แกนนำพรรคร่วม รบ.ตบเท้าพรึบ 9 พรรค เอกฉันท์ดัน “อุ๊งอิ๊งค์” นายกฯคนที่ 31 “อิ๊งค์” บ่นเสียดาย “เศรษฐา” แต่ประเทศต้องไปต่อ อาสามารับไม้เอง ปรึกษาคุณพ่อ-คุณแม่แล้ว “อนุทิน” หยอดน้อมรับบัญชาว่าที่นายกฯ “ลุงป้อม” สั่งลูกพรรคบริหารราชการแผ่นดิน ห้ามสะดุด รทสช.-ปช. ประสานเสียงประเทศต้องเดินหน้า วาระถัดไปฟอร์ม ครม.ชุดใหม่ “เอม-อิ๊งค์” แชร์สตอรีกินข้าวกับ “เศรษฐา” อดีตนายกฯเปลี่ยนรูปโปรไฟล์คู่สุนัขตัวโปรด คนส่งกำลังใจเพียบ “ภูมิธรรม” อ้อมแอ้ม “ดิจิทัลวอลเล็ต” ให้รอนายกฯใหม่ “หมอมิ้ง” จุกอกเสียงสั่นน้ำตาคลอ พท.ระดมพลเรียกคืนกำลังใจ เผยเบื้องหลัง สส.พท.กดดันชู “แพทองธาร” ภท.- รทสช.ย้ำไม่เอาแก้ ม.112 ปชช.ไม่โหวตนายกฯมั่นใจไร้งูเห่าสีส้มซ้ำรอย “ไหม” ชี้รัฐถอยแจกเงินหมื่นได้ ถ้าไม่ทำเลย พท.เจอทัวร์ลงฉ่ำแน่ “เรืองไกร” ขยี้ชง ป.ป.ช.ฟันซ้ำ

ในที่สุดที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 9 พรรค มีมติเป็นเอกฉันท์สนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ คนที่ 31 ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 16 ส.ค.นี้ พร้อมเดินหน้านโยบายร่วมกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชน

ภูมิธรรม เวชยชัย
ภูมิธรรม เวชยชัย

...

“ภูมิธรรม”สานต่องาน “เศรษฐา”

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 ส.ค. ที่อาคารรับรองผู้โดยสารพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางกลับด่วนจากประเทศคาซัคสถาน กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงว่า ได้คุยกับนายเศรษฐาหลังศาลมีคำวินิจฉัยแล้วเลยรีบเดินทางกลับมาเพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่มีการเปลี่ยนแปลง นายเศรษฐาอยากให้เข้ามารับรู้สภาพและหาทางออก และยังฝากให้ทำสิ่งที่ท่านทำค้างไว้ประสบความสำเร็จให้ประชาชนได้ประโยชน์ เชื่อว่าการทำงานรัฐบาลช่วงก่อนจะมีนายกฯคนใหม่จะไม่สะดุด เพราะเป็นไปตามกลไก คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังทำหน้าที่รักษาการ ทุกคนยังเป็นรัฐบาลพรรคร่วม มีนโยบายเดิมที่ทำกันอยู่แล้ว หน้าที่เราคือทำให้ต่อเนื่องเร็วที่สุด ดีที่สุด ส่วนการเรียกประชุมครม.รักษาการวันนี้ คงมาดูว่าเราจะทำงานร่วมกันอย่างไรต่อไป เข้าใจว่าที่ประชุมจะมีการพูดคุยปัญหาต่างๆที่ต้องปฏิบัติร่วมกัน

ย้ำมติพรรคร่วมหนุนนายกฯ พท.

นายภูมิธรรมกล่าวว่า สำหรับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) เหลืออยู่ 2 คน คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายชัยเกษม นิติสิริ ทั้งสองมีคุณสมบัติมีความรู้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ ในที่ประชุม ครม.เป็นการช่วยกันคิดช่วยกันทำ เพราะมีมติที่ชัดเจนออกมาแล้วจากพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล เราคุยกันจนมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้นายกฯมาจากพรรคพท. ส่วนการปรับ ครม.ขอให้ได้นายกฯ ก่อน ขอคุยกันก่อนอย่างน้อยที่สุดต้องให้ได้นายกฯก่อนตามกระบวนการกฎหมาย ต้องรอว่านายกฯคนใหม่จะเป็นใคร และนายกฯคนนั้นจะเลือกทีมทำงานของท่านอย่างไร

กรรมการบริหารมีอำนาจชี้ขาด

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าว สส.พรรคเพื่อไทย ต้องการให้เสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นว่าที่นายกฯคนต่อไป นายภูมิธรรมตอบว่า มีการประสานมาที่ตนแล้ว เป็นเรื่องคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ต้องพิจารณาต่อไป ส่วนที่เป็นห่วงเรื่องการสานงานต่อนโยบายของรัฐบาล เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย สิ่งสำคัญวันนี้คือพรรคร่วมรัฐบาลต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าให้นายกฯมาจากพรรคเพื่อไทย ดังนั้นเป็นภาระของพรรคเพื่อไทยที่ต้องหานายกฯ เมื่อถามย้ำว่ามีคนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมนายทักษิณจึงมีอำนาจมาสั่งการในเรื่องดังกล่าว นายภูมิธรรมตอบว่า สื่อตั้งคำถามเองว่ามีอำนาจหรือเปล่า วันนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ กก.บห.พรรค

