เกจ์วัดแผ่นดินไหวทางการเมืองระดับ 8 แมกนิจูด อาฟเตอร์ช็อกสั่นสะเทือนถึงจุดที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาและสถานกงสุลในประเทศไทย ร่อนแถลงการณ์โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ พร้อมๆกับสหภาพยุโรป (อียู) เคลื่อนไหว ชาติตะวันตกแสดงจุดยืนไม่สบายใจ

สัญญาณแนวร่วมเสรีประชาธิปไตย แรงเสียดทานนานาชาติมาเต็ม

ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่จะพัฒนาการต่อไปถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจ การทำพันธสัญญาในเวทีสากล เครดิตของประเทศไทยในเวทีโลก

เรื่องของกิจการภายใน ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ถึงแรงบีบภายนอก

โดยปฏิกิริยาแรงกระเพื่อมจากมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรคก้าวไกล พร้อมตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค

จากการนำเสนอนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในการหาเสียงเลือกตั้ง สส. เข้าข่ายการ กระทำล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

จับแกนนำทีมเด็กดองเค็ม ล็อกโทษแบนทางการเมืองยาว 10 ปี

ไล่ตั้งแต่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายชัยธวัช ตุลาธน นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายปดิพัทธ์ สันติภาดา นายสมชาย ฝั่งชลจิตร นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล นายอภิชาติ ศิริสุนทร น.ส.เบญจา แสงจันทร์ นายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ นายณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ และนายสุเทพ อู่อ้น

พรรคก้าวไกลโดนล้างกระดานน้ำสอง ต่อจากพรรคอนาคตใหม่

...

ไม่เซอร์ไพรส์ ไม่เหนือการคาดหมาย ไม่น่าแปลกใจ แต่ไม่น่าเป็นเรื่องปกติในมุมมองของฝ่ายนิยมประชาธิปไตยเสรี

พรรคการเมืองเกิดยาก ยุบง่าย สไตล์ไทยแลนด์โอนลี่

และก็เหมือนจะรู้คำตอบดี ประเมินจากการเตรียมแผนเผชิญเหตุ แผนหนึ่ง แผนสอง แผนสาม ทีมเด็กรุ่นใหม่เตรียมพร้อมล่วงหน้า เพราะมีประสบการณ์มาแล้วจากการโดนล้างกระดานน้ำแรก คิวพรรคอนาคตใหม่

ไม่ยอมจำนนต่อชะตากรรม ยืดอก ตื่นรู้ ยักไหล่ เดินหน้าไปต่อ

ปรับเกมเชิด “พิธา” ยกระดับเป็น “ผู้นำจิตวิญญาณ” รับภารกิจ “ตัวเรียกแต้ม” เดินสายลงพื้นที่กวาดคะแนนแม่ยก พ่อยก ขวัญใจด้อมส้ม

โฉบไปโฉบมาอยู่วงนอก แต่คลุกวงใน กุมอำนาจจัดการในพรรค ระนาบเดียวกับ “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ “เดอะป๊อก” นายปิยบุตร แสงกนกกุล “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช

เสริมอิทธิฤทธิ์ “บอร์ดกองทัพส้ม” ประกบเป็น “โปลิตบูโร”

ส่งมอบธงแม่ทัพในสนามรบให้ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ รับไม้ต่อเป็นหัวหน้าพรรคแถวสาม

ขึ้นป้ายใหม่ในนาม “พรรคประชาชน”

โดยมี “ติ่ง” ศรายุทธิ์ ใจหลัก อดีตผู้อำนวยการพรรคก้าวไกล เพื่อนซี้ “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นั่งแท่นเลขาธิการพรรค

ส่วน “ดร.ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ กัปตันทีมเศรษฐกิจ ที่ถูกวางเป็น “แม่ทัพหญิง” แต่ติดบ่วงวิบากอยู่ใน 44 สส.ส่อโดนปมจริยธรรม เลยต้องสลับฉาก ไปอยู่ในตำแหน่งลอยไว้ก่อน

