"สมศักดิ์" ถกเงินฌาปนกิจ อสม. สั่งตั้งคณะกรรมการหาแนวทางขับเคลื่อน หลัง ธกส.ขยับวงเงินกู้ให้ อสม.รายละ 1 แสนบาท แต่ต้องการเพิ่ม-ดอกเบี้ยลดลง เล็งใช้เงินฌาปนกิจค้ำประกัน พร้อมให้ศึกษาดึงงบประมาณที่ประหยัดจากโรค NCDs มาช่วยเรื่องดอกเบี้ย
เมื่อวันที่ 13 ส.ค.67 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านแห่งประเทศไทย ผู้แทนธนาคาร ธกส. ผู้แทนธนาคารออมสิน ผู้แทนธนาคารกรุงศรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้หารือเรื่องเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม.
โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการนำเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม.ออกมาให้ใช้ได้บางส่วนนั้น ได้รับความสนใจจาก อสม.เป็นอย่างมาก ตนจึงจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจำนวน 1 ชุด โดยให้ นายวัชรพล เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่รณรงค์และตอบคำถามสังคมให้เกิดความชัดเจน ซึ่งตนอยากดูแล อสม.ที่ต้องทำงานอย่างหนัก ด้วยการให้มีเงินกู้ไปพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยที่ผ่านมาตนทราบว่า อสม.จำนวนมาก สะท้อนว่าเงินฌาปนกิจที่จะได้รับกรณีเสียชีวิต รายละประมาณ 540,000 บาท แต่ตัวเองไม่มีโอกาสได้ใช้เงิน จึงเสนอว่าอยากมีโอกาสได้ใช้เงินก้อนนี้ ตอนยังมีชีวิตอยู่
...
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีการให้ อสม.กู้ฉุกเฉิน รายละ 20,000 บาท เพื่อปลดหนี้นอกระบบ โดยได้รับความนิยมจาก อสม.เป็นจำนวนมาก แต่ตนมองว่า วงเงินกู้ยังน้อยไป จึงอยากให้มีการเพิ่มวงเงิน วันนี้จึงได้มีการหารือ และได้รับทราบความคืบหน้าว่า ธนาคาร ธกส.ได้คำนวนเงินกู้ให้ อสม.เพิ่มเป็นรายละ 100,000 บาท ซึ่งคำนวนจากค่าป่วยการเดือนละ 2,000 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ย 0.67% ต่อเดือน หรือ 8% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนไม่เกิน 10 ปี แต่ตนมองว่าดอกเบี้ยยังสูงอยู่ รวมถึงอยากให้วงเงินกู้เพิ่มมากขึ้น จึงจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อหาแนวทางการขับเคลื่อนเรื่องนี้ โดยเฉพาะการนำเงินฌาปนกิจมาค้ำประกันด้วย เพื่อเพิ่มวงเงินกู้
"เรื่องเงินกู้ดอกเบี้ยจะถูกนั้น ภาครัฐต้องเข้าไปช่วย แต่จะด้วยวิธีใดก็ขอให้คณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นไปหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก่อน แต่ผมยังมองเห็นว่างบประมาณที่ สปสช.ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น 30% ทุกปี กับการดูแลผู้ป่วยโรค NCDs หรือ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่เกิดจากพฤติกรรมการกิน ซึ่งถ้า อสม.ช่วยรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจและลดผู้ป่วยตรงนี้ได้ งบประมาณที่ลดลงไป จะสามารถนำมาช่วยเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ได้หรือไม่ ก็ขอให้ช่วยกันศึกษาหาแนวทางด้วย รวมถึงขอให้ช่วยดูว่า สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม.จะช่วยค้ำประกัน เพื่อให้ดอกเบี้ยถูกลงอีกได้หรือไม่ ส่วนการดึงเงินฌาปนกิจมาให้ใช้ก่อน หากคณะกรรมการหารือแนวทางชัดเจนแล้ว ก็ต้องให้ทายาทยินยอมด้วย เพราะเหมือนเป็นมรดกที่ต้องนำเงินฌาปนกิจบางส่วนไปใช้หนี้ธนาคารด้วย" รมว.สาธารณสุข กล่าว