“ทักษิณ ชินวัตร” หนุนทุ่ม 1.5 แสนล้านบาท สร้าง Entertainment Complex ยันต้องทำรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย หาเสียงแล้วต้องทำให้ได้ จี้เจรจาจีนตั้งฐานการผลิตรถ EV พวงมาลัยขวาในไทย บอกอดีตก็คืออดีต ลั่นโดนมาเยอะเห็นทั้งนรก สวรรค์ ในชาติเดียวกัน จำได้หมดแต่อยากอยู่กับปัจจุบัน

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 22 ส.ค. 2567 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ในงาน Nation TV Dinner Talk : Vision for Thailand 2024 โดย นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวเปิดงาน ว่าเหตุผลที่เชิญนายทักษิณ มาร่วมเวที เพราะเป็นผู้มีประสบการณ์ทั้งภาคธุรกิจ การเมือง เคยรับราชการ เคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย และเคยใช้ชีวิตในต่างแดนถึง 17 ปี จึงเชื่อว่ามิติทางความคิด และถือว่าครบเครื่องในการมาถ่ายทอดวิสัยทัศน์ 

นายทักษิณ ได้กล่าวขอบคุณทางเนชั่นที่ได้เชิญมาร่วมงานนี้ ระบุว่าไปอยู่เมืองนอกมานานถึง 17 ปี เหมือนถูกส่งไปเรียน postdoctoral หรือ นักวิจัยหลังปริญญาเอก ตอนนี้อายุ 75 ปี พอลงเครื่องมาแล้วที่สังเกตดูพบว่าคนไทยไม่ค่อยยิ้มเหมือนเดิม มีหนี้สินเยอะ ทำให้ชีวิตไม่มีความสุข ระหว่างที่ตนเองอยู่ รพ.ตำรวจ ก็ดูข่าว พบว่าคนไทยไปพึ่งสายมูเตลู และสายเร้นลับมากไปหน่อย ต่างจังหวัดลูกก็ติดยา แม่ติดหวย พ่อก็ติดเหล้า ทำให้สังคมเราแย่ลง

พอนั่งรถไปตามหัวเมืองใหญ่ ก็พบว่าบ้านเมืองเราไม่ค่อยสะอาด สถาปัตยกรรมน้อยไปหน่อย และการดูแลความเรียบร้อยของเกาะกลางไม่ค่อยสะอาดเรียบร้อย เพราะการบริหารงานในบ้านเราไม่ค่อยมีเจ้าภาพ ภาครัฐ เอกชน เหมือนต่างคนต่างอยู่ จนลืมนึกไปถึงส่วนรวม นี่คือสิ่งที่ตนเองกังวล จึงอยากเห็นเจ้าภาพเข้ามาดูแล 

...

พร้อมขอวิเคราะห์ปัญหาประเทศเรื่องใหญ่ คือ วันนี้คนไทย ประเทศไทย ติดกับดักหนี้ ทำให้เดินไม่ออก หนี้สินภาครัฐแก้ไม่ยาก หากเพิ่มจีดีพี ขยายฐานภาษี จะทำให้การใช้หนี้ดีขึ้น แต่เรื่องหนี้ของประชาชน พบว่าหนี้ครัวเรือนพุ่ง 90% แล้ว พบว่าเป็นหนี้บ้าน รถยนต์ ซึ่งตนเองไม่อยากเห็นคนไทยถูกยึดบ้าน รถ เรื่องหนี้ต้องปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชน จึงขอฝากการบ้าน เพราะประเทศไทย พบว่ามีเศรษฐกิจใต้ดินถึง 50 % หากดึงขึ้นมาได้จะทำให้จีพีดีประเทศพุ่งสูงขึ้นตาม

ขณะที่เรื่องยาเสพติดวันนี้ก็เยอะมาก จนทำให้คนวัยทำงานเสียหาย เพราะบางส่วนติดยา ที่ไม่สามารถปราบได้เหมือนสมัยตนเอง เพราะฐานการผลิตอยู่ต่างประเทศ ฉะนั้นต้องทำกับดักเอาคนที่ติดยาไปบำบัด และต้องปราบปรามไปด้วย