สภาพทีมเด็กรุ่นใหม่ดิ้นสู้เกมล้างกระดาน หนีด่านสกัด

ชูธง “ชุดอุดมการณ์” ขับเคลื่อนพลังแห่งความคับแค้นของฝ่ายเสรีนิยมในการกวาด สส.ในการเลือกตั้งรอบต่อไป ภายใต้ความมั่นอกมั่นใจในกระแสความนิยมการเมืองรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเปลี่ยนยี่ห้อ เปลี่ยนชื่อ แปลงพรรคยังไง

ก็เชื่อขนมกินได้ สีส้มเหมาส่วนแบ่งการตลาดไว้ในมือ

นั่นว่ากันในทางยาวๆ เด็กตั้งหลักไว ตั้งหลักทัน แต่ในระยะสั้น ต้องรีบสกัดเหตุการณ์ชุลมุนเฉพาะหน้า จากปรากฏการณ์ยุบพรรคก้าวไกลที่จะมีฝุ่นกระจาย

เพราะเป็นการปลดล็อกพันธนาการย้ายพรรคได้ตามเอกสิทธิ์ สส.

ก็อย่างที่ทีมเด็กรุ่นใหม่เรียนรู้จากประสบการณ์ พยายามเล่นเกมเร็ว เร่งเปิด “ค่ายประชาชน” เรียกระดม สส.ทั้ง 143 คน ลงชื่อย้ายเข้าบ้านใหม่กันพรึบพรับ

ปิดทางปิดจังหวะพวกจ้องฉวยโอกาสเด็กบ้านแตก ตั้งท่าไล่กวาดต้อน สส.อัดกล้วย 30-40 หวี ล่อ “งูเห่า” เลื้อยลงรูใหม่

หวังแบ่งตัวเลข สะสมแต้มแลกโปรโมชัน เพิ่มโควตารัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ที่โยงต่อเนื่องกับช็อตพลิกคว่ำพลิกหงาย ห่างกันแค่สัปดาห์เดียว วันที่ 14 สิงหาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน ต้องสิ้นสุดลงหรือไม่

จากปมผิดจริยธรรมร้ายแรง ในการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ทั้งที่เคยโดนศาลฎีกาสั่งขังคุก ต้องโทษในเรือนจำ สืบเนื่องจากคดี “ถุงขนม 2 ล้าน”

โดยการต่อสู้ทางข้อกฎหมาย เดาทางองค์คณะตุลาการลำบาก

แต่จากอาการเคลมสัญญาณบวกจากช็อตวีไอพีแห่ร่วมงานสำคัญของครอบครัวผู้นำ ทำให้พรรคเพื่อไทยตีปี๊บ เชื่อนายกฯรอดแน่

กองหนุน กองเชียร์ แห่กลองยาวเถิดเทิงฉลองได้ไปต่อ

และก็เป็นตัวนายเศรษฐาเองที่ถือโอกาสไหลตามน้ำ วางคิวล่วงหน้า ส่งสัญญาณนำร่อง ไม่ขัดข้องพรรคร่วมรัฐบาลทวงโควตา ขอขยับปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี โดยขอยกยอดไปว่ากันหลังเดือนสิงหาคม

นั่นหมายถึงหลังจากรู้ผลคดีปมตั้ง “รัฐมนตรีถุงขนม” แล้ว

แต่อย่างไรก็ดี ด้วยแนวโน้มสถานการณ์รัฐบาลผสมสูตรพิสดารของฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่เกาะเกี่ยวกันไว้ในท่ายาก ยึดโยงกันด้วยผลประโยชน์เกมอำนาจ

อาการปาดหน้า ปาดหลัง ฉวยเกมชิงความได้เปรียบกันทุกจังหวะ

เพื่อไทย ภูมิใจไทย ค่ายของลุง การเมืองเก่าแย่งกันชิงธงนำขบวนอำนาจอนุรักษ์นิยม เน้นการแบ่งเค้กลงตัวมาก่อนเรื่องตัวบุคคล ไม่สนอุดมการณ์ร่วม ไม่ได้ขึ้นกับสถานการณ์ว่าชะตาของนายกฯจะ “รอด” หรือ “ร่วง”

ยังไงก็หนีไม่พ้นต้องมีการปรับ ครม. ล้างกระดานกันใหม่

ณ จุดที่รอยปริแยกเลยจุด ฝืนกัดฟันกอดคอกันไป

โฟกัสไปที่ตำบลปะทะแตกหัก ชายแดนบ้านป่ารอยต่อฯ ที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ แสดงตัวแสดงตนเป็น “รัฐอิสระ” มาตั้งแต่ต้นในการจับขั้วรัฐบาล

“พี่ใหญ่” ไม่เคยโผล่ร่วมช็อตสังฆกรรมกับทีม “นายใหญ่”

อาการเขม่นจนถึงจุดต่อมหมั่นไส้อักเสบ แบบที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนาน ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ซัดเปรี้ยงแบบไม่กั๊ก

ชี้เป้าบอก “คนในป่าฯ” อยู่เบื้อง หลังเกมเจาะยางนายกฯ

และก็ย้อนศรด้วยการกดปุ่ม “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดหน้าแสดงตัวแสดงตนเป็น “ลูกกา” ที่ฝากแม่กาเหว่าฟักไข่ ตัวเป็นพลังประชารัฐแต่ใจอยู่กับเพื่อไทย

รอจังหวะ “กองกำลังผู้กอง” ปฏิบัติการหักดิบ “บิ๊กบราเธอร์”

สดๆร้อนๆปล่อยคิว “มาดามบิ๊กอาย” นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นั่งแท่นหัวหน้าพรรค “กล้าธรรม” รีโนเวตพรรคเศรษฐกิจไทย รอรับเกมชิ่งลุงบ้านป่าฯ

อาการ “ตะเกียงขาดไส้” นาทีนี้ “บิ๊กป้อม” เหมือนแสงริบหรี่ลงทุกขณะ และนั่นก็จะมีผลไปถึงการประคองน้องในไส้อย่าง “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ

โอกาสคนในป่าจะถูกโละจากวงอำนาจ ครม. ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ในขณะที่ค่ายรวมไทยสร้างชาติมรดกทางการเมืองของ “ลุงคนดี” จับสัญญาณจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ที่ไปร่วมงานสำคัญของครอบครัวผู้นำ โดยมีคนของค่าย รทสช.แห่ล้อมหน้าล้อมหลังประกบไม่ห่าง

ช็อตเด็ด “ลุงคนดี” ฝากฝัง สส.ลูกพรรคให้ช่วยหามแห่นายกฯ

เหมือนจะแน่นปึ้ก แต่จริงๆยังกลวงใน สภาพค่ายรวมไทยสร้างชาติที่เต็มไปด้วยร่องรอยร้าวเห็นได้จากระยะ 100 เมตร คนนอกไม่ต้องสังเกตยังมองเห็น

จากพฤติการณ์แปร่งๆที่มีลูกหาบตีปี๊บแห่ “เสี่ยขิง” นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ ลูกเลี้ยง “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขาใหญ่ปีก กปปส.

จองเก้าอี้รัฐมนตรี อ้างพ้นมลทินทางคดี พ้นข้อห้ามเรื่องคุณสมบัติแล้ว

แนวโน้มศึกชิงเก้าอี้รัฐมนตรี ต่อเนื่องมาจากช็อตงานวันครบรอบก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เห็นแค่ “เสี่ยตุ๋ย” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน กับก๊วน กปปส.ของ “ลุงกำนัน” ไปร่วมพิธีกรรม

ไร้เงาทีมสปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการของพรรค

สัญญาณตะลุมบอนแย่งมรดกลุงคนดี มีหวังต้องบี้กันถึงขั้นพรรคแตก.

"ทีมการเมือง"

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม