“วิโรจน์” เผย กมธ.ทหาร จ่อส่งเรื่องให้ดีเอสไอ-อัยการ พิจารณาเอาผิด พ.ร.บ.อุ้มหายฯ หลังกองทัพไม่เข้าชี้แจงปมพลทหารถูกลงโทษวินัยจนเสียชีวิต หวัง รมต.กลาโหมคนใหม่จะเห็นความสำคัญเรื่องนี้

วันที่ 22 ส.ค. 2567 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร (กมธ.ทหาร) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่วันนี้ (22 ส.ค.) ได้เชิญผู้บัญชาการกองทัพบก (ผบ.ทบ.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และอัยการ มาหารือกรณีพลทหารในสังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ถูกลงโทษทางวินัยจนเสียชีวิต ในค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี  ซึ่งมีครอบครัวของพลทหารที่เสียชีวิตพร้อมทนายความ มาติดตามการหารือด้วย แต่กลับพบว่า ผบ.ทบ. ไม่เข้ามาชี้แจง รวมถึงไม่ได้ส่งตัวแทนจากค่ายนวมินทราชินีเข้ามาชี้แจงและร่วมหารือ สะท้อนว่าทางกองทัพไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาก็ได้ขอความร่วมมือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก แต่กลับยังพบมีการทำร้ายร่างกายพลทหาร ซึ่งถือว่าเป็นการเย้ยหยัน และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม กองทัพภาคที่ 1 ได้ออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้ว่า ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และเอาผิดทางวินัยกับทหารผู้ก่อเหตุแล้ว รวม 16 นาย 

แต่กมธ.ทหารมองว่า น่าจะเข้าข่ายความผิดข้อหาพยายามฆ่าและซ้อมทรมาน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และผลการชันสูตรศพพลทหาร พบว่า ปอดฉีก สมองตาย และอวัยวะภายในบอบช้ำจำนวนมาก จึงเตรียมจะนำรายละเอียดเบาะแสต่าง ๆ ส่งให้ดีเอสไอและอัยการ เพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 

...

ในกรณีดังกล่าว ต้องบอกว่าทหารผู้บาดเจ็บรายนี้ ไม่ได้จับใบดำใบแดงมา แล้วเดิมทีมีน้ำหนักเกิน และมีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากเป็นทหารอย่างมาก มีการลดน้ำหนักตัวเอง เพื่อให้สามารถสมัครเป็นข้าราชการทหารได้ จึงอยากให้นึกถึงว่า คนที่ตั้งใจอยากเป็นทหารต้องมามีจุดจบแบบนี้จริงหรือ

นายวิโรจน์ ยังบอกอีกว่า ส่วนตัวคาดหวังว่า ผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ จะจริงจังกับปัญหาที่เกิดขึ้นมากกว่านี้ เพราะไม่ใช่มีแค่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายค่ายนวมินทราชินีเท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้ก็มีการทรมานทรกรรมพลทหารจนได้รับบาดเจ็บมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งถือเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้น และหากพบว่า ผู้บัญชาการไม่ได้ดำเนินการตามสมควร ก็จะต้องร่วมรับผิดด้วยกึ่งหนึ่ง และจะต้องขึ้นศาลอาญาด้วย