“ดิจิทัลวอลเล็ต” รอนายกฯใหม่

เมื่อถามถึงนโยบายเรือธงโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จะเดินหน้าต่ออย่างไร นายภูมิธรรมตอบว่า สื่ออย่าเพิ่งถามอะไร วันนี้เราต้องเริ่มต้นว่าจะได้นายกฯใหม่หรือไม่ แต่งตั้งรัฐบาลใหม่ได้เลยใช่ไหม สิ่งที่ถามมาขณะนี้ยังไม่เกิด และขอประชาชนอย่าสับสน เราต้องทำให้มีความชัดเจน ส่วนที่มีข่าวออกไปว่าประชาชนสับสน ก็เพราะมีการถามกันเข้ามาและสื่อคิดแทน ถึงบอกว่าอย่าเพิ่งไปจินตนาการ มีการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ส่วนจะส่งใครเป็นนายกฯเป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทย อยู่ที่พรรคเพื่อไทยที่จะจัดการ คนที่มีอำนาจสูงสุดคือ กก.บห.พรรค เมื่อถามว่าเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีการะบุว่าเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว โครงการดิจิทัลวอลเล็ตควรจะหยุด ไม่ควรส่งเรื่องมาถามกฤษฎีกาอีก นายภูมิธรรมตอบว่า เป็นความเห็นของเลขาฯกฤษฎีกา แต่ทั้งหมดต้องรอรัฐบาลใหม่ เลขาฯกฤษฎีกาพูดถูกส่วนหนึ่ง คือทั้งหมดมันยุติแล้ว ต้องรอรัฐบาลใหม่ เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายทักษิณปัดตกโครงการดังกล่าวไป จริงหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เพิ่งได้ยินจากปากสื่อ ข่าวออกมาไม่ได้หมายความว่าทุกข่าวจะสำเร็จหรือเป็นจริง

สรวงศ์ เทียนทอง
สรวงศ์ เทียนทอง

พท.ระดมพลเรียกคืนกำลังใจ

ช่วงสายที่รัฐสภา นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุมสส.พรรค ถึงกระแสข่าวบ้านจันทร์ส่องหล้าเคาะชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯของพรรค ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรโหวตเป็นนายกฯคนที่ 31 ว่า มีการพูดคุยกัน แต่ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ มองว่าเป็นแค่การพูดคุยกัน ส่วนเรื่องอื่นต้องรอสรุป หลังการประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคบ่ายวันนี้ เมื่อถามว่าเหมือน สส.ส่วนใหญ่จะสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคพท. ชิงนายกฯ นายสรวงศ์ตอบว่า พรรคยังเหลือแคนดิเดตนายกฯ 2 คน ต้องดูความเหมาะสม ทั้งนี้จะมีการประชุม กก.บห. และประชุม สส.เพื่อเรียกกำลังใจกลับมา เมื่อถามว่ามติ สส.ที่สนับสนุน น.ส.แพทองธารจะสู้กับมติของ กก.บห.พรรคได้หรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า แน่นอนว่ากก.บห.รับฟังมติของ สส. หากที่ประชุมยกเหตุผลมาแล้ว น่าจะสรุปได้ในช่วงบ่ายวันนี้

เสียงเอกฉันท์มอบ กก.บห.เคาะ

ต่อมาเวลา 10.00 น. นายสรวงศ์แถลงหลังการประชุม สส.เพื่อไทย นายสรวงศ์กล่าวว่า ที่ประชุมสส.มีการให้กำลังใจกัน และมีการถามมติในที่ประชุมว่าจะให้อำนาจกับ กก.บห.พรรค ไปสรรหาและเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะจะเป็นนายกฯ ทุกคนมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าจะมอบอำนาจให้ กก.บห.พรรค และช่วงบ่ายวันเดียวกันจะมีการประชุม ครม.รักษาการ เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่กรณีชื่อของนายชัยเกษม เคยข้องเกี่ยวกับคดีถุงขนม 2 ล้านบาท ในฐานะอัยการสูงสุดที่ไม่รับฟ้องคดีนี้ นายสรวงศ์ตอบว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าได้ตรวจสอบคุณสมบัติ มั่นใจในการเสนอบุคคลเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

สส.กดดันชู “อิ๊งค์” นายกฯ คนที่ 31

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ในการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรโหวตเลือกเป็นนายกฯคนต่อไปว่า จากกระแสข่าวหลังแกนนำพรรคร่วม รัฐบาลได้หารือกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จนได้ข้อสรุปว่าจะเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกฯคนต่อไป แต่ล่าสุด สส.พรรคเพื่อไทยมีความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของนายชัยเกษม และมีความเห็นร่วมกันว่าควรเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯแทน เลยมีการสื่อสารไปยังครอบครัวชินวัตรว่าสส.มีความเห็นร่วมกันแบบนี้ ที่สุดแล้วทางครอบครัวชินวัตรยอมรับฟังความคิดเห็น และยอมให้เสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ

วิป รบ.คุยฟุ้ง 16 ส.ค.ได้ผู้นำใหม่

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วันที่ 16 ส.ค.เวลา 10.00 น. ได้นายกรัฐมนตรีแน่นอน ส่วนจะเป็นใครเป็นเรื่องของ กก.บห.ตัดสินใจ สมาชิกพรรคยอมรับได้ ไม่มีใครเห็นต่างไปจากนี้ มั่นใจว่าจะมีข่าวดีกับประชาชน ขอให้มั่นใจใน กก.บห.เราจะพิจารณาอย่างรอบคอบและดีที่สุด สนองความ ต้องการของพี่น้องประชาชน เมื่อถามว่าดูเหมือนพรรคเพื่อไทยพยายามเลือกนายกฯให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากคนภายนอก นายสรวงศ์ตอบว่า อย่ามองมุมนั้น เรามองว่าทุกพรรคร่วมรัฐบาลต้องการทำให้มีรอยต่อน้อยที่สุด หากไม่มีอะไรผิดพลาดไม่น่าจะเกิน 3 สัปดาห์ ยืนยันว่าไม่มีสัญญาณแทรกแซงจากใคร และเมื่อวันที่ 14 ส.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ยืนยันให้เกียรติพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนายกฯ

แกนนำพรรคร่วมตบเท้าพรึบ

กระทั่งเวลา 16.00 น.ที่ตึก SC ASSET อาคารชินวัตร 3 ถนนวิภาวดีรังสิต มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค เพื่อเคาะรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรโหวตในวันที่ 16 ส.ค. จากนั้นบรรดาหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ทยอยเดินทางมาร่วมประชุม ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภูมิใจไทย นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ภท. นายสันติ พร้อมภัทร รองหัวหน้าพรรค พปชร. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย รวม 9 พรรค นายสรวงศ์แถลงว่า วันนี้พวกเราในนามพรรคร่วมรัฐบาล มีจุดยืนเดียวกันหลังจากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีมติเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ คนที่ 31 การประชุมสภาฯวันที่ 16 ส.ค. เพื่อเลือกนายกฯ จะเสนอชื่อโดยพรรคเพื่อไทย และมีพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ให้ความเห็นชอบ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ

แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร

“อิ๊งค์” บ่นเสียดายอดีตนายกฯ

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอบคุณ กก.บห.เพื่อไทย สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เสนอชื่อเป็นนายกฯ และขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน จะทำทุกอย่างสุดความสามารถ และขอให้รอดูผลโหวตอย่างเป็นทางการ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราชื่นชมการทำงานของนายเศรษฐา เสียดายที่เกิดเรื่องแบบนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เราไม่ได้คาดฝันเอาไว้ แน่นอนว่านายเศรษฐาเป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคารพรักนับถือ ตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯ เพราะเป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน เสียดายโอกาสนี้ แต่ประเทศต้องไปต่อ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล วันนี้มีความพร้อมผลักดันประเทศต่อ มั่นใจในพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมทุกพรรคจะนำพาประเทศให้หลุดพ้นวิกฤติเศรษฐกิจ แน่นอนการมารวมตัววันนี้เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าเรามีความตั้งใจมุ่งมั่นพร้อมเพรียงกัน ตกลงกันทำเพื่อประเทศชาติต่อไป

ปรึกษาครอบครัวคุณพ่อ-คุณแม่

ผู้สื่อข่าวถามว่าหวั่นจะซ้ำรอยกับนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ยังไม่คิดเรื่องนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว เพิ่งทราบข่าวหลังคนอื่น พอทราบข่าวก็มีการเตรียมการในพรรค และพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อถามว่าได้ปรึกษานายทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ บ้างหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ปรึกษาครอบครัวอยู่แล้วทุกเรื่อง วันนี้เรามาถึงจุดที่ทำให้ประเทศต้องไปต่อ ฉะนั้น ยินดีและตั้งใจ ส่วนกระแสข่าวว่าคุณหญิงพจมานเป็นห่วงนั้น คุณแม่ห่วงลูกเป็นธรรมดา ตนเป็นแม่เช่นกัน และยังไม่ทราบว่าในอนาคตจะเลิกห่วงลูกได้เมื่อไหร่ เราเคารพซึ่งกันและกันเสมอ เมื่อถามว่านายทักษิณให้คำแนะนำอย่างไร น.ส.แพทองธารตอบว่า ให้คำแนะนำตลอดอยู่แล้ว วิธีการสื่อสารภายในครอบครัวเป็นลักษณะให้กำลังใจกันมากกว่า หากต้องการคำปรึกษาคุณพ่อพร้อมให้คำปรึกษาตลอด เมื่อถามว่าจะให้นายทักษิณ มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ยังคงเป็นในฐานะของคุณพ่อที่มีประสบการณ์มาก่อน

อาสารับไม้ต่อจาก “เศรษฐา” เอง

เมื่อถามถึงการเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต น.ส.แพทองธารตอบว่า ต้องรับฟังความคิดเห็นกันต่อไป ยังไม่โหวตนายกฯเลย จะขอลงรายละเอียดอีกครั้ง เมื่อถามว่าประชาชนอยากได้ความมั่นใจโครงการดิจิทัลวอลเล็ต น.ส.แพทองธารตอบว่า เท่าที่ได้คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก็พร้อมรับฟังความคิดเห็นเรื่องนี้ เมื่อถามว่าอ่านใจชนชั้นนำอย่างไร เพราะพรรค พท. เจอมาตลอด น.ส.แพทองธารตอบว่า เชื่อว่าทุกคนเป็นประชาชน ประเด็นนี้ไม่น่าจะเป็นประเด็น การทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ผ่านมา วิธีการสื่อสารน่าจะเป็นที่ยอมรับ ขอให้รอเวลานิดหนึ่งเชื่อว่าวิธีการทำงานของนายเศรษฐาใกล้จะออกดอกออกผลแล้ว เมื่อถามว่าได้อาสาตัวรับไม้ต่อจากนายเศรษฐาใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารยอมรับว่าใช่

“อนุทิน” หวานรับบัญชาว่าที่นายกฯ

จากนั้นนายอนุทินกล่าวชี้แจงว่า วันนี้เป็นสปิริตของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค พวกเราทุกคนพร้อมใจกันเพื่อไม่ให้เกิดความชะงักของการบริหารราชการแผ่นดินและประเทศ จึงพร้อมใจกันให้พรรคพท.ในฐานะแกนนำรัฐบาล เป็นผู้เสนอชื่อบุคคลดำรงตำแหน่งนายกฯ คือการเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ให้สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบในวันที่ 16 ส.ค. พรรคภูมิใจไทยมีความยินดีอย่างยิ่ง เมื่อทราบว่าเป็น น.ส.แพทองธารยิ่งมีความมั่นใจว่าภายใต้การนำของว่าที่นายกฯ น.ส.แพทองธาร เราทุกคนพร้อมให้การสนับสนุน และให้ความร่วมมือเต็มที่ รวมถึงพร้อมปฏิบัติตามนโยบายของว่าที่นายกฯ นับตั้งแต่วันแรกที่ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

นายสันติกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรค พปชร. เพื่อไม่ให้ระบบบริหารราชการแผ่นดินเพื่อพี่น้องประชาชนจะต้องล่าช้าและขาดตอน ดังนั้นพรรค พปชร. ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เรามีความตั้งใจและมีความเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย และสนับสนุนตัวแทนพรรคเพื่อไทยคือ น.ส.แพทองธาร มั่นใจในความรู้ความสามารถ เราจึงสนับสนุน น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ เช่นเดียวกับพรรคร่วมทุกพรรค

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

รทสช.-ปช.ประเทศต้องเดินหน้า

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า เกือบ 1 ปีที่พรรค รทสช.ได้ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของนายเศรษฐาร่วมกันทำงานด้วยความตั้งใจ และมุ่งมั่นบริหารราชการแผ่นดินเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ทุกคนพยายามทำงานอย่างเต็มที่ ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนถึงวันที่วินิจฉัย อดีตนายกฯยังมาร่วมประชุม ครม.กับพวกเรา อยู่พิจารณาวาระสำคัญของ ครม. แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ส.ค.เป็นที่น่าเสียใจ แต่ประเทศชาติผลประโยชน์ของประชาชนต้องเดินหน้าต่อ วันนี้ตนและเพื่อนพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย และผู้ที่ได้รับการคัดเลือกคือ น.ส.แพทองธาร เมื่อทราบว่าเป็น น.ส.แพทองธารก็รู้สึกดีใจ และขอให้ประสบความสำเร็จในการนำรัฐบาลต่อไป

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ที่ผ่านมานายเศรษฐามีภาวะผู้นำ มีความมุ่งมั่นกับงาน เข้าใจว่าปัญหาประเทศมีความสลับซับซ้อน จึงใช้ภาวะผู้นำขับเคลื่อน พรรคร่วมรัฐบาลทุกคนพร้อมให้กำลังใจ และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่บ้านเมืองต้องเดินต่อ และวันนี้พรรค พท.เสนอ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ พรรคประชาชาติที่ถือว่ามี สส.มากที่สุดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราพร้อมจะขับเคลื่อน และขอยืนยันว่าจะแก้ปัญหาของประชาชนภายใต้การนำของนายกฯคนใหม่ ยืนยันว่าพรรคประชาชาติทั้ง 9 เสียงยินดีสนับสนุน น.ส.แพทองธาร

ชทพ.ดันให้รัฐนาวาลำนี้ไปต่อ

นายวราวุธกล่าวว่า ถึงวันนี้แนวทางการทำงานและคำมั่นของพรรค ชทพ.ที่ให้ไว้กับพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่เปลี่ยนแปลง เราคำไหนคำนั้น ทำงานมาถึงวันนี้ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ก็ต้องขอบคุณนายเศรษฐา กว่า 350 วันที่ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ วันนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยเสนอแคนดิเดตนายกฯ คือ น.ส.แพทองธาร พรรค ชทพ.ยืนยันในเจตนารมณ์เดิมที่จะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ทั้ง 10 เสียงของพรรคจะลงคะแนนสนับสนุน น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ คนที่ 31 เราจะผลักดันให้รัฐนาวาลำนี้ผ่านไปได้

วาระถัดไปฟอร์ม ครม.ชุดใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมสภาฯโหวตเลือกนายกฯเสร็จแล้ว ประธานสภาฯต้องนำรายชื่อผู้ได้รับการโหวตเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ จากนั้นเมื่อมีการโปรดเกล้าฯนายกฯลงมาแล้ว ผู้เป็นนายกฯคนที่ 31 ต้องฟอร์มคณะรัฐมนตรี เพื่อนำรายชื่อรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ เมื่อได้รับโปรดเกล้าฯรายชื่อคณะรัฐมนตรีลงมาแล้ว ครม.ชุดต่อไปต้องประชุมร่วมกันเพื่อจัดทำนโยบายมาแถลงต่อรัฐสภาฯ เพื่อเดินหน้าบริหารประเทศต่อไป

“อิ๊งค์” แชร์สตอรีกินข้าว “เศรษฐา”

วันเดียวกันเวลา 14.20 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แชร์สตอรีในอินสตา แกรมส่วนตัวของ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว ที่โพสต์ภาพ น.ส.พินทองทา และ น.ส.แพทองธารร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ พร้อมระบุข้อความว่า “Lunch Time” ท่ามกลางกระแสข่าว สส.เพื่อไทย สนับสนุนน.ส.แพทองธาร ลงชิงตำแหน่งนายกฯ

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน

“เศรษฐา” เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ใหม่

ทางด้านความเคลื่อนไหวของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ตั้งแต่เวลา 08.09 น. บัญชีเฟซบุ๊ก และ X ของนายเศรษฐา ได้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ใหม่ เป็นรูปในอิริยาบถสนั่งยิ้มคู่กับสุนัขตัวโปรด ขณะที่ภาพปกเฟซบุ๊กกลายเป็นพื้นเปล่า และลบสถานะนายกฯออก มีผู้ที่เคยร่วมงานและประชาชนเข้ามาให้กำลังใจจำนวนมาก อาทิ “เป็นกำลังใจให้ท่านนายกฯค่ะ” “นายกฯที่ขยันและแข็งแกร่งที่สุด” “นายกฯในดวงใจค่ะ my role model” ฯลฯ หนึ่งในผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นคือ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความใต้ภาพว่า “ในนามของ 1 ในภาคส่วนการท่องเที่ยว ขอขอบคุณท่านนายกฯสำหรับทุกความมุ่งมั่นและตั้งใจของท่านนายกฯ ในการขับเคลื่อนประเทศอย่างจริงจังค่ะ Ignite Tourism Thailand จะใช้ในการขับเคลื่อนพวกเราชาวท่องเที่ยว ให้ประเทศไทยกลายเป็นมหาอำนาจทางการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปค่ะ”

ส่งคืนรถยนต์ประจำตำแหน่ง

ส่วนบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่และข้าราชการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ต่อมาเวลา 08.15 น. มีเจ้าหน้าที่เข้ามานำรถตู้อัลพาร์ดสีดำ ทะเบียน 8 กผ 1127 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ส่วนตัวของนายเศรษฐา ที่เคยนำมาใช้ระหว่างลงพื้นที่หาเสียง และปฏิบัติราชการ ออกไปจากทำเนียบรัฐบาล และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองสถานที่ ยานพาหนะ และรักษาความปลอดภัย กลุ่มบริหารการรักษาความปลอดภัย ทำเนียบรัฐบาล มาตรวจสอบรถยนต์ All NEW Lexus LM 350h Executive 4-Seater สีเงิน Sonic Titanium ทะเบียน สร 30 กรุงเทพ มหานคร รถยนต์ประจำตำแหน่งนายกฯ เพื่อส่งมอบคืน โดยนำไปจอดเก็บไว้ที่บ้านพิษณุโลก บ้านพักประจำตำแหน่งนายกฯ

“สุริยะ” รอบนี้ถึงกับเสียน้ำตาให้

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกฯ และ รมว.คมนาคม กล่าวว่า หลังทราบคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก็เหมือน สส.เพื่อไทยหลายคนที่เสียน้ำตาไป เพราะทำงานใกล้ชิดนายเศรษฐา ไม่มีวันหยุดหย่อน เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน จนประเทศไทยมีระดับความเชื่อมั่นสูงขึ้น ผลักดันแลนด์บริดจ์จนหลายบริษัทต้องการเข้ามาประมูลแข่งขัน เมื่อถามว่ากระทรวงคมนาคมจะเดินหน้าต่อโครงการแลนด์บริดจ์หรือไม่ นายสุริยะตอบว่า เดินหน้าต่อร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ในที่ประชุมสส.ทุกคนเห็นว่าควรสนับสนุน น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ เป็นคนวัยสาวมีกำลังแข็งแรงพร้อมทุ่มเทให้กับประเทศชาติ ต้องชื่นชมที่เสียสละ เมื่อถามว่าประเด็นนี้เมื่อเข้าที่ประชุม กก.บห.พรรค คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกใช่หรือไม่ นายสุริยะตอบว่า กก.บห.พรรคไปทำอะไรที่แตกต่างจากความเห็นสส.คงไม่ได้ เป็นไปตามที่ สส.ต้องการ และคิดว่าน.ส.แพทองธารไม่ได้ขัดอะไร

ดึงนักกฎหมายเสริมทัพให้มั่นใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีแนวโน้มนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเข้ามามีบทบาทช่วยอย่างไรหรือไม่ นายสุริยะตอบว่า ถ้าใครเคยเห็นสมัยรัฐบาลไทยรักไทย จะเห็นว่าความรู้ความสามารถเรื่องเศรษฐกิจของนายทักษิณทำให้เกิดความเชื่อมั่น เมื่อลูกสาวมาเป็นนายกฯท่านคงมีโอกาสทำงานกันอย่างใกล้ชิด ให้คำแนะนำได้ เมื่อถามว่าคนในเพื่อไทยกังวลอะไรหรือไม่กับสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน นายสุริยะตอบว่า คิดว่าในส่วนของรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้ระยะยาวอาจเป็นปัญหาอุปสรรค ต่อไปจะมีการปรับแก้ไขอย่างไร ที่สำคัญพรรคเพื่อไทยจะมีนักกฎหมายที่เข้ามาอยู่ใน ครม.ด้วย เพื่อช่วยดูแลให้เกิดความรอบคอบเรื่องใดที่สุ่มเสี่ยง

“มิ้ง” จุกอกเสียงสั่นน้ำตาคลอ

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่เข้าไปนั่งฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีมติให้นายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดความเป็นนายกฯว่า ไปฟังแทนนายเศรษฐาที่ได้มอบหมายเป็นตัวแทน เราเตรียมใจว่าผลจะออกมาเป็นประการใด ต้องให้ความเคารพต่อศาล “ผมถือเป็นเกียรติมากที่ได้...” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ นพ.พรหมินทร์พูดมาถึงตรงนี้ได้หยุดนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอว่า “ที่ได้ทำงานกับนายกฯท่านนี้ ผมเชื่อว่าแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะให้ท่านยุติบทบาทในฐานะนายกฯ แต่เชื่อว่าภารกิจของท่านที่มีต่อพี่น้องประชาชนคนไทยยังมีตลอดไป และท่านคงอุทิศตน เมื่อคืนและเมื่อเช้าเราได้พูดคุยกันตลอด เพราะท่านเป็นห่วงงาน ภารกิจต่อประชาชนยังมีตลอดไป”

“สมศักดิ์” ใจหายนายกฯพ้นเก้าอี้

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รักษาการ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า รู้สึกใจหาย นายเศรษฐามีความขยันแข็งแรง ออกงานไม่เหน็ดเหนื่อย เสียดายที่ต้องพักออกไปแบบนี้ แต่ยังคงเป็นเจ้านายของตนตลอดไป เมื่อถามว่าไม่มีการเปลี่ยนตัวแคนดิเดตจากพรรคอื่นใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า เป็นกฎกติกาการเมืองที่ต้องไปตามพรรคแกนนำ เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังเหมือนเดิมใช่หรือไม่ และได้รับการการันตีว่ายังได้นั่งในตำแหน่ง รมว.สาธารณสุขด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า พรรคร่วมยังเหมือนเดิม แต่ตำแหน่งรัฐมนตรียังไม่มีการคุยกัน

ย้ำนโยบายไม่เอาคนแก้ ม.112

ต่อมาเวลา 10.55 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมแกนนำและ สส.พรรค แถลงจุดยืนตามมติพรรคว่า พรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ยินดีสนับสนุนบุคคลในรายชื่อนายกฯ หรือแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยให้เป็นนายกฯคนต่อไป เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทยจะเสนอบุคคลที่มีความเหมาะสม ต่อที่ประชุมสภาฯวันที่ 16 ส.ค. เวลา 10.00 น. เราไม่สนับสนุนพรรคการเมือง หรือนายกฯที่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ถือเป็นข้อตกลงเดิมในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งที่แล้ว และทุกพรรคมีความเห็นไปในทางตรงกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจน จะขอให้มีการจัดแถลงร่วมกันกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค

“ลุงป้อม” สั่ง พปชร.ไม่มีแตกแถว

ขณะที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการ รมช.สาธารณสุข รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค พปชร. นำ สส.พปชร. แถลงจุดยืนของพรรค นายสันติกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคและกก.บห.พรรค แสดงจุดยืนในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ดังนี้ 1.พรรค พปชร.ยังสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯคนต่อไป 2.พรรคพปชร.ยังคงจุดยืนเดิมคือ ไม่ร่วมกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ ป.อาญามาตรา 112 และ 3.พรรคพปชร.ยึดมั่นในนโยบายที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ส่งเสริมความปรองดองคนในชาติ ร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนในเรื่องเศรษฐกิจ ความเท่าเทียม รวมถึงพัฒนาประเทศชาติต่อไปให้มีความเข้มแข็ง

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

โควตาเดิมถ้าสลับอยู่ที่ “ลุงป้อม”

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรพร้อมมาโหวตนายกฯ ด้วยตัวเองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ก่อนหน้านี้ร่วมประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับ พล.อ.ประวิตร มีฉันทามติชัดเจนว่าจะดำเนินการตามที่แถลงทั้ง 3 จุดยืนไป ส่วน พล.อ.ประวิตรจะมาร่วมโหวตหรือไม่ จะกลับไปหารืออีกครั้ง แต่ทุกอย่าง พล.อ.ประวิตร มอบอำนาจให้ตนและนายสันติดำเนินการ เมื่อถามว่าโควตารัฐมนตรีพรรคร่วมยังคงเหมือนเดิมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า พปชร.เรามี 4 โควตาเหมือนเดิม เมื่อถามว่าสัดส่วนรัฐมนตรีของพรรคจะมีการสลับเก้าอี้ หรือสลับคนหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายของหัวหน้าพรรค พปชร.

รทสช. ยึดเอ็มโอยูตอนตั้งรัฐบาล

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รักษาการรองนายกฯ และ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อม สส.รทสช. ร่วมแถลงจุดยืนของพรรค นายพีระพันธุ์กล่าวว่า จุดยืนพรรค รทสช.สนับสนุนแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ และยังยืนยันว่าต้องไม่มีนโยบายแก้ไข ป.อาญามาตรา 112 เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี กลับมาเป็นนายกฯ นายพีระพันธุ์ตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์คงไม่กลับมาเพราะท่านเป็นองคมนตรีแล้ว อย่าเอาข่าวแบบนี้มาทำให้เป็นประเด็นปัญหา เพราะองคมนตรีไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ตามมารยาทเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลตั้งแต่แรก ต้องให้สิทธิกับพรรคแกนนำรัฐบาลก่อน การทำงานของรัฐบาลยังต่อเนื่อง เพียงเปลี่ยนตัวนายกฯเท่านั้น รวมทั้งโควตารัฐมนตรีเท่าที่ทราบทุกพรรคยังทำงานต่อเหมือนเดิม

ปชช.ไม่สังฆกรรมกับก๊วน รบ.เดิม

ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชช.) พร้อม สส.พรรค ปชช. แถลงว่า พรรค ปชช.ยืนยันอุดมการณ์และจุดยืนว่า เรายังมั่นคงในอุดมการณ์ที่ให้ไว้กับประชาชนเมื่อ 1 ปีที่แล้ว จากข่าวล่าสุดพรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิมเดินหน้าเป็นรัฐบาลต่อ โดยชื่อบุคคลมาเป็นนายกฯแทนนายเศรษฐา ทวีสิน พรรค ปชช.จะเดินหน้าทำหน้าที่ต่อในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน ไม่มีส่วนร่วมโหวตสนับสนุนนายกฯพรรคเพื่อไทย ตนพร้อมทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้าน เเม้เป็นฝ่ายค้านแต่ยังมีอีกหลายภารกิจต้องผลักดันร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ เพื่อทบทวนขอบเขตอำนาจหน้าที่และโครงสร้างของศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ ทบทวนเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรม ทบทวนเงื่อนไขการยุบพรรค ให้สอดคล้องกับหลักสากล เราหวังว่ารัฐบาลและนายกฯคนใหม่จะร่วมมือกันในภารกิจดังกล่าวทวงคืนอำนาจสูงสุดที่เป็นของประชาชน

มั่นใจไร้งูเห่าสีส้มแหกค่ายอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่า สส.พรรคประชาชน จะไม่มีใครเป็นงูเห่า นายณัฐพงษ์ตอบว่า ไม่มีแน่นอน จากตัวเลขเพื่อน สส.ที่มาร่วมกับพรรคปชช. เหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้น เมื่อถามว่านอกจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะรวมการแก้ไขมาตรา 112 ด้วยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่าคงไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 คนละเรื่องเดียวกัน ขณะนี้สิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดคือเสถียรภาพของรัฐบาล ไม่กี่วันมานี้มีการใช้อำนาจของตุลาการฯทำให้เกิดผลกระทบในฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งกรณีที่พรรคก้าวไกลถูกยุบ และฝ่ายบริหารที่นายเศรษฐาถูกพิจารณาให้พ้นจากตำแหน่ง จุดยืนของพรรค ปชช.คือต้องการออกมาพูดให้ชัดว่าเรารู้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลอาจจะยังเป็นไปไม่ได้ แต่เราพร้อมร่วมกันกับทุกฝ่ายเพื่อผลักดันกฎหมาย อย่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน จุดยืนของเราขอทำหน้าที่ ในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้าน ส่วนจะโหวตไม่เห็นชอบหรืองดออกเสียงนั้น เป็นเรื่องที่เราต้องหารือในที่ประชุม สส.ของพรรคประเมินสถานการณ์ก่อน

ศิริกัญญา ตันสกุล
ศิริกัญญา ตันสกุล

“ไหม” ชี้รัฐถอยแจกเงินหมื่นได้

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร สั่งเบรกโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า ถ้าดูว่าจะถอยได้หรือไม่ ยืนยันถอยได้ เพราะ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ที่เพิ่งผ่าน 2 สภาฯไป ไม่ได้เขียนว่าต้องนำไปใช้สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่เขียนกว้างมากว่าเป็นค่าใช้จ่ายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนการลงทะเบียนนั้นรัฐบาลพยายามบอกว่าการลงทะเบียนคือการสัญญาแล้ว ถ้าเป็นสัญญาจริงแล้วรัฐบาลไม่แจก อาจถูกฟ้องได้ภายหลัง แต่เรายืนยันว่าจริงๆมันไม่นับว่าเป็นสัญญา แค่ลงทะเบียนจากฝ่ายเดียวไม่นับเป็นสัญญาแน่ๆ เราดูจากสภาวะแวดล้อมต่างๆแล้ว ถ้าจะถอยก็ถอยได้ แต่จะถอยไหม

เชื่อลุยต่อแต่อาจเลี้ยวให้ถูก ก.ม.

น.ส.ศิริกัญญากล่าวอีกว่า เขาเริ่มออกมายอมรับแล้ว ถ้าจำกันได้สัปดาห์ก่อนหน้านายวิษณุ เครืองาม ให้ความเห็นอยู่ว่าดิจิทัลวอลเล็ตมีปัญหาในข้อกฎหมาย เขากำลังหาวิธีแก้ไขกันอยู่ เหมือนมีสัญญาณมาว่ากำลังเจอกับปัญหาใหญ่ข้อกฎหมายที่จำเป็นต้องแก้ไข สุดท้ายจะถอยไม่ถอย จะหาทางออกได้หรือเปล่า คิดว่าสุดท้ายแล้วจะเดินหน้าต่อ เพียงแต่อาจเดินเลี้ยวไปสักหน่อย ปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการให้เป็นไปตามกฎหมาย ประเด็นสำคัญคือการใช้งบฯข้ามปีนี่แหละ ที่มันอาจใช้ไม่ได้ อาจต้องหาวิธีการจ่ายออกมาเป็นเงินสดหรืออะไรก็ได้ก่อนวันที่ 30 ก.ย.2567

ถ้าไม่ทำเลย พท.เจอทัวร์ลงแน่

เมื่อถามว่าเหมือนเป็นการหาทางลงแบบเนียนๆ หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญาตอบว่า คิดว่าเขาเดินเลยสเต็ปนั้นมาแล้ว จนถึงขั้นลงทะเบียน ถ้าจะหาทางลงตอนนี้มีอยู่อันเดียวคือต้องให้เป็นการเจรจาต่อรองระหว่างพรรคร่วมเงื่อนไขมีอะไรบ้าง ข่าวออกมาน่าจะเป็นการโยนหินมากกว่าว่ากระแสจะเป็นยังไง สภาวะตอนนี้อำนาจต่อรองพรรคร่วมมีค่อนข้างสูง เมื่อถามว่าดูแล้วหากถอยไปโดยไม่ทำเลย พท.จะถูกทัวร์ลงหรือเปล่า เพราะชาวบ้านลงทะเบียนไปแล้วกว่า 30 ล้านคน น.ส.ศิริกัญญาตอบว่า น่าจะทัวร์ลงแน่นอน เพราะไปสร้างความหวังเอาไว้แล้ว ลำพังการที่ต้องรอไปอีก 5 เดือน ก็หนักหนาสาหัสแล้ว น่าจะเสียหายหนักสำหรับพรรค พท. เสนอทางออกง่ายๆ คือต้องเริ่มแจกบางส่วนไปก่อน ก่อนวันที่ 30 ก.ย. หรืออาจต้องเป็นเงินสด เพราะระบบชำระเงินยังทำไม่ทัน

“ต่อ” ปัดส่งคนเข้าบ้านจันทร์ฯ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคประจำเดือนว่า คงไม่มีคุยถึงการโหวตนายกฯ เพราะ กก.บห.พรรคส่วนใหญ่ไม่ได้เป็น สส.เรื่องโหวตนายกฯต้องถามจากประธาน สส.และ สส.จะโหวตอย่างไร และคุยกับทุกคนแล้วว่าพรรค ปชป.เป็นสถาบันทางการเมืองทำอะไรต้องดูมติพรรค เมื่อถามว่า มีกระแสข่าววันที่ 14 ส.ค.มี สส. พรรค ปชป.เข้าไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้าด้วย นายเฉลิมชัยย้อนถามว่า เป็นใคร ขอดูชื่อหน่อย นั่งดูข่าวอยู่ไม่มีคนพรรค ปชป.เลย และตนไม่ได้ไป ตรวจสอบจากสื่อแล้วไม่เห็นคนของพรรคสักคน ไม่ได้รับโทรศัพท์คุยการเมืองกับใครเลย วันนี้เศรษฐกิจประเทศแย่มากอยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ แยกแยะถ้าปัญหาประเทศชาติต้องช่วยกันแก้ แต่ปัญหาการเมืองว่าไปตามสถานะที่เป็นอยู่ จากนั้นหลังการประชุม กก.บห.นายเฉลิมชัยกล่าวด้วยว่า พรรค ปชป.พร้อมทำทุกหน้าที่ แต่วันนี้ตอบได้เลยว่า ยังไม่มีคนประชาธิปัตย์คนใดไปคุยตั้งรัฐบาล

มติ ปชป.ให้ สส.งดออกเสียง

ช่วงเย็นที่พรรคประชาธิปัตย์ นายประมวล พงศ์ถาวรเดช สส.ประจวบคีรีขันธุ์ และประธาน สส. แถลงหลังเป็นประธานการประชุมถึงการโหวตเลือกนายกฯวันที่ 16 ส.ค.ว่า ที่ประชุม สส.พรรคมีมติเป็นเอกฉันท์ให้งดออกเสียงในการโหวตเลือกนายกฯคนใหม่

“ครูมานิตย์” เล็งสังคายนา รธน.

