณ์ของ “ลุงกำนัน” ยังต้องยอมสยบ รับสภาพผู้ปราชัยให้ “นายใหญ่” เพื่อแลกกับเก้าอี้รัฐมนตรีให้ลูกเลี้ยง
“ทักษิณ” ผู้ลั่นวาจาให้อภัย ไม่คิดแก้แค้น
แต่เอาคืนศัตรูคู่อาฆาตแบบสาแก่ใจ สะใจกองเชียร์ “นายใหญ่”
เกมแสบลึก ยุทธการย้อนเกล็ดอำนาจขั้นสุดยอดแบบนี้ ยากที่ “นายกฯมือใหม่หัดขับ” จะทำได้โดยลำพัง ถ้าไม่มี “อดีตนายกฯคนพ่อ” ประกบสั่งเกม
ตามฟอร์ม “ตัวพ่อ” เดินหมากการเมืองแบบโคตรเซียนเหนือเซียน
ยังไม่นับการซีน “เถ้าแก่ใหญ่” อัดอั้นมานาน ประเดิมเวทีแรกหลังร้างไป 18 ปี โชว์วิชันไทยแลนด์ 2024
เปิดวิสัยทัศน์เชิงบริหาร โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจตามฟอร์มเคลมตีกินบุญเก่า ยุคอดีตไทยรักไทยรุ่งเรือง
ถูกตีความเป็นคิวแถลงนโยบายรัฐบาลล่วงหน้า พ่อชิงพูดหมด แทบไม่เหลือให้ลูกสาวโชว์
“ทักษิณ” คนเดิม เพิ่มเติมคือรอยตีนกา อาการฮึกเหิมไม่แผ่ว ประกาศกร้าวแบบไม่สนเสียงวิจารณ์ ยืนยันไม่ได้ “ครอบงำ” ผู้นำประเทศ แต่เป็น “ผู้ครอบครอง” นายกฯคนสุดท้องตระกูลชิน ในฐานะพ่อที่ถ่ายทอด “ดีเอ็นเอ” ให้ลูกสาวคนโปรด แทบจะ “โคลนนิ่ง” เป็นคนคนเดียวกัน
และก็ตามเกม เมื่อฮึกเหิมเกินเบอร์ ก็ต้องเจอกับยุทธการดักเจาะยาง ขบวนการโรยตะปูเรือใบซุ่มเต็ม 2 ข้างทาง อย่างที่ไม่มีควันโชย อยู่ๆก็โผล่มา
ปรากฏการณ์ “ผู้ร้องนิรนาม” ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการยุบพรรคเพื่อไทย จากการที่ปล่อยให้คนนอกอย่างนายทักษิณแทรกแซง ครอบงำผ่านนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ในการแต่งตั้งรัฐมนตรี รวมทั้งอีกหลายกรณีที่มีการยอมรับถูกบันทึกเป็น “ดิจิทัลฟุตพรินต์”
เค้าลางคลับคล้ายคดียุบพรรคก้าวไกล ตามรอยปมร้อนถอดถอนอดีตนายกฯเศรษฐา
จุดกระแส “อุ่นเตา” แล้วที่สุดก็โดนเผาจริงๆ.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม