พท.-ภท.เคลียร์ลงตัวตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 ยกเป็นโควตา ภท. พท.ไม่ส่งคนลงชิง “พิเชษฐ์” ไม่ขอลาออกโยกสลับอันดับ “วิสุทธิ์” ยัน พท.ไม่ห่วงกระแสตอบรับพรรคประชาชนพุ่ง รอดูตั้งรัฐบาลพรรคเดียวทำได้จริงหรือไม่ โอ่เงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตใกล้ถึงมือชาวบ้าน กระชากเรตติ้งดีขึ้นมาก “สรวงศ์” คาด 14 ส.ค. ยังเลือกรองประธานสภาฯไม่ได้ รอถกวิปรัฐบาลก่อน ดักคอพรรค ปชช.รู้มารยาทคงไม่เสนอคนลงแข่ง “ปชช.” โต้ตั้งสาขาพรรคครบ 4 ภาค “ภคมน” ท้า “หมอวรงค์” แน่จริงลงเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก “ศรายุทธิ์” จ่อส่งเอกสารจัดตั้งพรรคให้ กกต.รับรอง การันตี “โฟล์ค” คุณภาพคับแก้วทำงานแทน “หมออ๋อง” “เท้ง” ร่วมงานก้าวแคมป์ ชลบุรี เปิดรับสมาชิกใหม่คึกคัก นายกฯถกทีมท่องเที่ยวภูเก็ตรับมือไฮซีซัน ขันนอตเข้มงวดเพิ่มความปลอดภัย

พรรคเพื่อไทย (พท.) กับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตกลงกันได้ข้อสรุปการส่งคนไปดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ระบุตำแหน่งดังกล่าวเป็นโควตาของพรรค ภท.โดยพรรค พท.จะไม่ส่งคนลงแข่งขัน และไม่จำเป็นต้องสลับตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 กับรองประธานสภาฯคนที่ 2

วิสุทธิ์ ไชยณรุณ
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ

...

พท.ไม่สลับเก้าอี้รองประธานสภาฯ

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงโควตาตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ว่า โควตาดังกล่าวเป็นของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แต่ขณะนี้พรรค ภท.ยังไม่ได้แจ้งมาว่าจะให้ใครดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 พรรค พท.ไม่ได้ส่งใครไปชิงตำแหน่งนี้ และไม่จำเป็นต้องสลับตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 กับรองประธานสภาฯคนที่ 2 ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย เพราะนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 พรรคเพื่อไทย ไม่ขอสลับและไม่ขอลาออกจากตำแหน่ง ณ ตอนนี้โควตารองประธานสภาฯคนที่ 1 เป็นของพรรคภูมิใจไทย แต่ต้องรอการหารือวิปรัฐบาล ในวันที่ 13 ส.ค อีกครั้ง มั่นใจไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน การเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 หรือคนที่ 2 ไม่ต่างกัน เท่าเทียมกัน การทำงานใกล้เคียงกัน ต่างกันแค่งานที่อยู่ในความดูแลที่ขึ้นอยู่กับประธานสภาผู้แทนราษฎร จะมอบให้ใครดูแลงานด้านไหน ไม่มีการก้าวก่ายกันอยู่แล้ว เชื่อมั่นการทำงานจะเป็นไปด้วยความราบรื่น

ไม่ติดใจลดเก้าอี้ ปธ.กมธ.พรรค ปชช.

นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ส่วนการพิจารณาปรับโควตาตำแหน่งประธานกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร ภายหลังจากเสียง สส.ของพรรคประชาชนลดลง 5 เสียงนั้น ส่วนตัวเห็นว่าจำนวน สส.ของพรรคประชาชนที่หายไป 5 คน ลดลงแค่เล็กน้อย ดูแล้วคงยากที่จะให้มาสลับตำแหน่งกันใหม่ อัตราส่วนยังคงใกล้เคียงของเดิมอยู่ คงไม่ถึงขั้นมีผลกระทบให้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการสามัญของพรรคประชาชนต้องมาทบทวนกันใหม่ อย่างไรก็ตามเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของตนเท่านั้น จะต้องมาคุยกันในที่ประชุมวิปรัฐบาลวันที่ 13 ส.ค. ก่อน พรรคร่วมรัฐบาลอื่น อาจเห็นไม่เหมือนตนก็ได้ เราทำงานในนามพรรคร่วมรัฐบาล ต้องรับฟังความเห็นร่วมกัน

ไม่ห่วง ปชช.ได้เสียงตอบรับคึกคัก

นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ส่วนกรณีพรรคประชาชนมีผู้สมัครสมาชิกพรรคจำนวนมาก และสามารถระดมเงินบริจาคได้มากกว่า 20 ล้านบาท ในระยะเวลาดำเนินการเพียงไม่กี่วันนั้น พรรคเพื่อไทยไม่ได้รู้สึกหนักใจ เอฟซีของใครก็ย่อมสนับสนุนพรรคของตัวเองเป็นเรื่องปกติ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนโยบายพรรคจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนมากน้อยแค่ไหน การที่พรรคประชาชนประกาศความเชื่อมั่นจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวในการเลือกตั้งปี 2570 นั้น ก็ต้องดูถึงเวลาจะทำได้จริงหรือไม่ เหลือเวลาอีก 3 ปี สถานการณ์ในอนาคตคาดการณ์ไม่ได้อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง แต่พรรคเพื่อไทยมั่นใจในนโยบายและการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน จะทำให้ได้รับความเชื่อมั่นและเสียงตอบรับจากประชาชนในการเลือกตั้งสมัยหน้า โดยเฉพาะขณะนี้นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตใกล้จะแจกเงินถึงมือประชาชนในปลายปี ทำให้เสียงตอบรับของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยดีขึ้นมาก รวมถึงราคาพืชผลการเกษตรหลายอย่างก็ดีขึ้น ทำให้คะแนนพรรคเพื่อไทยกลับมาดีขึ้นอย่างมาก

คาด 14 ส.ค.ยังโหวตเลือกไม่ได้

นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ในวันที่ 14 ส.ค.ว่า คาดว่าน่าจะยังโหวตเลือกไม่ได้ ต้องคุยกับวิปรัฐบาลในวันที่ 13 ส.ค.ก่อน เบื้องต้นตามจำนวน สส.ควรเป็นของพรรค ภท. เมื่อถามว่า จะมีการปรับยกชุด หรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า ยังไม่สรุป แต่ตอนนี้หากตั้งรองประธานสภาฯคนที่ 1 มาเลยไม่มีอะไรเปลี่ยน แปลง แต่ต้องรอฟังความเห็นพรรคร่วมรัฐบาลก่อน จะเห็นเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนหากพรรคประชาชนส่งคนมาลงชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1ด้วยไม่กังวล ตอนนี้พรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้าน ตามมารยาทแล้วเขาคงไม่เสนอ แต่หากจะเสนอและยืนยันโหวต เราก็พร้อมเสมอ

รอคุย พปชร.ส่ง ลต.ซ่อมพิษณุโลก

นายสรวงศ์กล่าวว่า ส่วนการส่งคนลงเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 นั้น พรรคเพื่อไทยได้ถาม ไปยังพรรคพลังประชารัฐว่ามีความพร้อมหรือไม่เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐได้รับคะแนนเสียงเป็นพรรคอันดับ 2 ในพื้นที่ดังกล่าว คงต้องพูดคุยกัน เพราะยังไม่มีการเคาะวันสมัครรับเลือกตั้งจะเป็นเมื่อใด คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะได้คุยกัน ส่วนความมั่นใจจะส่งลงในนามพรรค เพื่อไทย หรือพลังประชารัฐ จะชิงเก้าอี้ สส.ได้นั้น เรามั่นใจ หากตัดสินใจจะส่งก็ต้องสู้เต็มที่ เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยสอบถามไปยังผู้สมัครที่เคยลงสมัครและได้พูดคุยกันแล้วว่าในพื้นที่พร้อมหรือไม่ พร้อมขนาดไหน แต่ยังไม่ได้คำตอบ

ภคมน หนุนอนันต์
ภคมน หนุนอนันต์

“ภคมน” โต้สาขาพรรคครบ 4 แห่ง

วันเดียวกัน น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชช.) กล่าวถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า พรรคไทยภักดีเตรียมยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบพรรคประชาชน เพราะมีสาขาพรรคไม่ครบ 4 ภาค เป็นระยะเวลาติดต่อกันเกิน 1 ปี เป็นเหตุให้พรรค ปชช. ต้องสิ้นสภาพ หรือยุบพรรค ไปว่า พรรค ปชช.มีสาขาพรรคครบทั้ง 4 ภาคคือ ภาคใต้ที่ จ.นครศรีธรรมราช ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.สกลนคร ภาคกลาง ที่ จ.ราชบุรี และภาคเหนือที่ จ.นครสวรรค์ ยืนยันว่าเรื่องการตั้งสาขาพรรคมีครบถ้วนตามกฎหมายกำหนดแน่นอน แต่ข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ของ กกต.อาจจะอัปเดตฐานข้อมูลในช่วงรอยต่อของการยกเลิกสาขา ครบวาระหรือตั้งสาขาใหม่ จึงทำให้การระบุสาขาพรรคไม่ครบถ้วน

ท้า “วรงค์” ลต.ซ่อมให้รู้หมู่หรือจ่า

“ขอฝากถึงคุณหมอวรงค์ว่า ได้รับข้อมูลอะไรมาอย่าเพิ่งรีบด่วนสรุปและตีฟูเป็นประเด็น แต่ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน มิเช่นนั้นก็จะเกิดสถานการณ์หน้าแตกดังที่เห็น เข้าใจว่าการแพ้เลือกตั้งซ้ำซากหลายสมัยอาจทำให้ นพ.วรงค์หงุดหงิด ดังนั้นในการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ขอเชิญชวนให้ นพ.วรงค์มาลงสมัครด้วย จะได้รู้ให้ชัดว่าประชาชนยังคงสนับสนุน นพ.วรงค์ อยู่หรือไม่ หรือชีวิตทางการเมืองของท่านนั้นอวสานไปนานแล้ว พรรคประชาชนขอเตือนด้วยความหวังดีว่า การจ้องแต่จะร้องยุบพรรคคนอื่นคือ วิถีของคนขี้แพ้ ที่ไม่สามารถชนะเลือกตั้งด้วยตัวเองได้ ขอให้ นพ.วรงค์เอาเวลาไปทำอย่างอื่นและใช้เวลาในการพัฒนาพรรคของตัวเองบ้าง น่าจะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่า

รอส่งรายงานให้ กกต.ฉะดูข้อมูลไม่อัปเดต

นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน (ปชช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ระบุมีหลักฐานเด็ดในการยื่นยุบพรรคประชาชน เนื่องจากมีสาขาพรรคไม่ครบ 4 ภาค เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 1 ปี ว่า เรื่องนี้ นพ.วรงค์คงไม่ได้อัปเดตข้อมูล ดูเพียงในเว็บไซต์ กกต. ที่ยังไม่ได้มีการอัปเดตข้อมูลตรงนี้ ยืนยันว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน มีการจัดตั้งสาขาพรรคครบทั้ง 4 ภาคแน่นอน เราจึงไม่ได้กังวลเรื่องนี้เลย ขั้นตอนเรื่องการเปลี่ยนชื่อพรรคและกรรมการบริหารพรรคหลังการประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 9 ส.ค. จากนี้จะจัดทำรายละเอียดการประชุมต่างๆ ทั้งเรื่องการเปลี่ยนชื่อ โลโก้ คณะกรรมการบริหาร และข้อบังคับพรรคให้ครบถ้วน เพื่อยื่นต่อ กกต.ในวันเปิดทำการวันแรก คือวันอังคารที่ 13 ส.ค. และเชื่อว่าการดำเนินการต่างๆ จะเป็นไปอย่างราบรื่น

การันตี “โฟล์ค” คุณภาพคับแก้ว

นายศรายุทธิ์กล่าวอีกว่า ส่วนการส่งคนลงสมัครเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก คณะกรรมการบริหารพรรค มีมติให้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.พิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่างลง และให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครดำเนินการสรรหา ตามข้อบังคับพรรคและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จากการเปิดรับสมัครนายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ หรือโฟล์ค เป็นผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยจะทำไพรมารีโหวตในวันที่ 12 ส.ค. “โฟล์ค” ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ มีอาชีพเป็นเจ้าของธุรกิจ และร่วมทำงานการเมืองกับพรรคมานาน ตั้งแต่อดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลมาตลอด โดยพรรคประชาชนมีความมั่นใจในอุดมการณ์และจุดยืนของโฟล์ค ณฐชนน เพราะมีความชัดเจนและทำงานใกล้ชิดกับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือหมออ๋อง โดยเฉพาะการดูแลงานพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนแทนหมออ๋อง ในช่วงที่หมออ๋องต้องรับหน้าที่รองประธานสภาฯ

แสวง บุญมี
แสวง บุญมี

“แสวง” ยันพรรคถิ่นกาขาวตั้งสาขาครบ

วันเดียวกัน นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึง กรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี จะยื่น กกต.ยุบพรรคประชาชน เนื่องจากพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน จัดตั้งสาขาพรรคไม่ครบ 4 สาขาว่า ตามกฎหมายพรรคการเมือง ทุกกิจกรรมของพรรคจะสมบูรณ์ทันทีเมื่อพรรคได้ดำเนินการ แต่เมื่อยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว หากพบว่า ดำเนินการไม่ถูกต้อง จะมีผลย้อนหลังให้การกระทำนั้นเสียไป กรณีการจัดตั้งสาขาพรรคของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลพบว่า 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้มีการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคส่วนที่ขาดอยู่จนครบ และระยะเวลาการจัดตั้งอยู่ภายใน 1 ปีที่กฎหมายกำหนด ขณะนี้จะส่งเรื่องมาให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบตามขั้นตอน เรื่องเพิ่งเสนอมาถึงสำนักงาน

รับข้อมูลยังไม่ขึ้นบนเว็บไซต์ กกต.

เลขาธิการ กกต.กล่าวอีกว่า โดยปกติการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคนายทะเบียนพรรคการเมืองจะส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์อยู่แล้ว เมื่อประชุมแล้วเสร็จกิจกรรมนั้นจะมีผลทางกฎหมายทันที แต่ขั้นตอนทางกฎหมายกำหนดว่า ต้องส่งนายทะเบียนพรรคการเมืองรับทราบ นายทะเบียนจะตรวจสอบก่อนว่า การจัดตั้งในเขตพื้นที่ถูกต้องหรือไม่ สมาชิกมาประชุมครบตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ถ้าการประชุมถูกต้องไม่มีปัญหา นายทะเบียนก็รับทราบ แต่ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่ถูกต้อง จะมีผลให้การประชุมนั้นเสียไป ต้องไปดำเนินการให้ถูกต้องใหม่ ตราบใดที่นายทะเบียนพรรคการเมืองยังไม่รับทราบจะยังไม่มีการลงในระบบฐานข้อมูลของสำนักงาน จึงทำให้ ณ ปัจจุบันข้อมูลนี้ยังไม่ปรากฏบนเว็บไซต์ของ กกต. ทราบว่าขณะนี้พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล กำลังมีการดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคอีกหนึ่งแห่งที่ จ.พิษณุโลก ถ้ามีการประชุมจัดตั้งแล้วเสร็จ จะดำเนินการขั้นตอนเรื่องการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างได้ทันที

“เท้ง” จัดก้าวแคมป์ชลบุรีรับสมาชิกคึก

เมื่อเวลา 17.00 น. ที่บริเวณ We Camping Khao Kheow ชลบุรี หมู่ 11 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พรรคประชาชน ได้จัดกิจกรรม “ก้าวแคมป์” เป็นครั้งแรกในบรรยากาศ Camping ให้ผู้ร่วมงานเป็นคนพูดนำเสนอประเด็นปัญหาต่างๆ ให้ สส.รับฟัง พร้อมเปิดให้พบปะกับกรรมการบริหารพรรคและ สส.รับเชิญมากมาย อาทิ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ น.ส.รักชนก ศรีนอก น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ นายชยพล สท้อนดี พร้อมทั้ง สส.ชลุบรี อดีตพรรค ก.ก. ภายในงานเปิดรับสมัครสมาชิกเข้าร่วมกลุ่มพรรคมีค่าใช้จ่าย 500 บาท พร้อมจำหน่ายเสื้อของที่ระลึกของกลุ่มพรรคประชาชนให้กับประชาชนที่เข้าร่วมงาน โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หรือ “เท้ง” หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวต้อนรับประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวอย่างเป็นกันเอง จากนั้นให้ประชาชนขึ้นพูดบนเวทีกล่าวถึงปัญหาที่พบเจอ และปัญหาการเมืองที่เห็นอยู่ในตอนนี้จะมีทางออกเป็นอย่างไร โดยแกนนำ และ สส.ของพรรคประชาชนจะนำไปขับเคลื่อนหาทางแก้ไขให้เป็นรูปธรรมต่อไป

“พิธา” ช่วยหาเสียงให้ “ชัยรัตน์”

เมื่อเวลา 14.45 น. ที่ตลาดนัดคลองหมาเน่า ตลาดเกษตร ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่เพื่อช่วยนายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ ผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี หาเสียงเลือกตั้ง โดยมีนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชนและนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ร่วมลงพื้นที่ด้วย ทันทีที่นายพิธามาถึงได้แวะทักทายพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่กำลังเดินทางกลับบ้าน พร้อมกล่าวว่า “ตอนนี้ผมโดนตัดสิทธิแล้ว ตอนนี้ของที่ทุกคนนำมามอบให้เกิน 3,000 บาท ผมเอากลับบ้านได้แล้ว เพราะโดนตัดสิทธิแล้ว” ก่อนที่จะข้ามมาฝั่งตลาด บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ได้แห่กันออกมาต้อนรับให้กำลังใจและรุมขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ส่วนใหญ่ออกปากชมว่า “ตัวจริงนายพิธาหล่อมาก หล่อกว่าในจอ”

แม่ค้ากรี๊ดตลาดแตกผงะถูกเด็กกอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินรณรงค์หาเสียงช่วยนายชัยรัตน์ภายในตลาด แม่ค้าร้านขายผลไม้ ได้นำส้ม 2 ลูกมามอบให้ โดยกล่าวว่า เป็นสื่อแทนสัญลักษณ์ของพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน รวมถึงมีประชาชนทั้งเด็กเยาวชนและผู้ใหญ่ มาร่วมขอถ่ายรูปตลอดเส้นทางที่เดินในตลาดสด นายพิธากล่าวกับประชาชนว่าให้ถ่ายรูปชู 1 นิ้ว เพื่อเลือกหมายเลข 1 แทนการชู 2 นิ้ว ช่วงหนึ่งได้มีเด็กผู้หญิง 2 คนเดินเข้ามาขอกอด นายพิธาถึงกับออกอาการตกใจ พร้อมยกมือขึ้นกล่าวว่า “น้องเค้ากอดผมได้ แต่ผมกอดเค้าไม่ได้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี ครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น มีกระแสตอบรับดี บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับนายพิธาอยู่แล้ว เมื่อมาถึงหลายคนต่างส่งเสียงกรี๊ด ส่งเสียงเชียร์สนับสนุน บางคนถึงกับเอ่ยปาก “ฉันรักเขาน่ะ” ช่วงท้ายนายพิธาเดินผ่านเด็กๆกลุ่มหนึ่ง อายุ 5-6 ปี เด็กๆได้ขอถ่ายรูปด้วย โดยนายพิธาได้ฝากเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี ที่พรรคประชาชนสนับสนุนฝากไปให้พ่อแม่ ผู้ปกครองที่บ้านด้วย โดยกล่าวว่า มีนโยบายการศึกษาของน้องๆด้วย

ทสท.ซัด “อ้วน” ถกด่วนดัน ก.ม.กาสิโน

นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เรียกประชุมด่วนพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อผลักดันกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทั้งที่เป็นวันหยุดว่า แม้รัฐมนตรีจะกล่าวว่าเป็นการประชุมที่วางไว้ เพราะเจ้าตัวติดภารกิจไปต่างประเทศในวันที่ 13 สิงหาคม และเป็นการประชุมในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล แต่การใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ประชุมอย่างรีบเร่ง จึงถือว่าเป็นการประชุมในฐานะ ครม. ซึ่งหากดูสถานการณ์ในเวลานี้ ตนไม่เข้าใจว่า ตอนนี้ชาวบ้านต่างเผชิญปัญหาสินค้าราคาแพงทั้งแผ่นดิน แถมยังเจอปัญหาด้านการทำมาหากินที่คนต่างประเทศเข้ามาแย่งตลาดในเมืองไทย ทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนได้รับผลกระทบโดยตรง แต่รัฐมนตรีกลับเปิดทำเนียบรัฐบาลผลักดันกาสิโน ที่ประเทศได้ค่าใบอนุญาตแค่ปีละพันล้าน แถมประชาชนคนไทยก็ยังไม่มั่นใจด้วยว่าจะเจอปัญหาสังคมอื่นๆตามมา จึงไม่เข้าใจว่ารัฐบาลเพื่อไทยใช้อะไรคิด หรือเป็นความคิดของรองนายกฯเพียงคนเดียว

ชี้คนสงสัยผลประโยชน์โจราธิปไตย

นายปริเยศกล่าวต่อว่า เนื่องจากภาคสังคมและการบังคับใช้กฎหมายของประเทศไทยยังมีปัญหาอย่างมาก รวมทั้งยังมีความเสี่ยงด้านทุนสีเทาอย่างหนักและยังไม่สามารถควบคุมได้ในขณะนี้ ขณะที่รัฐบาลกำลังจะใช้ระบบการให้สัมปทานแบบเป็นรายๆ ยาวนานถึง 30 ปี ที่ประเทศอาจได้ประโยชน์น้อยมาก ราวปีละพันล้านจากใบอนุญาตประกอบการ ถึงแม้จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น สถานที่รองรับการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่เห็นความแน่ชัดว่าจะบริหารจัดการอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่แปลกที่ภาคประชาชนเตรียมขับเคลื่อน แถมยังใช้คำว่า อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ เพราะเขามีความเชื่อว่าอาจมีผลประโยชน์หลายอย่างที่อาจแอบแฝงซ่อนอยู่หรือไม่ และเงื่อนไขของสถานบันเทิงใน 30 ปีตามกฎหมายนี้ อาจถูกตั้งข้อสงสัยว่ากลายเป็นผลประโยชน์คอมเพล็กซ์ ในสังคมโจราธิปไตยก็เป็นได้

วันชัย สอนศิริ
วันชัย สอนศิริ

“วันชัย” สะกิด ปชช.อย่าติดกับ 14 ล้านเสียง

นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. กล่าวว่า ยอมรับประเมินผิด ตอนแรกคิดว่าจะไม่ยุบพรรคก้าวไกล แต่สุดท้ายยุบ 9 ต่อ 0 จากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ฟันธงพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์ล้มล้างและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แปลว่าจะมีอุดมการณ์อย่างไร หรือความคิดก้าวหน้าขนาดไหน จะทำตัวล้มล้างหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไม่ได้ พฤติการณ์ดังกล่าวคนไทยไม่ยอมรับ เวลานี้ไม่ใช่เวลามาเปลี่ยนแปลงอะไร ประเทศนี้มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ คน 14 ล้านเสียงต้องการให้ไปเปลี่ยนแปลง ให้เกิดความเป็นธรรม กินดีอยู่ดี ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ ไม่ได้หมายความว่า 14 ล้านเสียงต้องการให้ไปเซาะกร่อนบ่อนทำลาย จาบจ้วง ล่วงละเมิด อย่าติดกับ 14 ล้านเสียงให้มาทำอะไรก็ได้ เชื่อว่าไม่ว่าจะตั้งพรรคไหน แต่ถ้ามีพฤติกรรมจาบจ้วง ล่วงละเมิด หมิ่นสถาบัน วันนั้นจะโดนอีกแบบวันนี้

“ลุงป้อม” ชื่นมื่นเบิร์ธเดย์ 79 ปี

เมื่อเวลา 06.00 น. ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สวมชุดวอร์มและเสื้อแจ็กเก็ตสีชมพูสดใส ต้อนรับบรรดาคนสนิทเข้าอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 79 ปีวันที่ 11 ส.ค. หลังจากช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร เดินทางไปทำบุญวันเกิดที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต รมว.มหาดไทย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ อดีตประธานที่ปรึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานวุฒิสภา รวมถึงสมาชิกพรรค อาทิ นายวัน อยู่บำรุง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นายชวน ชูจันทร์ และอดีตสมาชิกวุฒิสภาหลายคน โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตร ยังได้ออกมานั่งร่วมโต๊ะอาหารกับ พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง

ขอช่วยกันทุ่มเททำงานเพื่อบ้านเมือง

โดยส่วนใหญ่อวยพรขอให้ พล.อ.ประวิตร มีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง เป็นหลักชัย ให้บ้านเมือง มีความสงบสุข ร่มเย็น เจริญรุ่งเรือง ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ได้ขอให้ช่วยกันทุ่มเททำงานเพื่อบ้านเมืองและประชาชนสำคัญที่สุด ต้องช่วยกันปกป้อง เทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ได้มอบเป็นผ้าห่มลายไก่ และผ้าพันคอลายไก่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ปีเกิดของ พล.อ.ประวิตร ให้กับผู้มาร่วมงาน โดย พล.อ.ประวิตร งดให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ขณะที่กรรมการบริหารพรรค สส.พรรค พปชร.เข้าอวยพรก่อนหน้านี้แล้ว

“ทักษิณ” ครึกครื้นรียูเนียน ตท.10

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันกับเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 ครบ 57 ปี ที่กรมช่างทหารอากาศ บางซื่อ กทม. นอกจากเป็นการพบปะเพื่อนเก่าแล้ว ยังถือโอกาสฉลองวันเกิดย้อนหลังให้นายทักษิณด้วย ภายในงานมีการร่วมร้องเพลง “คำสัญญา” บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีเพื่อนร่วมรุ่นคนดัง อาทิ พล.อ.อ. สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม พล.อ.ทวนชัย พันธุ์เพิ่มศิริ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เป็นต้น โดยนายทักษิณกล่าวในงานว่า พวกเรายังคึกคักเหมือนเดิม แม้จะเกษียณไปแล้ว แต่ดีใจที่มาเจอกัน เราน่าจะเจอกันบ่อยๆ ใครว่างก็มา ไม่ว่างก็ไม่เป็นไร เพราะการเจอกันทำให้กระปรี้กระเปร่า และหนุ่มขึ้น ทำให้นึกถึงชีวิตวัยเด็ก ไม่เป็นอัลไซเมอร์แน่นอน

ร่วมพระราชทานเพลิงศพ “นพคุณ”

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่วัดป่าแพ่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายทักษิณ ได้เดินทางร่วมเป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพนายนพคุณ รัฐผไท อดีตสส.เชียงใหม่ หลายสมัยตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวนายทักษิณ พร้อมด้วย สส.พรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายก รัฐมนตรีฝ่ายการเมือง

นายกฯโชว์หมู่บ้านมวยไทยภูเก็ต

เมื่อเวลา 08.43 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ธุรกิจที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมและธุรกิจเกี่ยวกับ martial arts ในภูเก็ตมีค่ายมวยกว่า 300 แห่ง ทำให้รู้ว่าที่ภูเก็ตมี Muay Thai Village อย่างที่ตั้งอยู่ในซอยตาเอียด ต.ฉลอง มีค่ายมวยหลายสิบค่าย อย่างค่ายมวยไทเกอร์ที่โด่งดังไปทั่วโลก 1 ปีที่ผ่านมามีมาเรียนกว่า 8 หมื่นคน มี 12 เวที จัดการแข่งขัน เรียนชกมวยคอร์สเริ่มต้นก็ 15 วันแล้ว และมีคอร์ส 1 เดือน จนไปถึงหลายเดือน บางทีเรียนกันทั้งครอบครัวทำให้เราได้นักท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาว ตอบโจทย์สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวที่คุ้มค่ากับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เราต้องลงทุนไป

อยากเห็นฝรั่งปิดซอยเรียนแม่ไม้มวยไทย

“ขณะที่ชาวบ้านปรับเปลี่ยนบ้านตัวเองเป็นที่พักอาศัย มีร้านอาหาร ร้านขายของ ร้านซักผ้า เกิดกิจกรรมเศรษฐกิจระดับรากฝอย กระจายรายได้ลงสู่ชุมชม สินค้าค่ายมวยเป็นที่นิยม เช่น กางเกงมวย เสื้อชื่อค่ายมวย ประเจียดคล้องคอ ประเจียดรัดแขน และมงคลประเจียด (ที่คาดหัว) ล้วนเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศ ทำเงินมหาศาล เรียนจบแล้วมีเวทีให้ขึ้นชก ขายบัตรเข้าชม นักมวยอาชีพที่เลิกชก ได้ทำหน้าที่ครูมวยสืบสานศิลปะการต่อสู้ของไทยอย่างมีศักดิ์ศรีและมีรายได้ เรามองมวยไทยเป็นหนึ่งใน Mix martial arts มีโอกาสขยายเป็นธุรกิจท่องเที่ยว กีฬา แฟชั่น เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาวิทยาศาสตร์การกีฬาในประเทศไทย คือห่วงโซ่ทางธุรกิจที่จะสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้ผู้คนได้กว้างขวาง อยากให้ทั้ง ฝรั่ง จีน แขก ไทย มาปิดซอยเรียนต่อยมวยที่ไทย” นายกฯระบุ

ชื่นชมจับกุมขนยาไอซ์ข้ามชาติ

ต่อมาเวลา 16.15 น. นายเศรษฐา ทวีตข้อความผ่าน X ว่า ได้รับรายงานจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดว่าได้ปิดล้อมจับกุมขบวนการขนยาไอซ์ข้ามชาติได้ผู้ต้องหาจำนวน 9 ราย ขณะกำลังขนยาเสพติดจากรถกระบะตู้ทึบลงเรือสปีดโบ๊ต ที่รีสอร์ตเกาะนกใหญ่ ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ชื่นชมการปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์และขวัญกำลังใจของกำลังพลทุกท่าน

สั่งเช็กยิบสัญญาณแก๊งคอลเซ็นเตอร์

จากนั้นเวลา 17.12 น. นายเศรษฐา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าพี่น้องประชาชนจำนวนมากเดือดร้อนและเจ็บปวด เพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และรัฐบาลก็พยายามทุกวิถีทาง เพื่อจะป้องกันปราบปรามผู้กระทำความผิดเหล่านี้ให้ได้ และเมื่อวันที่ 10 ส.ค. รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ลงพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม และจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี บริเวณด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ตรวจการบ้านโดยสุ่มตรวจสอบเสาสัญญาณของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตจุดที่มีความเสี่ยงที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานอยู่บริเวณชายแดน ลักลอบใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต แม้จะยังไม่พบสายที่ผิดกฎหมายแต่ได้สั่งการกำชับให้ กสทช.และตำรวจในพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง พร้อมรายงานความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอด้วย

เรียกถกเตรียมรับ นทท.ไฮซีซัน

เย็นวันเดียวกัน ที่ท่าอากาศยานภูเก็ต จ.ภูเก็ต นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ใช้ช่วงเวลาวันหยุดพักผ่อนที่ จ.ภูเก็ต เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซันเดือน ก.ย.-ก.พ.โดยมีตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจน้ำ กองทัพเรือ ผวจ.ภูเก็ต บริษัทการท่าอากาศยาน จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานความมั่นคง เข้าร่วม

ขันนอตเข้มเพิ่มความปลอดภัย

ต่อมานายกฯโพสต์เฟซบุ๊กว่า ช่วงนี้นักท่องเที่ยวที่ภูเก็ตเพิ่มจากปี 62 กว่าเท่าตัวและคาดว่าจะเพิ่มมากกว่า 1.2 เท่าช่วงไฮซีซันที่กำลังจะมาถึงนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมและหาแนวทางป้องกันอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว ทั้งการเพิ่มอาสาสมัครชาติต่างๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ การท่องเที่ยวทางเรือ และการเตรียมความพร้อมการให้ความช่วยเหลือกรณีมีผู้ประสบภัย การเพิ่มความรวดเร็วในการลำเลียงกระเป๋าของผู้โดยสารที่สนามบิน รวมไปถึงเพิ่มความเข้มงวดความปลอดภัยของสถานบริการที่ตอนนี้เปิดถึงตี 4 และการตรวจตราประชากรแฝงที่เข้ามาทำงานใน จ.ภูเก็ต รวมถึงนักท่องเที่ยวที่อยู่แบบ long stay ด้วย

ชัย วัชรงค์
ชัย วัชรงค์

รบ.ปลื้มการค้าชายแดนครึ่งปีแรกบวก

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ดำเนินนโยบายระหว่างประเทศด้วยความเป็นมิตร ส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกันในทุกระดับ เพื่อเพิ่มตัวเลขมูลค่าการค้าชายแดน-ผ่านแดน สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์การค้าอย่างใกล้ชิด โดยช่วง 6 เดือนแรกปี 67 อยู่ในแดนบวก มีมูลค่าการค้ารวม 912,283 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออก 534,316 ล้านบาท ส่วนมูลค่าการนำเข้าของไทยอยู่ที่ 377,968 ล้านบาท โดยที่ไทยได้ดุลการค้า 156,348 ล้านบาท ทั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นโอกาสกระจายรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่ และเชื่อว่าเป็นตลาดที่สำคัญของการส่งออกสินค้าของไทย พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาต่อยอด เพิ่มพูนประโยชน์ทางด้านการค้าระหว่างประเทศกับเพื่อนบ้าน และประเทศคู่ค้าที่สำคัญ

คนไทยโฟกัสยุบ ก.ก.–แจกเงินหมื่น

วันเดียวกัน สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่องสถานการณ์การเมืองไทยวันนี้ โดยสอบถามความเห็นกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,147 คน ระหว่างวันที่ 7-9 ส.ค.67 โดยพบว่าประชาชนสนใจข่าวการเมืองช่วงนี้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 43.42 สนใจเหมือนเดิม ร้อยละ 30.43 และสนใจลดลง ร้อยละ 26.15 สำหรับข่าวการเมืองที่ประชาชนสนใจมากที่สุดคือ ยุบพรรคก้าวไกล ร้อยละ 75.65 เงินดิจิทัลวอลเล็ต ร้อยละ 66.49 นโยบายเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาปากท้องของรัฐบาลร้อยละ 54.71

ชี้การเมืองแย่ลง-ไม่เชื่อมั่นรัฐบาล

เมื่อถามว่าประชาชนสนใจคิดอย่างไรต่อสถานการณ์การเมืองไทยวันนี้เทียบกับช่วงที่ผ่านมาพบว่า เสียงส่วนใหญ่คิดว่าแย่ลง ร้อยละ 67.57 เหมือนเดิม ร้อยละ 26.07 ดีขึ้น ร้อยละ 6.36 ส่วนประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อการทำงานของรัฐบาลเศรษฐามากน้อยเพียงใด พบว่าไม่ค่อยเชื่อมั่น ร้อยละ 63.73 ค่อนข้างเชื่อมั่น ร้อยละ 36.27 ส่วนความเห็นต่อข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี พบว่าควรปรับร้อยละ 55.62 ปรับหรือไม่ปรับก็ได้ ร้อยละ 35.48 ไม่ควรปรับ ร้อยละ 8.90 ส่วนประชาชนคิดว่าทิศทางการเมืองไทยต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร พบว่า คิดว่าแย่ลง ร้อยละ 68.44 เหมือนเดิมร้อยละ 23.89 และดีขึ้น ร้อยละ7.67

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่