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคพท.กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขัดจริยธรรมร้ายแรง ในคดีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีว่า เรื่องจริยธรรมถือเป็นเรื่องยากเพราะเป็นนามธรรม ในพรรคร่วมรัฐบาลชื่นชมการทำงานของนายเศรษฐาเป็นคนขยัน แต่ในภาคการเมืองท่านอาจยังไม่เต็มร้อย เพราะมาจากภาคธุรกิจ พยายามรับฟังว่าเหตุการณ์ทำไมถึงรุนแรงขนาดนี้ ยืนยันว่า 1 ปีที่ของนายเศรษฐาไม่ได้คิดเรื่องคอร์รัปชันหรือสิ่งไม่ดีต่อบ้านเมือง เมื่อถามว่าอดีตนายกฯของพรรค 3 คน ถูกตัดสิทธิไปแล้วจะวางเกมอย่างไรกับนายกฯคนที่ 4 ของพรรค พท.นายครูมานิตย์ตอบว่า จากที่คุยกันถึงเวลาที่ต้องมาสังคายนารัฐธรรมนูญ โดยดูว่าอะไรควรแก้หรือไม่ควรแก้ เพราะจู่ๆตัวแทนของประชาชนโดนทำลาย ใช้นามธรรมถือว่ารุนแรงไป อีกทั้งพรรคประชาชนคิดเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

สุทิน คลังแสง
สุทิน คลังแสง

“สุทิน” ทิ้งทวนประชุมสภา กห.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงกลาโหมว่า ในวันที่ 16 ส.ค.ที่มีประชุมสภาฯเพื่อโหวตนายกฯคนที่ 31 นายสุทิน คลังแสง รักษาการ รมว.กลาโหม มีกำหนดการเป็นประชุมสภากลาโหม พิจารณาวาระเห็นชอบ ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม มีสาระสำคัญเรื่องการสกัดกั้นการทำรัฐประหารให้อำนาจนายกฯโดยความเห็นชอบ ครม.สั่งพักราชการทหารที่คิดรัฐประหาร และร่าง พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร ในเวลา 08.30 น.โดยมีพล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร.พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ.เข้าร่วม ส่วนพล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุดกับ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.ติดภารกิจส่งตัวแทนเข้าร่วมหารือ

“เรืองไกร” ขยี้ยื่น ป.ป.ช.ฟันซ้ำ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร.กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผ่านไปรษณีย์อีเอ็มเอสในวันที่ 16 ส.ค.ให้พิจารณาส่งเรื่องต่อศาลฎีกา เอาผิดนายเศรษฐาข้อหาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234(1) หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นนายกฯ สิ้นสุดลง เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง ต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันต่อ ป.ป.ช.ขอให้ ป.ป.ช.คัดสำเนาคำวินิจฉัยมาเป็นสำนวนการไต่สวนเสนอให้ศาลฎีกาเอาผิดต่อไป

แจง “ชัยเกษม” ไม่เกี่ยวคดี “พิชิต”

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ร่วมกับนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษก อสส.ร่วมกันแถลงกรณีการเสนอข่าวอดีต อสส.สั่งไม่ฟ้องนายพิชิต ชื่นบาน ข้อหาให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำ อันมิชอบด้วยหน้าที่เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2551 ในท้องที่เขตพระนคร กทม.คือนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ที่เป็นอดีต อสส.ในขณะนั้น โดยนายประยุทธกล่าวว่า ข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนไม่ถูกต้องไม่เป็นความจริง ลำดับขั้นตอน และการสั่งคดีเมื่อเดือน ธ.ค.2551 นั้น พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทุกคน พนักงานอัยการคณะทำงานตรวจสำนวนเห็นพ้องกับพนักงานสอบสวน เสนอต่อนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา พิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่ฟ้อง เห็นได้โดยชัดเจนว่า นายชัยเกษมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น รวมถึง พล.ต.ท.ชาตรี สุนทรศร ผู้ช่วย ผบ.ตร.ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร.ขณะนั้น มีคำสั่งไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องด้วย

นร.-นศ.ประณามรัฐประหารเงียบ

วันเดียวกัน เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษา และภาคประชาสังคม รวม 27 องค์กร อาทิ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย องค์การนักศึกษา ม.ธรรม ศาสตร์ สภานักศึกษา ม. ธรรมศาสตร์ สภานักศึกษา ม. มหิดล สโมสรนักศึกษารามาธิบดี สภานักศึกษา ม.รามคำแหง ฯลฯ ร่วมออกแถลงการณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลง โดยขอประณามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว เปรียบเสมือนเป็นการ “รัฐประหารเงียบ” และเรียกร้องว่าไม่ควรมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในประเทศไทย เพราะเจ้าของอำนาจที่แท้จริงคือ ประชาชนมิใช่องค์กรอิสระที่มาจากการแต่งตั้งโดยมิได้มีการยึดโยงใดๆกับประชาชนมาเป็นผู้ตัดสินว่าบุคคลใดต้องพ้นจากตำแหน่งหรือการสั่งยุบพรรคการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการก่อตั้งขึ้นมา

สหรัฐฯ ไม่กะพริบตาการเมืองไทย

ขณะที่นายเวแดนท์ พาเทล รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้น ตำแหน่งนายกฯ โดยระบุว่าสหรัฐฯรับทราบต่อกรณีคำตัดสินดังกล่าว รวมทั้งการพ้นตำแหน่งของ ครม.ไทยทั้งหมด สหรัฐฯเฝ้ารอและติดตามสถานการณ์ในไทย ไม่ใช่แค่การเลือกนายกฯ ไทยคนใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการถ่ายโอนอำนาจอย่างราบรื่นเช่นกัน พร้อมระบุว่า ความสัมพันธ์ฉันมิตรและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสหรัฐฯ กับไทยยังไม่เปลี่ยนแปลง เรามีประวัติศาสตร์ มีผลประโยชน์และค่านิยมร่วมกันระหว่างทั้ง 2 ชาติ

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่