สวนดุสิตโพล เผย คนส่วนใหญ่อยากให้ ครม.ชุดใหม่ แก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก มอง ความซื่อสัตย์และจริยธรรมทางการเมือง มีผลมากต่อการคัดเลือกรัฐมนตรี
วันที่ 25 สิงหาคม 2567 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความคาดหวังของประชาชน ต่อ ครม.ชุดใหม่” ระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,164 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม เป็นดังนี้
ประชาชนอยากให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่แก้ปัญหาใดเป็นอันดับแรก (ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง)
- ร้อยละ 74.43 แก้ปัญหาเศรษฐกิจ
- ร้อยละ 73.47 แก้ปัญหาค่าครองชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
- ร้อยละ 56.04 บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมเร่งสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
สิ่งที่ประชาชนคาดหวังมากที่สุดจากการปรับ ครม. ครั้งนี้ (ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง)
- ร้อยละ 70.30 กระทรวงต่างๆ ร่วมมือกันทำงานได้ดีขึ้น
- ร้อยละ 60.19 ได้รัฐมนตรีที่มีความรู้ความสามารถ ประวัติการทำงานโปร่งใส
- ร้อยละ 59.49 นำเสนอนโยบายใหม่ๆ แก้ปัญหาเร่งด่วนของประเทศ
ประชาชนคิดว่า “ความซื่อสัตย์และจริยธรรมทางการเมือง” เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการคัดเลือกคณะรัฐมนตรีชุดใหม่หรือไม่
- ร้อยละ 84.19 มีผลมาก
- ร้อยละ 15.81 ไม่ค่อยมีผล
...
ประชาชนคาดหวังว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ จะส่งผลต่อการทำงานของรัฐบาลอย่างไร
- ร้อยละ 46.39 คาดหวังว่าจะดีขึ้น
- ร้อยละ 38.66 คงจะเหมือนเดิม
- ร้อยละ 14.95 อาจจะแย่ลง
ประชาชนคิดว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ จะส่งผลต่อสถานการณ์บ้านเมืองอย่างไร
- ร้อยละ 30.50 ยังคาดการณ์อะไรไม่ได้
- ร้อยละ 24.14 บ้านเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น
- ร้อยละ 18.38 อาจทำให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น
- ร้อยละ 15.90 บ้านเมืองมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- ร้อยละ 11.08 อาจทำให้เกิดความวุ่นวายบ้าง
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลโพลไม่ว่าจะกี่ครั้งของรัฐบาลนี้ ประชาชนยังคงให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ค่าครองชีพ ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่กระทบต่อชีวิตประจำวัน โดยมีความหวังว่า ครม.ชุดใหม่ จะทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซื่อสัตย์ โปร่งใส เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล แม้ประชาชนจะมีความหวังแต่ก็ยังคงมีความกังวลต่อสถานการณ์บ้านเมืองจะไปในทิศทางใด เนื่องจากยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปหลังจากการปรับ ครม.ครั้งนี้
ทางด้าน ผศ.ดร.เบญจพร พึงไชย ผู้ช่วยคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า การเมืองไทยไม่มีอะไรแน่นอน สามารถพลิกผันได้ตลอดเวลา สิ่งที่ประชาชนต้องการและคาดหวังอย่างยิ่ง คือ ความเชื่อมั่นว่าคนที่เข้ามาบริหารประเทศจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยที่ถดถอยมาอย่างยาวนาน สอดคล้องกับผลสำรวจที่สะท้อนว่า ประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาเรื้อรัง ถึงร้อยละ 74.43 และสิ่งที่ตามมาจากปัญหาเศรษฐกิจ คือปัญหาปากท้องที่ส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้นแต่รายรับกับสวนทาง
สำหรับประเด็นการปรับ ครม.ชุดใหม่นี้ ประชาชนหวังว่าจะช่วยให้การทำงานของรัฐบาลดีขึ้น ย่อมแสดงให้เห็นว่าการคัดเลือกรัฐมนตรีที่จะเข้ามาสานต่อนโยบายการทำงานของรัฐบาลมีผลต่อความมั่นใจของประชาชน ทั้งนี้ ความซื่อสัตย์และจริยธรรมทางการเมืองเป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสำคัญ เพราะการเมืองไทยช่วง 10 ปีที่ผ่านมาล้วนประสบกับปัญหานี้มาโดยตลอด ซึ่งส่งผลต่อความไร้เสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลหรือแม้กระทั่งฝ่ายค้านเอง อย่างไรก็ดี โฉมหน้าของรัฐบาลใหม่ย่อมเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญว่าการเมืองไทยจะหลุดพ้นจากวังวนของปัญหาจริยธรรมนักการเมืองได้หรือไม่.