ส่วนเรื่องการทำมาหากินของไทย พบว่า เริ่มไม่ทันโลก ทั้งอุตสาหกรรม เกษตรกร และเทคโนโลยีที่ประเทศไทยตามไม่ทัน อีกอันที่ตนเองเห็นคือเรื่องตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง Trust & confidence มันหายไป ดังนั้นวันนี้ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้แล้ว เชื่อว่านายกฯ เป็นคนชอบทำงานเป็นทีม จะต้องตามไปไล่แก้  

อีกปัญหา คือค่าใช้จ่ายในประเทศไทยแพงมาก น้ำมันต้องนำเข้า ส่วนไฟฟ้า ก็มีแต่ราคาแพงขึ้น ระบบราชการ ที่ใหญ่เทอะทะ ไม่สนองต่อประชาชน ขณะที่วันนี้โลกกำลังจะมี ซุปเปอร์ intelligent AI ที่เราต้องเตรียมตัว โดยไทยรู้ปัญหาหมด แต่ไม่รู้จุดอ่อนในการแก้ไข คณะรัฐมนตรีต้องเตรียมตัว นายกฯ ก็ต้องเตรียมแก้ปัญหา เพราะทุกปัญหาต้องมีเจ้าภาพ จึงต้องปรับโครงสร้างหนี้ก่อน รัฐมนตรีคลังต้องคุยกับสมาคมธนาคาร และบรรดานักซื้อหนี้ เพื่อให้เดินต่อไปได้ 

เรื่องที่ 2 ก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง ต้องประสานนโยบายกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ เรื่องนโยบายการเงิน ที่แบงก์ชาติดูแล และนโยบายการคลัง ที่กระทรวงการคลังดูแล ที่ต้องไปด้วยกัน โดยต้องเคารพแบงก์ชาติอยู่ 

ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำที่ทราบ ว่ามีคนค้าน เพราะคนไม่เข้าใจว่าคืออะไร บางคนก็ค้านจนลืมไปว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของต้มยำกุ้ง จริงๆ แล้วคือการยิงปืนนัดเดียวได้ นก 3 ตัว แต่ต้องหาความพอดี ให้แบงก์พาณิชย์ใช้ความพยายามในการช่วยเศรษฐกิจบ้าง 

“ทำไมถึงต้องใช้ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ใช้เงินสด เพราะว่าหลังบ้าน ใช้ระบบบล็อกเชน มีการควบคุมพื้นที่ได้ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแม่นยำ และอยากให้คนไทยถึงรากหญ้า ใช้เทคโนโลยีเป็น เพื่อให้เรียนรู้ เพราะจะต้องใช้ต่อไป เพราะเราจะได้ทั้งดิจิทัลไอดี ดิจิทัลแอปฯ รัฐบาลอาจจะออกปอนด์ ขายดิจิทัลวอลเล็ต ที่เราหวังว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยจะเอางบ 1.22 ล้าน และงบกลาง ไปใช้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน แจกให้ไปคนละหมื่น จะกระตุ้นทันทีในเดือนกันยายน พอเดือนตุลาคม คนที่ลงทะเบียนไว้ จะคัดคนว่าซ้ำไหม การใช้ดิจิทัลวอลเล็ตจะแม่นยำ แต่เป็นเงินสดไม่แม่นยำ” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงเรื่องที่ 3 คือ การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม วันนี้เราต้องไปชวนคนเข้ามา ประเทศไทยควรจะเป็นที่ใครอยากจะขายก็เข้ามา เพราะเราไม่มีปัญหาเรื่องจีโอโพลิติก (Geopolitics)

อีกเรื่องที่เป็นปัญหา คือเรื่องรถ EV ของจีน แต่หาทางสายกลางไม่เจอ จึงเสนอให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถ EV พวงมาลัยขวา และต้องทำอย่างไรให้รถยนต์จากจีนมาใช้ที่ไทยบ้าง ต้องเริ่มเจรจากันได้แล้ว รวมถึงเรื่องเจรจาเรื่องดาวเทียมกับจีน ที่เขากำลังจะใช้ 6G เพราะของเดิม ไทยก็มีใช้ในเรื่องพยากรณ์อากาศ  และไทยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ประหยัดและแม่นยำ 


นายทักษิณ ยังกล่าวว่า ต้องสร้าง SME ที่มีเอกลักษณ์ที่สู้กับจีน และต้องดูว่าสินค้าจีนที่เข้ามาถูกต้องตามกฎหมายหรือไหมเพื่อให้เราแข่งขันกับคนอื่นได้ ไม่ถูกเอาเปรียบ ไม่ได้รังเกียจสินค้าจีน แต่ต้องทำให้เท่าเทียม

“อีกเรื่องคือ SME ที่ทุกวันนี้ตาย เพราะทำอะไรเหมือนๆ กัน ไม่มีอะไรที่ unique แถมเจอสินค้าจากจีน คนก็กลัว Temu (เทมู) ทำให้เราแข่งขันไม่ได้ เราต้องแก้ปัญหาให้เป็นโมเดิร์น SME มากขึ้น มีความ unique กว่า และต้องดูว่าสินค้าจีนที่เข้ามาถูกต้องตามกฎหมายไหม”


นายทักษิณ ยังกล่าวถึงเรื่องที่ 4 ยืนยันว่ารัฐบาลนี้เอาแน่เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ จะทำลีกมวย เหมือน ฟีฟ่า เพื่อจะให้มวยไทยมีสแตนดาร์ด ไปแข่งขันกับทั่วโลก รวมถึงเรื่อง อี-สปอร์ต อยากให้จริงจัง หากเกมดีมีคนเล่นเยอะ ตนเองจะให้โทเคน (Token) ให้ไปเล่นเกม แล้วมาขึ้นเงินกับรัฐบาล รวมถึงผลักดันเรื่องศิลปะ แฟชั่น เหมือนสมัยตนเองได้สร้างกรุงเทพเมืองแฟชั่น และเรื่องครัวไทยสู่ครัวโลก ต้องฟื้นอีกครั้ง 

ส่วนเรื่องที่ 5 เราต้องปฏิรูปเกษตรไทยใหม่ เพื่อให้สู้กับต่างประเทศ ตนเองอยากเห็น Food Security (ความมั่นคงทางอาหาร) เพื่อให้ต่างชาติใช้ไทยเป็นฐานการผลิต แล้วลูกค้าจะชัดเจนขึ้น รวมถึงต้องขยายสุวรรณภูมิ ให้มีรันเวย์ที่ 3 และรันเวย์ที่ 4 ต่อไป สร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว 

นายทักษิณ ยังกล่าวถึง Entertainment Complex ที่สมัยตนเองคิดแต่มีคนค้าน แต่วันนี้เกิดขึ้นหลายที่แล้ว และสัดส่วนที่เป็นกาสิโนมีแค่ ไม่เกิน 10 % ของพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้น ต้องลงทุนใน กทม. ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ไม่เช่นนั้นสู้ประเทศอื่นไม่ได้  รวมถึงต้องแก้กฎหมายกับไพรเวตเจ็ต สามารถบินไปต่างจังหวัดได้ และการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐต้องเกิดขึ้น ใน 3 ปีต่อจากนี้ หากชนะเลือกตั้งก็ทำต่อ รวมถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ที่ทำให้ประเทศสูญเสียอะไรต่างๆ มาก ต้องถมทะเลให้ได้พื้นที่มากขึ้น รถไฟความเร็วสูง กทม.-โคราช ต้องเกิดขึ้นปีหน้า เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ ไทย-จีน 50 ปี และค่ารถไฟฟ้า 20 บาทก็ต้องทำ

“รถไฟฟ้า 20 บาท ก็คงต้องทำ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยพูดไปแล้ว ต้องทำให้ได้ เราต้องเวนคืนรถไฟฟ้าที่เอกชนบริหาร เป็นของรัฐ แล้วจ้างเอกชนมาบริหาร แล้วกำหนดราคาตั๋วเอง เราต้องตั้ง กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เราต้องคิดถึง การเก็บ Congestion charge (ค่าธรรมเนียมความแออัด) เพื่อเข้าสู่กองทุน เพื่อให้ประชาชนเดินทางรถไฟฟ้าราคาถูกขึ้น จะทำให้การจราจรดีขึ้นได้”

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงเรื่องเขตทับซ้อนทางทะเล ระบุว่าหากมีทรัพยากรอยู่ ในถือว่าแบ่งกันคนละ 50 เหมือนสิ่งที่เราทำกับมาเลเซียมาแล้ว รวมถึงอีกเรื่องคือต้องทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงิน ได้ให้คนไปศึกษา ดูไบ และสิงคโปร์แล้ว เพื่อเชิญธนาคารทั่วโลกมาตั้งที่ไทย และวันนี้ทั่วโลกกำลังพูดถึงการขายที่ดินให้คนต่างชาติ เพื่อให้คนต่างชาติใช้ไทยเป็นบ้านที่ 2 เหมือนคนอินเดียไปสร้างบ้านที่ดูไบ ทำที่ดินขึ้นเยอะมาก 

“หากเราจะทำ ต้องโอนโฉนดที่ดินให้กรมธนารักษ์ พอครบ 99 ปี ที่ดินนั้นเป็นของหลวง และมีกรอบว่าห้ามซื้อที่ดินเพื่อทำการเกษตร หากต่างชาติมาซื้อที่ดินเยอะที่ดินจะขึ้น เราก็ไปสร้างบ้านที่ Affordable (สามารถซื้อได้) ที่ราคาเข้าถึงได้ ผ่อนน้อย อยู่ได้ 99 ปี โดยทำให้คนไทยมีบ้านโดยไม่ต้องดาวน์ เราต้องทำให้เศรษฐกิจเติบโต แต่ต้องดูแลคนรายได้น้อยไปด้วย”

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงเรื่อง เศรษฐกิจใต้ดิน ทั้งเรื่อง ยาเสพติด พนันออนไลน์ เราขาดทุนปีละ กว่า 1.7 ล้านล้านบาท หากเราเก็บภาษีได้ สามารถใช้เงินดังกล่าวส่งเด็กไปเรียนต่างประเทศได้ ก็ขอฝากเป็นข้อคิดไว้ เอาเงินใต้ดินขึ้นบนดิน ไม่งั้นตำรวจตีกันหมด โดยตอนนี้ รมต.คลัง กำลังอยากจะขยายกองทุนวายุภักดิ์ และทางกระทรวงการคลังกำลังคิดปรับภาษีให้เป็นธรรม และแข่งขันได้ เช่น ภาษีนิติบุคคล ภาษีบุคคลธรรมดา และต้องดู ภาษี VAT ควบคู่ไปด้วย เพื่อทำให้คนมีรายได้น้อยไม่เดือดร้อน และอยากเห็นคนไทยกรอกเสียภาษีทั้งหมด หากรายได้น้อยได้คืนภาษี แน่นอนว่าต้องปฏิรูปภาครัฐ ต้องปรับค่าใช้จ่ายภาครัฐควบคู่ไปด้วย ด้วยการเอาเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น จะสามารถลดหน่วยงานภูมิภาคได้ เป็นเรื่องพูดง่ายแต่ทำยาก แต่ต้องทำ 

“อย่าลืมนะครับว่า เราอยู่ในระบบทุนนิยม ชอบหรือไม่ชอบแต่เราอยู่ในระบบ หากเราไม่มีความเอื้ออาทรกับคนไม่มีกำลัง จะทำให้เติบโตลำบาก คนไม่มีกำลังทรัพย์ต้องให้โอกาสเขา อยากให้คนไทยรักกัน ผมเนียะโดนเยอะ เห็นนรกสวรรค์ในชาติเดียวกัน ผมถือว่าอดีตคืออดีตไป ไม่ใช่ความจำเสื่อมจำได้หมด แต่อยากอยู่ปัจจุบัน คนไทยด้วยกัน หากขาดความสามัคคี จะทำไม่ได้เลย วันนี้เห็นรัฐบาลใหม่ มีหลายพรรคมาร่วม จะทำให้พัฒนาประเทศ วันนี้ถึงเวลาแล้วจะแก้ปัญหา หากบอกว่าผมโกรธไอ้โน่นไอ้นี่ ไม่มีอีกแล้ว ผมรักบ้านเมืองอยากเห็นบ้านเมืองดี ขออยู่เบื้องหลังช่วยคิดทั้งภาครัฐ เอกชน ใครอยากปรึกษาก็เสียค่ากาแฟหน่อย แล้วผมจะไปกิน” นายทักษิณ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับงานในวันนี้มีจำนวน 140 โต๊ะ โต๊ะละ 10 ที่นั่ง โดยนายทักษิณ ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์กว่า 50 นาที ก่อนจะเข้าสู่ช่วงถาม-ตอบ